“เศรษฐา” บินออสเตรเลีย เตรียมคุยนายกฯ กัมพูชา-มาเลเซีย เรื่องที่ยังค้างอยู่ ก่อนบินไปเยอรมนีร่วมงาน ITB Berlin 2024 คุยผู้บริหารโฟล์คสวาเกน ตั้งโรงงานในไทย หลังจากนั้น ไปฝรั่งเศล หารือจัดแข่งฟอร์มูล่าวัน ในไทย พบ “มาครง” ถกทวิภาคี
เมื่อเวลา 07.57 น.วันที่ 4 มี.ค. ที่สนามบินสุวรรณภูมิ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และ รมว.คลัง ให้สัมภาษณ์ก่อนเดินทางไปปฏิบัติภารกิจเข้าร่วมการประชุมสุดยอดอาเซียน-ออสเตรเลีย สมัยพิเศษ (2024 ASEAN-Australia Special Summit) เพื่อฉลองวาระครบรอบ 50 ปี ความสัมพันธ์ ระหว่างวันที่ 4-6 มี.ค. 2567 ว่า มีการนัดคุยหลายเรื่อง ทั้งการพูดคุยทวิภาคีกับผู้นำหลายประเทศ ทั้งสมเด็จมหาบวรธิบดี ฮุน มาเนต นายกรัฐมนตรีราชอาณาจักรกัมพูชา หารือกับนายกรัฐมนตรีกัมพูชา นายอันวาร์ อิบราฮิม นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ทั้งนี้ การหารือกับนายกรัฐมนตรีกัมพูชา เป็นการหารือเรื่องเดิม เรื่องที่คุยค้างกันอยู่ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการอำนวยความสะดวกให้กับประชาชนระหว่างการไปมาหาสู่กันที่ยังไม่ได้รับความสะดวก การแก้ไขปัญหาฝุ่น PM 2.5 รวมถึงเรื่องพื้นที่ทับซ้อนที่มีการพูดคุยกันไว้ ส่วนการหารือกับนายกรัฐมนตรีมาเลเซีย จะพูดคุยในเรื่องการแก้ไขปัญหา 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ การเปิดพรมแดน เพื่อการค้าขายที่อำนวยความสะดวกมากขึ้น ทั้งนี้ การเดินทางเยือนประเทศออสเตรเลีย ถือเป็นคู่ค้ารายใหญ่ของไทย ในขณะเดียวกัน ก็จะมีการพูดคุยแลกเปลี่ยนทางด้านการศึกษา การเกษตร
เมื่อถามว่า คนไทยอยู่ในประเทศออสเตรเลียจำนวนมาก จะมีการขอให้ช่วยดูแลคนไทยที่อยู่ในออสเตรเลียอย่างไรบ้าง นายกฯ กล่าวว่า แน่นอนเรื่องนี้จะมีการพูดคุยกันไปเรื่อยๆ เสร็จแล้ว ในวัน 6 มี.ค.นี้ จะเดินทางต่อไปยังกรุงเบอร์ลิน ประเทศเยอรมนี โดยจะไปถึงในช่วงเช้า จะร่วมงาน ITB Berlin 2024 ซึ่งเกี่ยวกับเรื่องการท่องเที่ยว ขณะเดียวกัน ในช่วงบ่ายจะมีการหารือกับผู้บริหารบริษัท โฟล์คสวาเกน เกี่ยวกับการตั้งโรงงานที่จะมาตั้งที่ประเทศไทย
หลังจากนั้น จะบินไปยังกรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส เพื่อไปพบกับนักธุรกิจประเทศฝรั่งเศส โดยจะมีการหารือกับกลุ่มผู้บริหารบริษัท แอร์บัส และผู้บริหารด้านแฟชั่น รวมถึงจะมีการพูดคุยเรื่องการนำการแข่งขันฟอร์มูล่าวันมาแข่งขันที่ประเทศไทย โดยการเดินทางครั้งนี้จะมีการพูดคุยในหลายเรื่องตารางงานเต็ม
จากนั้นในวันที่ 11 มี.ค.จะมีการหารือกับ นายเอ็มมานูเอล มาครง ประธานาธิบดีฝรั่งเศส โดยจะมีการหารือแบบทวิภาคี และในวันที่ 12 มี.ค.ดูงานการจัดนิทรรศการ ซึ่งเป็นการนำเมืองต่างๆ มาโชว์โดยเฉพาะโครงสร้างพื้นฐานและโปรเจกต์ต่างๆ โดยในปี 2568 เราจะไปนำเสนอเกี่ยวกับเรื่องสนามบิน และหลายอย่างที่ประเทศไทยกำลังทำอยู่ เพื่อเชิญให้นักลงทุนและชาวโลกได้รับทราบว่าประเทศไทยกำลังดำเนินการในด้านใดไปบ้าง
จากนั้น ในวันที่ 13 มี.ค.จะเดินทางกลับไปที่ประเทศเยอรมนีอีกรอบ เพื่อหารือทวิภาคีกับ นายฟรังค์-วัลเทอร์ ชไตน์ไมเออร์ ประธานาธิบดีสหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี และเดินทางกลับถึงประเทศไทยในเวลา 13.00 น. ของวันที่ 14 มี.ค. เวลา 16.00 น. จะมีการประชุมกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ของสหรัฐอเมริกา
นายกฯ กล่าวต่อว่า การเดินทางไปต่างประเทศครั้งนี้ ตนจะนำสินค้าของไทยไปโปรโมตที่ต่างประเทศด้วย แต่ขอเก็บไว้ก่อน จะทยอยเปิดเผยทีละวัน และจะมีการพูดคุยเรื่องวีซ่าเชงเก้นด้วย ทั้งนี้ การหารือเอฟทีเอระหว่างประเทศไทยและอียูจะเกิดเป็นรูปธรรมอย่างแน่นอน เพราะ นายปานปรีย์ พหิทธานุกร รองนายกฯ และ รมว.ต่างประเทศ ยืนยันมาแล้ว และวันเดียวกันนี้ นายปานปรีย์ ก็เดินทางไปหารือเรื่องเอฟทีเอที่ออสเตรเลียต่อ ซึ่งถือว่าเรื่องนี้สำคัญต่อการค้าขาย.