“พัชรวาท” ตอบกระทู้ ส.ว.ให้เอกชนปลูกป่าชายเลน ยันยังดำเนินโครงการต่อตามนโยบายรัฐบาล มีการประเมินผลดี -ผลเสีย คำนึงถึงประโยชน์ชาติ
ในการประชุมวุฒิสภา วันนี้ (4 มี.ค.) ได้มีการตั้งกระทู้ถามเรื่องการจัดสรรพื้นที่ป่าชายเลนให้เอกชนปลูกป่าชายเลนเพื่อประโยชน์จากคาร์บอนเครดิต ของ นพ.อำพล จินดาวัฒนะ ส.ว. ถึง พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม โดย พล.ต.อ.พัชรวาท ได้เดินทางมาตอบด้วยตนเอง หลังจากเกิดดราม่าไม่มาตอบกระทู้ที่รัฐสภาเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว
นพ.อำพล ได้ตั้งคำถามถึงความเป็นมาของโครงการดังกล่าวว่ามีหลักการและเหตุผลอย่างไร เหมาะสมหรือไม่ ดำเนินการตามหลักธรรมาภิบาลหรือไม่ และเป็นการเปิดโอกาสให้ภาคเอกชนหรือบุคคลภายนอกเข้าไปใช้พื้นที่สาธารณะหาประโยชน์ทางธุรกิจมากว่าให้โอกาสชุมชนได้ร่วมพัฒนาดูแลประโยชน์หรือไม่ และรัฐบาลยังคงดำเนินโครงการลักษณะนี้ต่อไปหรือไม่เพราะทราบว่ามีแผน 10ปี และรัฐบาลมีนโยบายและมาตรการส่งเสริมความเข้มแข็งชุมชนในการให้ชุมชนเป็นเจ้าภาพทำโครงการนี้โดยไม่ต้องผ่านเอกชน
ด้าน พล.ต.อ.พัชรวาท ชี้แจงถึงที่มาของโครงการปลูกป่าชายเลนนั้น เนื่องจากประเทศไทยได้ประกาศเป้าหมายการลดก๊าซเรือนกระจกในการประชุมคอบ 26 และต่อมาคณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้มีมติมอบหมายให้กระทรวงทรัพย์ ทำโครงการปลูกป่าชายเลนเพื่อประโยชน์จากคอร์บอนเครดิตโดยมีหลักเกณฑ์ว่าพื้นที่ป่าชายเลนยังคงเป็นของรัฐ และกรมทรัพยากรทางทะเลฯ เป็นเจ้าของโครงการ ควบคุมดูแลและติดตามประเมิณผลโครงการไม่ใช่เป็นการอนุญาตสัมปทาน โดยทางกรมฯดำเนินการปลูกป่าชายเลน เมื่อปี 65 เพื่อฟื้นฟูพื้นที่ป่าเสื่อมโทรมเพิ่มพื้นที่ป่าชายเลนและแหล่งกักเก็บคาร์บอนไดอ๊อกไซด์เพื่มความหลากหลายของระบบนิเวศน์ทางทะเลและชายฝั่ง ส่งเสริมให้ทุกภาคส่วนและเอกชนมีส่วนร่วม
พล.ต.อ.พัชรวาท กล่าวว่า การดำเนินโครงการมีการประกาศเชิญชวนผู้สนใจเข้าร่วมโครงการ ซึ่งมีทั้งเอกชน องค์กร และมูลนิธิ รวม14 ราย โดยผู้เข้าร่วมโครงการฯเป็นผู้สนับสนุนค่าใช้จ่ายทั้งหมดตลอดระยะเวลาดำเนินโครงการ ทั้งนี้ โครงการฯยังคงเป็นพื้นที่ของกรมทรัพยากรทางทะเลฯ และชุมชนยังสามารถใช้ประโยชน์ในพื้นที่โครงการได้ ผู้เข้าร่วมโครงการจะได้รับเพียงสัดส่วนการแบ่งปันคาร์บอนเครดิตตามระเบียบที่กรมทรัพยากรทางทะเลฯ กำหนดเท่านั้น การดำเนินโครงการไม่ใช่อนุญาตให้เอกชนมาดำเนินการในลักษณะการให้สัมปทานป่าไม้ เป็นเพียงให้ร่วมดำเนินโครงการฯเท่านั้น ชุมชนยังสามารถใช้ประโยชน์จับสัตว์น้ำ หาของป่า ท่องเที่ยวเชิงนิเวศน์ กิจกรรมสาธารณะประโยชน์ภายในชุมชน และวิถีชีวิตได้อย่างปกติ โดยต้องเป็นไปอย่างสมดุลไม่ทำลายสิ่งแวดล้อม
พล.ต.อ.พัชรวาท กล่าวต่อว่า ทางกระทรวงทรัพย์ยังมีการดำเนินโครงการนี้ต่อไปตามนโยบายรัฐบาล แต่จะติดตามประเมิณผลการดำเนินโครงการเพื่อเป็นข้อมูลในการพิจารณาผลดีผลเสีย ความคุ้มค่า และประโยชน์ของชาติและประชาขนที่จะได้รับเป็นสำคัญ หากโครงการใดไม่ดำเนินตามหลักเกณฑ์ที่กำหนด กระทรวงจะยกเลิกโครงการต่อไป ทั้งนี้มาตรการเสริมสร้างความเข้มแข็งในชุมชนในการพัฒนาป่าชายเลนนั้นทางกระทรวงฯ ให้กรมทรัพยากรทางทะเลฯ ลงทะเบียนเป็นกลุ่มชุมชนชายฝั่ง และให้ชุมชนช่วยดูแลพื้นที่ในรูปแบบป่าชายเลนชุมชน ตามกฎหมายกรมทรัพยากรทางทะเลฯ