ปธ.กมธ.มั่นคงฯ หลุดขำ หลังผู้การฯ ภูเก็ต บอกไม่มีมาเฟียต่างชาติ ย้ำ ทุกคนรู้ว่ามี ต้องจัดการให้ดี ทำผิดต้องรับโทษ-ผลักดันออกจากประเทศ ลั่น “ภูเก็ตเป็นสวรรค์ของเจ้าหน้าที่ แต่อาจเป็นตราบาปทั้งชีวิต หากจัดการไม่ดี”
วันนี้ (5 มี.ค.) นายรังสิมันต์ โรม ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ประธานคณะกรรมาธิการความมั่นคงแห่งรัฐ สภาผู้แทนราษฎร เปิดเผยถึงกรณีเหตุชาวต่างชาติก่อเหตุทำร้ายร่างกายแพทย์หญิงชาวไทย ว่า ได้มีโอกาสพูดคุยเรื่องนี้กับ ส.ส.ในพรรคก้าวไกลอยู่หลายครั้ง โดยมีความเห็นตรงกันว่า เรามีปัญหาเรื่องนักท่องเที่ยวก่อวิวาท หรือมีพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม ไม่เคารพกฎหมายบ้านเมืองของไทยอยู่หลายกรณี ซึ่งได้ประสานตำรวจอยู่หลายครั้งว่าจะหาทางแก้ปัญหาเรื่องนี้นี้อย่างไร
นายรังสิมันต์ กล่าวว่า ต้องยอมรับว่า ไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะตำรวจในพื้นที่มีจำกัด ส่วนเจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง (ตม.) ก็คงไม่รู้ล่วงหน้า พอเกิดเหตุแล้วก็มีการบันทึกวิดีโอที่ทำให้เห็นว่า ทำไมนักท่องเที่ยวที่เข้ามาระยะหลัง จึงมีปัญหาในลักษณะนี้อยู่มาก ไม่ค่อยเกรงกลัวกฎหมายบ้านเมือง ทำให้เราต้องกลับมาคุยกันว่าหากนักท่องเที่ยวรู้สึกว่าประเทศไทยมันง่าย เป็นประเทศที่จะทำอะไรก็ได้ ผมคิดว่าเราต้องกลับมารื้อระบบทั้งหมดว่าจะทำอย่างไร
เมื่อถามว่า ในกรณีนี้รัฐบาลควรให้วีซ่าผู้ก่อเหตุอยู่ประเทศไทยต่อ หรือควรผลักดันออกประเทศ นายรังสิมันต์ ระบุว่า หากมีปัญหาเกิดขึ้น ก็คงต้องผลักดันกลับประเทศ เพียงแต่ต้องพิจารณาว่าเขาทำผิดอะไร หากทำผิดกฎหมายก็ต้องดำเนินการตามกฎหมาย เมื่อเขาทำผิดกฎหมายก็อนุญาตให้เจ้าหน้าที่เพิกถอนวีซ่าและผลักดันออกไปได้ รวมถึงสามารถติดโทษแบนไม่ให้กลับเข้าประเทศมาอีก
”เราอยากได้นักท่องเที่ยวที่มีคุณภาพ ไม่ได้ต้องการปัญหาเพิ่ม เพราะเรามีปัญหาเดิมที่ยังแก้ไม่จบ การได้นักท่องเที่ยวที่มีคุณภาพคือสิ่งที่อยากให้เกิดมากที่สุด” นายรังสิมันต์ โรม กล่าว
ส่วนกรณีที่ท่านผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ตออกมาระบุยืนยันว่า ไม่พบชาวต่างชาติทำตัวเป็นมาเฟียในจังหวัดภูเก็ตนั้น นายรังสิมันต์ หยุดนิ่งและหัวเราะเบาๆ ก่อนกล่าวว่า ผมจะพูดอย่างไรดี เข้าใจว่า ท่านผู้การฯอาจจะจัดการปัญหาอะไรหลายๆอย่างในจังหวัดภูเก็ตไม่ได้ แต่อย่ามาพูดว่าไม่มีมาเฟียภูเก็ต เพราะทุกคนรู้ว่ามีแน่นอน รู้ว่าภูเก็ตมีเรื่องราวเกี่ยวกับมาเฟียมาโดยตลอด ต้องยอมรับว่า ภูเก็ตมีธุรกิจสีเทาเยอะ ซึ่งคนทั่วไปทำธุรกิจสีเทาไม่ได้ เมื่อมีธุรกิจสีเทาก็ต้องมีความเกี่ยวข้องกับผู้มีบารมีหรือผู้มีอิทธิพลบางอย่าง เช่น เรื่องที่ดินต่างๆ ที่มีการครอบครอง เมื่อนำมาพิจารณากันก็มีปัญหากันเยอะ มีข่าวออกมาในลักษณะเชิงผลประโยชน์อยู่เนืองๆ สะท้อนว่าภูเก็ตมีปัญหาจริง
“อยากให้กำลังใจท่านผู้การฯ ทำหน้าที่ให้มีประสิทธิภาพ การทำหน้าที่อย่างตรงไปตรงมา คือ ทางออกที่ดีที่สุด ภูเก็ตเป็นทั้งสวรรค์สำหรับเจ้าหน้าที่หลายๆ คน แต่หากจัดการไม่ดีก็จะเป็นปัญหา เป็นตราบาปท่านตลอดชีวิตเลยก็ได้” นายรังสิมันต์ กล่าวทิ้งท้าย