อดีต ส.ส.ปชป. ฟันธง “ยิ่งลักษณ์” กลับไทย หลัง 22 ส.ค. 67 หลังวิเคราะห์ “ทักษิณ” นั่งสั่งการจากจันทร์ส่องหล้า แนะคนไทยจับตามาแนวเดียวกันหรือไม่ ตามรอยหาช่องไม่นอนคุกแม้แต่วันเดียว
วันนี้ (5 มี.ค.) นายเทพไท เสนพงศ์ อดีต ส.ส.นครศรีธรรมราช วิเคราะห์ว่า หลังจากศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง มีมติเป็นเอกฉันท์ 9 ต่อ 0 พิพากษายกฟ้องคดีที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี และพวกรวม 6 คน ในข้อกล่าวหาเอื้อประโยชน์ในการจัดจ้าง Road Show โครงการ “สร้างอนาคตไทย Thailand 2020” พร้อมสั่งเพิกถอนหมายจับ น.ส.ยิ่งลักษณ์ นั้น เป็นสัญญาณชัดเจนว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ จะเดินทางกลับประเทศไทย ตามแนวทางเดียวกับนายทักษิณ ที่ได้นำร่องมาล่วงหน้าแล้ว ซึ่งทำได้ไม่ยาก ถ้าเปรียบเทียบโทษ ระหว่างของ นายทักษิณ กับ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ซึ่งแตกต่างกันครึ่งต่อครึ่ง
นายเทพไท กล่าวว่า นายทักษิณ ถูกศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ตัดสิน 3 คดี รวมโทษ 10 ปี และศาลฎีกาฯ มีคำสั่งนับโทษสุทธิเหลือ 8 ปี ในขณะที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ถูกศาลตัดสินโทษจำคุก 5 ปี ในคดีจำนำข้าว เมื่อนายทักษิณ ได้รับโทษจริงเพียง 1 ปี จะต้องลุ้นต่อไปว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ จะรับโทษจำคุกจริงกี่ปี ตอนนายทักษิณไม่เคยเข้าเรือนจำแม้แต่วันเดียว น.ส.ยิ่งลักษณ์ ก็ต้องมีหนทางไม่ต้องเข้าเรือนจำแม้แต่วันเดียวเช่นกัน
นายเทพไท กล่าวอีกว่า ยิ่งสถานการณ์ตอนนี้ นายทักษิณ ได้ออกมาพักโทษที่บ้านจันทร์ส่องหล้าแล้ว ยิ่งเป็นการสะดวกในการสั่งการ และเตรียมการต้อนรับการกลับมาประเทศไทยของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ แต่ถ้าหากให้สะดวกและราบรื่นที่สุด น.ส.ยิ่งลักษณ์น่าจะกลับมาหลังจากนายทักษิณพ้นโทษแล้ว คือ หลังวันที่ 22 สิงหาคม 2567 เพราะจะทำให้นายทักษิณ มีความคล่องตัว และสะดวกในการประสานงาน สั่งการ และเรียกบุคคลหนึ่งบุคคลใดมาพบ เพื่อจัดทำกฎระเบียบรองรับ น.ส.ยิ่งลักษณ์ จะได้ไม่ตกเป็นเป้าสายตาของสื่อมวลชนและสังคมที่กำลังจับตาอย่างไม่กะพริบ
“เมื่อดูบริบททั้งหมดแล้ว ฟันธงได้เลยว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ กลับประเทศไทย หลังวันที่ 22 สิงหาคม 2567 ทิ้งช่วงไว้สักระยะหนึ่ง เพื่อไม่ให้ดูน่าเกลียดจนเกินไป และจะไม่ถูกจำคุกแม้แต่วันเดียว แต่จะใช้แนวทางไหนอย่างไรต้องจับตาดูกันต่อไป” นายเทพไท กล่าว