xs
xsm
sm
md
lg

ให้กำลังใจ "บิ๊กเต่า" กู้ศักดิ์ศรีตำรวจ หลัง ป.ป.ช.กอดคดี "โจ๊ก" เจออีก "บัญชีม้า" ลูกน้องพันเว็บพนันมินนี่ ทำบุญกฐินหลวง แถมด้วยข้อหาฟอกเงินเรียบโร้ย!! **“ยายปู”อยากเลี้ยงหลานเหมือน“ทักษิณ”เป๊ะ ... ก็มาดิคร้าบ จะรออะไร

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ข่าวปนคน คนปนข่าว


**ให้กำลังใจ "บิ๊กเต่า" กู้ศักดิ์ศรีตำรวจ หลัง ป.ป.ช.กอดคดี "โจ๊ก" เจออีก "บัญชีม้า" ลูกน้องพันเว็บพนันมินนี่ ทำบุญกฐินหลวง แถมด้วยข้อหาฟอกเงินเรียบโร้ย!!

ขณะที่สังคมอุดมดรามาแห่โหนกระแส "วันกะเทยผ่านศึก" สุขุมวิท11 เหตุวิวาทกันระหว่างสาวสองไทย vs ฟิลิปปินส์เมื่อวันก่อน โดยจากปากคำสาวไทยยืนยันว่า ศึกนี้เพื่อกู้ศักดิ์ศรีหลังถูกเหยียด

นี่ก็เรื่องศักดิ์ศรีเหมือนกัน หากเป็นศักดิ์ศรีของตำรวจที่แท้จริง ที่ต้องติดตามอย่ากระพริบตา

หลังจากที่บอร์ดป.ป.ช. มีมติรับพิจารณาคดีเว็บพนันออนไลน์มินนี่ โดยมี "โจ๊ก หวานเจี๊ยบ" พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. และพวกลูกน้องคนสนิทเป็นผู้ถูกกล่าวหารวมอยู่ด้วย ว่าเป็นอำนาจหน้าที่ของป.ป.ช ที่สามารถพิจารณารับคดีดังกล่าวเอง

งานนี้ สปอตไลต์ จึงส่องกลับไปที่ "บิ๊กเต่า" พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. ที่ประกาศไว้ว่าจะกอบกู้ศักดิ์ศรีตำรวจ ปัดกวาด "ตำรวจสีดำ" ออกไปให้ได้จากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ จะออกลูกท้อหรือไม่ ?

แน่นอนในส่วนนี้ก็คงจะต้องเป็นเรื่องของป.ป.ช. ก็ดำเนินการกันไป จะพิจารณาคดีเสร็จเมื่อไร ส่งฟ้องหรือไม่ส่งฟ้อง ก็ต้องรอดู ซึ่งก็อาจจะรวมถึงสาสมใจ "โจ๊ก หวานเจี๊ยบ"และพวก ที่ต้องการยื้อและซื้อเวลาอยู่แล้ว

แต่..ความจริงก็คือความจริงที่มีหนึ่งเดียว ที่หนีไม่พ้น

พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล
“บิ๊กเต่า”ให้สัมภาษณ์นอกจากจะไม่ท้อ ยังยืนยันพนักงานสอบสวนเอง ก็ไม่ได้เสียกำลังใจ

ตรงกันข้าม ที่ผ่านมาพนักงานสอบสวน บก.ปปป. ได้รวบรวมพยานหลักฐาน และหากป.ป.ช.ต้องการในส่วนของคดีเพิ่มเติม รวมทั้งสืบสวนสอบสวนขยายผลไปถึงเส้นทางการเงินของเว็บพนันออนไลน์ ที่อาจจะเกี่ยวข้องกับคดีดังกล่าว โดยมีนายตำรวจชั้นผู้ใหญ่เข้าไปเกี่ยวข้องอย่างไร ก็พร้อมเดินหน้า

แม้ทาง ป.ป.ช.จะรับสำนวนไปพิจารณาเอง ถือว่าพนักงานสอบสวน ไม่ได้เพลี่ยงพล้ำทางเทคนิค แต่เป็นอำนาจหน้าที่ของป.ป.ช. โดยตรง ที่สามารถรับทำคดีได้เอง

“พล.ต.ต.จรูญเกียรติ” ลั่นวาจาอีกว่า พยานหลักฐานที่มีเกี่ยวกับคดีนี้นั้นครบถ้วนที่จะสามารถเอาผิดกับผู้ถูกกล่าวหาได้ทั้งหมด

เรื่องนี้ตามที่ปรากฏเป็นข่าวไปแล้ว ประเด็นสำคัญอยู่ที่ "เส้นทางเงิน" ของเครือข่ายมินนี่ ที่เข้า "บัญชีม้า" ที่ พ.ต.ท.คริษฐ์ ปริยะเกตุ ลูกน้องคนสนิทของ “โจ๊ก” ใช้ทำธุรกรรมทางการเงินต่างๆ ให้คนในครอบครัวของ รอง ผบ.ตร.

พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว
ไม่เพียงแค่นั้น ยังมีคนไปขุดคุ้ยได้ว่า นายตำรวจใหญ่ที่ชอบตระเวนทำบุญ แก้เวร ตัดกรรม ใช้เงินของ "บัญชีม้า" จากลูกน้องโอนเงินให้วัดศาลาปูนวรวิหาร เพื่อร่วมทำบุญในพิธีถวายผ้าพระกฐินหลวง เมื่อปี 65

ทำบุญแล้วยังขอให้วัดออกใบอนุโมทนาในชื่อ “พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล” ซึ่งก็ต้องติดตามว่า ในปีต่อมา ได้ใช้เอาไปลดหย่อนภาษี หรือไม่ ?
แหม..ทำไปได้

อย่างที่บอก...ความจริงมีหนึ่งเดียว งานนี้ก็ต้องขอเป็นกำลังใจให้กับ “บิ๊กเต่า” และทีมพนักงานสอบสวน ลุยกันต่อไป ส่วนใครทำอะไรไว้ ก็โปรดรอรับกรรมกันเองละกัน

แววว่าล่าสุด คดีเพิ่มเติมในส่วนของ 5 นายตำรวจใหญ่ที่รวม "พล.ต.อ.สุรเชษฐ์" ที่เส้นทางเงินเกี่ยวข้องกับเว็บพนันโดนแจ้งความอีกหนึ่งคดี ฐาน “ร่วมกันฟอกเงิน” เรียบโร้ย!!...นะครับนะ

** “ยายปู”อยากเลี้ยงหลานเหมือน“ทักษิณ”เป๊ะ ... ก็มาดิคร้าบ จะรออะไร

ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร
หลังศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง พิพากษายกฟ้อง “น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร” อดีตนายกรัฐมนตรีกับพวก 6 คน ในคดีจัดอีเวนต์ Roadshow สร้างอนาคตประเทศไทย Thailand 2022 วงเงิน 240 ล้านบาท พร้อมถอนหมายจับยิ่งลักษณ์ ซึ่งหลบหนีอยู่ต่างประเทศ

ทำให้มีการคาดหมายกันว่า “ยิ่งลักษณ์” อาจจะเดินทางกลับประเทศไทย ตามรอย “ทักษิณ ชินวัตร” พี่ชาย แต่ก็มีคำถามว่าจะทำได้หรือไม่และ“ยิ่งลักษณ์” ยังมีคดีที่ยังค้างอยู่อีกกี่คดี

เมื่อย้อนกลับไปตรวจสอบคดีต่างๆ ของ“ยิ่งลักษณ์” อย่างเช่น คดีย้าย “ถวิล เปลี่ยนศรี” อดีต เลขาธิการสมช. ซึ่งศาลก็พิพากษายกฟ้องไปแล้ว เมื่อ 26 ธ.ค.66

ส่วนเรื่องร้องเรียนต่างๆ ในชั้นป.ป.ช. ที่เกี่ยวกับ ยิ่งลักษณ์ ก็ถูกตีตกไปหมดแล้วเช่นกัน

ตอนนี้จึงเหลือหมายจับเพียงคดีเดียว คือ คดีไม่ระงับยับยั้งความเสียหายในโครงการรับจำนำข้าว ซึ่งศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง พิพากษาจำคุก 5 ปี เมื่อ 27 ก.ย. 60 ซึ่งคดีนี้ “ยิ่งลักษณ์” เดินทางมาศาล เพื่อให้ถ้อยคำและฟังการไต่สวนทุกนัด แต่พอถึงวันนัดฟังคำพิพากษา กลับไม่มา ก่อนจะทราบข่าวว่าได้หลบหนีออกนอกประเทศไปแล้ว ทำให้ศาลฎีกาฯ พิพากษาลับหลังจำเลย พร้อมกับออกหมายจับ และอายุความยังคงมีอยู่จนถึงปัจจุบัน

 ทักษิณ ชินวัตร
แน่นอนว่าตอนนี้เรื่อง “ยิ่งลักษณ์” จะกลับไทย ตามรอย “ทักษิณ” จึงเป็นประเด็นร้อนทางการเมืองที่มีการพูดถึงกันมากที่สุด โดยเฉพาะคนในเครือข่าย ใกล้ชิดต่างออกมาแสดงความยินดี แสดงความเห็นกันแบบมีความหวัง

อย่างเช่น “อุ๊งอิ๊ง” แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรคเพื่อไทย บอกว่า ที่ผ่านมาก็สงสาร “อาปู” ที่เสียเวลาไปพอสมควร รวมถึงประเทศเองก็เสียเวลาด้วย ไม่งั้นคงจะมีอะไรดีขึ้นมากมาย ถ้าอาปู ยังเป็นนายกรัฐมนตรีในตอนนั้น

ส่วนเรื่อง การกลับประเทศไทยนั้น ตอนนี้ยังไม่มีการกำหนดวัน ว่าเป็นเมื่อไร แต่บ้านเรามีความหวัง พูดทุกปี เราต้องให้ความหวังซึ่งกันและกัน ยังไม่ได้คุยกันในรายละเอียด ซึ่งคงไม่เหมือนกันกับกรณีของคุณพ่อ เพราะเป็นคนละคนกัน แตค่ก็อยากให้กลับบ้านแบบสบายๆ เพราะไม่มีอะไรสบายเท่าที่บ้านอยู่แล้ว

“อาปู”บอกว่า หากได้กลับมาคงอยากช่วยเลี้ยงหลาน แต่ตนเองกังวลแค่ของเล่นที่ซื้อให้หลาน จะเยอะ เพราะเวลาไปหาที่ต่างประเทศ ก็ซื้อของเล่นให้หลานเยอะมาก เวลากลับมาหลานก็จะแฮปปี้ทุกคน...

แพทองธาร ชินวัตร
ขณะที่ “เสี่ยอ้วน” ภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรมว.พาณิชย์ บอกว่า “ขอให้กำลังใจนายกฯยิ่งลักษณ์ และอยากให้กลับ ถ้ากลับมาได้ก็จะเป็นเรื่องดี เพราะแฟนคลับ ประชาชนที่เคยเห็นผลงานของท่าน ก็อยากให้กลับมาโดยเร็ว ผมเองก็รอต้อนรับท่านอย่างเต็มที่เหมือนกัน ในฐานะอดีตนายกฯ ซึ่งเป็นที่เคารพรักของทุกคน และเป็นที่รักของผมด้วย” เสี่ยอ้วน หยอดทิ้งท้าย

ส่วน “พ.ต.อ. ทวีสอดส่อง” รมว.ยุติธรรม บอกว่าตอนนี้ "ยิ่งลักษณ์" ยังไม่ได้ขอพระราชทานอภัยโทษ แต่การขอพระราชทานอภัยโทษรายบุคคล สามารถทำได้ตามขั้นตอน โดยส่งเรื่องมาที่กระทรวงยุติธรรม

ส่วนที่คาดหวังกันว่า “ยิ่งลักษณ์” กลับมาตามรูปแบบ “ทักษิณโมเดล” คือไม่ต้องติดคุกแม้แต่วันเดียวจะเป็นไปได้หรือไม่ ซึ่ง “พ.ต.อ.ทวี” บอกว่า พ.ร.บ.กรมราชทัณฑ์ มีระเบียบปฏิบัติภายใต้กฎหมายอยู่แล้ว นอกจากนี้ความคืบหน้าการดำเนินการระเบียบคุมขังนอกเรือนจำฯ ล่าสุดได้รับรายงานว่า

คณะทำงานยังคงมีการประชุมกันอย่างต่อเนื่อง เพื่อดูในส่วนของรายละเอียดให้ครบถ้วนรอบด้าน ว่าจะมีผู้ต้องขังรายคดีใดบ้าง ที่มีเกณฑ์ได้รับการพิจารณา ก็อาจจะใช้เวลาสักระยะเพื่อจัดทำระเบียบให้เหมาะสมกับผู้ต้องราชทัณฑ์ทุกราย ยืนยันว่าระเบียบดังกล่าวนี้ ไม่ได้มีไว้เพื่อใครคนใดคนหนึ่ง

พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง
กรณีของ “ทักษิณ” ถูกศาลฎีกาฯตัดสิน 3 คดี รวมโทษ 10 ปี แต่ศาลฯนับโทษสุทธิ เหลือ 8 ปี ต่อมาได้รับพระรราชทานอภัยโทษเหลือจำคุกเพียง 1 ปี แล้วออกมารักษาตัวที่ รพ.ตำรวจ 6 เดือน ก่อนได้รับการพิจารณาพักโทษกลับไปอยู่บ้านจันทร์ส่องหล้า เนื่องจากมีอายุเกิน 70 ปี และมีโรคร้ายแรง

ขณะที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ถูกศาลตัดสินจำคุก 5 ปี ในคดีจำนำข้าว หากขอพระราชทานอภัยโทษ แล้วจะเหลือโทษจำคุกเท่าไร จากนั้นจะต้องทำอย่างไรจึงจะไม่ต้องเข้าไปรับโทษในเรือนจำ และได้รับการพักโทษกลับไปอยู่บ้าน

เพราะ “ยิ่งลักษณ์” ไม่ใช่ผู้สูงอายุตามเกณฑ์คือ 70 ปี ไม่ได้เป็นโรครุนแรง เรื้อรัง ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ แล้วจะใช้ข้ออ้างอะไรที่จะถูกคุมขังนอกเรือนจำ

อีกทั้งที่ผ่านมากรณี “ทักษิณ” นั้นถือว่า เจ้าหน้าที่รัฐและนักการเมือง ได้บิดเบือน ท้าทายกระบวนการยุติธรรม จนถูกร้องเรียนให้มีการตรวจสอบอยู่แล้ว หากมีกรณี “ยิ่งลักษณ์”ซ้ำรอยอีก วิกฤตศรัทธาต่อกระบวนการยุติธรรมก็จะรุนแรงยิ่งขึ้น

ก็อยากเห็นเหมือนกันว่า จะมีปาฏิหาริย์ทางกฎหมายอย่างไร ที่จะทำให้ “ยิ่งลักษณ์” กลับมาแล้วไม่ต้องติดคุกแม้แต่วันเดียว...รีบๆกลับมาเถอะ อยากเห็น!!


กำลังโหลดความคิดเห็น