xs
xsm
sm
md
lg

มท.1 มอบนโยบายขับเคลื่อนการ “บำบัดทุกข์ บำรุงสุข” ย้ำเดินหน้าแก้หนี้นอกระบบ จัดระเบียบสังคม ปราบปรามผู้มีอิทธิพล

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



วันนี้ (4 มี.ค.) ที่ห้องประชุมราชสีห์ ชั้น 2 ศาลาว่าการกระทรวงมหาดไทย นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เป็นประธานการประชุมขับเคลื่อนและติดตามนโยบายของรัฐบาลและภารกิจสำคัญของกระทรวงมหาดไทย โดยมี นายทรงศักดิ์ ทองศรี นายเกรียง กัลป์ตินันท์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย พล.อ.เกรียงไกร ศรีรักษ์ ประธานคณะที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย นายสมเจตน์ ลิมปะพันธุ์ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย นางสาวไตรศุลี ไตรสรณกุล เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย คณะที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย คณะทำงานรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย หัวหน้าส่วนราชการระดับกรมและหัวหน้าหน่วยงานรัฐวิสาหกิจในสังกัดกระทรวงมหาดไทย กรุงเทพมหานคร และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง โดยเป็นการประชุมผ่านระบบวีดิทัศน์ทางไกล (VCS) ไปยังศาลากลางจังหวัดทุกจังหวัด มีผู้ว่าราชการจังหวัด นายอำเภอ และหัวหน้าส่วนราชการประจำจังหวัด ร่วมประชุม

นายอนุทินฯ กล่าวว่า ขอขอบคุณพวกเราข้าราชการมหาดไทยที่ตอบสนองนโยบายและข้อสั่งการของนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ที่มอบหมายให้กระทรวงมหาดไทยได้ทำงานขับเคลื่อนนโยบายและภารกิจสำคัญ โดยเฉพาะเรื่องการลงทะเบียนหนี้นอกระบบที่ปิดรับลงทะเบียนไปแล้ว ซึ่งถือว่าการขับเคลื่อนของเราได้ผลเป็นที่น่าพอใจและมีผลงานเป็นรูปธรรม แต่ยังมีสิ่งที่เราต้องเร่งรัดต่อไป คือ ดำเนินการเพื่อนำลูกหนี้เจ้าหนี้เข้าสู่กระบวนการไกล่เกลี่ยหนี้นอกระบบอย่างต่อเนื่อง รวมไปถึงต้องหาแหล่งเงินทุนในระบบมาทดแทนเงินนอกระบบให้ลูกหนี้นำไปจ่ายกับเจ้าหนี้ ซึ่งต้องอาศัยความร่วมมือระหว่างกระทรวงมหาดไทยและกระทรวงการคลัง ในส่วนของตลาดนัดแก้หนี้ ซึ่งปลัดกระทรวงมหาดไทย ผู้ว่าราชการจังหวัด นายอำเภอ และทีมงานภาคีเครือข่ายทุกท่าน ร่วมกันขับเคลื่อนกิจกรรมจนสามารถช่วยเหลือประชาชนได้จำนวนมาก แม้ขณะนี้จะปิดการลงทะเบียนไปแล้ว แต่ขอให้ยังคงจัดกิจกรรมนี้ เพื่อช่วยเหลือพี่น้องประชาชนต่อไป

นอกจากนี้ ในส่วนของนโยบายสำคัญของกระทรวงมหาดไทยขอให้ทุกหน่วยงานตอบสนองได้อย่างเร็วในทุกเรื่อง ทำให้เห็นถึงประสิทธิภาพของพวกเราข้าราชการกระทรวงมหาดไทย การประชุมในวันนี้เป็นโอกาสที่ตนจะได้เน้นย้ำนโยบายสำคัญการขับเคลื่อนภารกิจของกระทรวงมหาดไทยในระยะต่อไป

“เรื่องการจัดกิจกรรมเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 ในปีนี้ คณะรัฐมนตรีได้มีมติให้ทุกหน่วยงานราชการ และรัฐวิสาหกิจ แต่งกายด้วยเสื้อสีเหลืองที่มีตราสัญลักษณ์ ในทุกวันจันทร์ หรือในโอกาสที่เหมาะสม แทนการแต่งกายด้วยแบบฟอร์มของหน่วยงาน รวมทั้งประดับธงตราสัญลักษณ์หน้าหน่วยงาน และร่วมกันรณรงค์ไปยังประชาชน ภาคเอกชน และองค์กรต่าง ๆ ให้ร่วมกันใส่เสื้อสีเหลืองที่มีตราสัญลักษณ์โดยพร้อมเพรียงกัน ในการนี้ ผมจึงขอให้ผู้ว่าราชการจังหวัดได้ดำเนินการตามมติดังกล่าวด้วย เพื่อให้เกิดบรรยากาศของความเป็นหนึ่งเดียวกัน รวมทั้งจัดกิจกรรมที่กระทรวงมหาดไทยได้รับมอบหมาย อาทิ การจัดทำน้ำพระพุทธมนต์ศักดิ์สิทธิ์ การจัดกิจกรรมจิตอาสา การจัดกิจกรรมเพื่อเฉลิมพระเกียรติ ให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อยและสมพระเกียรติ รวมไปถึงเรื่องลายผ้าพระราชทาน ผ้าลายสิริวชิราภรณ์ ที่สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา ได้พระราชทานลวดลายผืนผ้าให้กับกระทรวงมหาดไทย จำนวน 4 ลาย ได้แก่ ลายวชิรภักดิ์ ลายขอสมเด็จเจ้าฟ้าสิริวัณณวรีฯ 2567 ลายหัวใจ และลายดอกรักราษฎร์ภักดี เพื่อให้ศิลปิน และประชาชน นำลายพระราชทานไปถักทอผสมผสานกับลวดลายภูมิปัญญาพื้นถิ่นตามความคิด สร้างสรรค์ เพื่อสร้างงาน สร้างอาชีพ สร้างรายได้ที่มั่นคง โดยนายกรัฐมนตรีได้แถลงภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 27 กุมภาพันธ์ 2567 ขอความร่วมมือคณะรัฐมนตรี หน่วยงานราชการ และประชาชน ใช้ลายผ้าพระราชทานดังกล่าวในการแต่งกาย และเพื่อเป็นการเทิดพระเกียรติเนื่องในโอกาสมหามงคล จึงขอให้ผู้ว่าราชการจังหวัดช่วยกันส่งเสริมทักษะของช่างทอผ้าและหัตถกรรมผ่านลายผ้าพระราชทานอย่างต่อเนื่อง อันจะเป็นการยกระดับคุณภาพของสินค้าหัตถกรรมไทย และเป็นการส่งเสริมช่องทางการตลาดด้วย” นายอนุทินฯ กล่าวในช่วงต้น

นายอนุทินฯ กล่าวว่า เรื่องโครงการ Maha Songkran World Water Festival 2024 ที่รัฐบาลโดยกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ได้กำหนดจัดงาน Maha Songkran World Water Festival 2024 “เย็นทั่วหล้า มหาสงกรานต์ 2567” ขึ้น ในเดือนเมษายน 2567 โดยการจัดงานในพื้นที่กรุงเทพมหานคร ซึ่งกระทรวงมหาดไทยได้รับมอบหมายให้เป็นหน่วยงานรับผิดชอบการจัดกิจกรรมขบวนพาเหรดสงกรานต์จากกลุ่มจังหวัดเป้าหมาย 16 จังหวัด ประกอบด้วย จังหวัดเชียงใหม่ ขอนแก่น ชลบุรี สมุทรปราการ นครศรีธรรมราช เชียงราย หนองคาย พิษณุโลก สงขลา บุรีรัมย์ พระนครศรีอยุธยา นครพนม ลำปาง เลย สุโขทัย และภูเก็ต ก็ขอให้ผู้ว่าราชการจังหวัดกลุ่มจังหวัดเป้าหมายให้ความร่วมมือกับกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาในการจัดงานดังกล่าวให้เป็นไปด้วยเรียบร้อย รวมทั้งขอให้ผู้ว่าราชการจังหวัดทุกจังหวัดประชาสัมพันธ์การจัดงาน Maha Songkran World Water Festival 2024 ให้ประชาชนรับทราบและเข้าร่วมกิจกรรมดังกล่าว และเตรียมความพร้อมในการป้องกันอุบัติเหตุอุบัติภัยทางถนนในช่วงวันหยุดเทศกาลสงกรานต์ด้วย

“เรื่องการจัดระเบียบสังคม ทั้งการปราบปรามผู้มีอิทธิพล การป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ การปราบปรามยาเสพติด อาวุธปืนผิดกฎหมาย บ่อนการพนัน และสถานบริการสถานบันเทิงผิดกฎหมาย ซึ่งได้มีการเปิดปฏิบัติการ จัดตั้งชุดปฏิบัติการพิเศษฝ่ายปกครอง และศูนย์ปฏิบัติการ ร่วมกับศูนย์ดำรงธรรมจังหวัด ตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายน 2566 ขอให้ผู้ว่าราชการจังหวัดช่วยกันทำให้หน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้องกับการจัดระเบียบสังคมมีความเข้มข้นและตื่นตัวอยู่เสมอ เพื่อที่เจ้าของสถานบริการ และประชาชนที่เข้าไปใช้บริการ ได้รับทราบ เข้าใจ และปฏิบัติตามกฎหมาย จนกลายเป็น New normal ในที่สุด และขอเน้นย้ำว่าการปฏิบัติการดังกล่าวเราไม่ได้จับผิดใคร แต่เราต้องการจัดระเบียบสังคมในภาพรวม ขอให้หัวหน้าส่วนราชการทุกคนอย่าได้กังวลใจ ทุกอย่างเราทำเพื่อความถูกต้อง การมีผู้บริหารลงพื้นที่จะเป็นประโยชน์และเป็นขวัญกำลังใจต่อผู้ปฏิบัติงาน ในส่วนของการควบคุมอาวุธปืน ตนได้ลงนามในร่างพระราชกำหนดยกเว้นความรับผิดทางอาญาให้แก่ผู้นำอาวุธปืน หรือเครื่องกระสุนปืน ที่ไม่ได้รับอนุญาต หรือที่กฎหมายห้ามออกใบอนุญาต หรือสิ่งเทียมอาวุธมามอบให้แก่ทางราชการ พ.ศ.... พร้อมกับได้ยกร่างหลักเกณฑ์และวิธีการในการส่งมอบ การรับมอบ การเก็บรักษา และการทำลายอาวุธปืนที่ได้มีการนำมาคืนดังกล่าว เสร็จเรียบร้อยแล้ว ขณะนี้อยู่ระหว่างการนำเสนอให้สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี นำบรรจุเป็นวาระเสนอให้ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีพิจารณาอนุมัติ เพื่อมีผลบังคับต่อไป ซึ่งจะเป็นมาตรการที่จะช่วยให้มีการลดจำนวนอาวุธปืนในระบบลงได้ในเวลาอันสั้น” นายอนุทินฯ กล่าว

นายอนุทินฯ กล่าวว่า เรื่องการป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่า หมอกควัน และฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM2.5) ในส่วนของการเผาของเพื่อนบ้าน ทางรัฐบาลจะดำเนินการพูดคุยหารือกับผู้นำเพื่อแก้ไขปัญหาร่วมกันอย่างเต็มที่ ซึ่งเรื่องดังกล่าวเป็นสิ่งที่นอกเหนืออำนาจควบคุมของกระทรวงมหาดไทย ในส่วนของกระทรวงมหาดไทย ต้องขอเน้นย้ำให้ผู้ว่าราชการจังหวัดบูรณาการแก้ไขปัญหาผ่านกลไกเชิงพื้นที่อย่างเต็มที่ ทั้งฝ่ายปกครอง ตำรวจ หน่วยงานทหาร ภาคเอกชน และภาคประชาชน ประกอบด้วย 1) ยกระดับการปฏิบัติการควบคุมการเผาในพื้นที่อย่างเข้มงวด โดยใช้มาตรการทางกฎหมายห้ามเผาอย่างเด็ดขาด พร้อมกำหนดระยะเวลาควบคุมการเผาให้สอดคล้องกับสถานการณ์ในพื้นที่ 2) ใช้ข้อมูลตำแหน่งจุดความร้อน (Hotspot) เพื่อวางแผนปฏิบัติการดับไฟป่าให้เป็นไปอย่างถูกต้อง แม่นยำ และทันท่วงที 3) ระดมสรรพกำลังเจ้าหน้าที่และเครื่องจักรกลสาธารณภัยให้พร้อมเข้าปฏิบัติการแก้ไขปัญหาในพื้นที่ ไม่ว่าจะเป็นการดับไฟป่า การช่วยเหลือเกษตรกรขนย้ายเศษวัสดุทางการเกษตร 4) ยกระดับมาตรการดูแลประชาชน โดยอาจจัดหาหน้ากากอนามัยให้กับประชาชน โดยเฉพาะกลุ่มเสี่ยงและกลุ่มเปราะบาง 5) ขอความร่วมมือ Work From Home เมื่อเกิดวิกฤตฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM 2.5) ในพื้นที่ เพื่อลดฝุ่นละอองจากการจราจร ในกรณีที่ทำได้ นอกจากนี้ ขอให้มีการสื่อสารเชิงรุกผ่านช่องทางต่าง ๆ เพื่อให้ประชาชนตระหนักถึงสาเหตุการเกิดฝุ่นละอองที่ประชาชนสามารถมีส่วนร่วมในการลดปัญหา เข้าใจต่อสถานการณ์ มาตรการ ข้อกฎหมายที่เกี่ยวข้อง ตลอดจนบทลงโทษหากมีการฝ่าฝืน

รมว.มหาดไทย กล่าวว่า ขอให้ผู้ว่าราชการจังหวัดเตรียมการในเรื่องการรับมือสถานการณ์พายุฤดูร้อน เฝ้าระวังและติดตามสถานการณ์การเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศอย่างใกล้ชิด แจ้งเตือนประชาชนให้ทราบสถานการณ์ที่อาจเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง กำชับให้ผู้มีหน้าที่ในแต่ละระดับเร่งตรวจสอบอาคาร สถานที่ ป้ายโฆษณา สิ่งก่อสร้าง รวมถึงไม้ยืนต้นตามที่สาธารณะ หากพบว่าไม่อยู่ในสภาพมั่นคงแข็งแรงต้องเร่งแจ้ง หน่วยงานที่รับผิดชอบเข้าดำเนินการซ่อมแซม ตลอดจนให้เตรียมความพร้อมสำหรับการช่วยเหลือประชาชนที่ประสบภัยให้เป็นไปอย่างรวดเร็ว

นอกจากนี้ ล่าสุด กรมอุตุนิยมวิทยาได้ออกประกาศประเทศไทยได้สิ้นสุดฤดูหนาวและเข้าสู่ฤดูร้อนแล้ว ในวันที่ 21 กุมภาพันธ์ 2567 ซึ่งมีการคาดการณ์ว่า พื้นที่ภาคเหนือจะมีอุณหภูมิสูงสุด 43.0 - 44.5 องศาเซลเซียส อากาศร้อนกว่าปี 2566 และร้อนกว่าปกติ 1 - 2 องศาเซลเซียส จึงขอให้ผู้ว่าราชการจังหวัดประสานหน่วยงานด้านสาธารณสุข และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนดูแลสุขภาพช่วงฤดูร้อน เช่น เรื่องความสะอาดของอาหาร และน้ำอุปโภคบริโภค กินร้อน ช้อนกลาง ล้างมือ ดื่มน้ำให้เพียงพอต่อวัน และหลีกเลี่ยงการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ รวมถึงต้องระวังภาวะ Heat Stroke

บูรณาการร่วมกับหน่วยงานรัฐวิสาหกิจในเรื่องการดูแลเรื่องน้ำดื่มสะอาด น้ำอุปโภคบริโภค การดูแลพี่น้องประชาชนที่เดือดร้อนเราไม่นับว่าเป็นต้นทุน แต่จะเป็นสิ่งที่เป็น CSR ที่เราได้บริการตอบแทนพี่น้องประชาชนในยามลำบาก เราต้องยึดถือว่าเป็นกิจกรรมหนึ่งของกระทรวงมหาดไทย เช่นเดียวกับนโยบายงดการตัดน้ำประปาเป็นระยะเวลา 3 เดือน เรื่องการขับเคลื่อนพลังงานสะอาด โซลาร์เซลล์ โซลาร์รูฟท็อป ที่เป็นหนึ่งในนโยบายสำคัญของกระทรวงมหาดไทย ขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ขับเคลื่อนและดำเนินการต่อไปให้เกิดขึ้นอย่างเป็นรูปธรรม ดังนั้น ทุกเรื่องที่กล่าวมาถือเป็นเรื่องจำเป็นสำหรับพื้นฐานคุณภาพชีวิตประชาชนทั้งสิ้น จึงขอเน้นย้ำให้พวกเราคนมหาดไทยทุกคนได้ตระหนักและอย่าได้ท้อถอย เพราะว่างานของเรา คือ การสร้างรากฐานชีวิตของประชาชนให้มั่นคง และเป็นสิ่งที่ต้องทำต่อเนื่อง หยุดไม่ได้ หากบกพร่องไปก็จะกระทบต่อความเป็นอยู่ของประชาชนในทุกด้าน
กำลังโหลดความคิดเห็น