รองนายกฯ ยืนยัน การผลักดันกฎหมายรัฐบาลไม่ล่าช้า แต่ยอมรับกฎหมายที่ออกจากรัฐบาล ต้องสอบถามความเห็นหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ต่างจากกฎหมายที่เสนอโดย ส.ส. เผย ยังไม่ได้หารือร่วมคณะพรรคเพื่อไทยเยือนกัมพูชาหรือไม่
วันนี้ (3 มี.ค.) นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานกรรมการเร่งรัดการเสนอร่างพระราชบัญญัติเพื่อขับเคลื่อนการดำเนินการตามนโยบายของรัฐบาล กล่าวว่า ขณะนี้มีกฎหมายจำนวนมาก ซึ่งหลายหน่วยงานต้องแสดงความคิดเห็นก่อนเสนอกฎหมายเข้ามา โดยกฎหมายบางฉบับมีแค่เรื่องเดียว แต่มีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมากกว่า 10 หน่วยงาน ซึ่งก็ติดปัญหาการไม่เสนอความคิดเห็นเข้ามา ทำให้หมดเวลาตามกรอบที่กำหนดไว้ภายในสองสัปดาห์ ภายหลังสำนักงานเลขาธิการคณะรัฐมนตรีรับเรื่องจากกระทรวงที่แก้ไขกฎหมาย ซึ่งก็ต้องมีการสอบถามไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ซึ่งจะต้องใช้เวลาในการรอรับฟังความคิดเห็นนานถึงสองสัปดาห์ บางหน่วยงานครบสองสัปดาห์ก็ยังไม่ส่งมาจึงเป็นหน้าที่ของรัฐบาลที่ต้องไปเร่ง ซึ่งในวันนี้การประชุมคณะรัฐมนตรีก็มีการพิจารณา 6 ฉบับ ที่ต้องเร่ง โดยไม่เจาะจงเรื่องใดเรื่องหนึ่ง เช่นเดียวกับเรื่องร่างพระราชบัญญัติควบคุมแอลกอฮอล์ ซึ่งมีหลายประเด็น เช่น การปรับเปลี่ยนเวลาเพิ่มหรือลดการดื่มแอลกอฮอล์ หรือการติดฉลากห้าม เกี่ยวกับอันตราย ซึ่งมีหลายประเด็นต้องลงรายละเอียดของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
ส่วนกรณีที่ฝ่ายค้านออกมาเร่งกฎหมายที่ยังค้างอยู่ที่รัฐบาล นายสมศักดิ์ ยืนยันว่า เรื่องนี้ไม่ได้ช้าเพราะกฎหมายของ ส.ส. เมื่อพิจารณาแล้วเสร็จก็จะนำเข้าสู่ที่ประชุมทันที โดยที่ไม่ต้องรับฟังความคิดเห็น หรือจะทำประชาพิจารณ์ แต่ในส่วนของกฎหมายหน่วยงานราชการจะต้องรับฟังประชาพิจารณ์มากกว่าหนึ่งครั้ง ดังนั้น เงื่อนไขในการทำกฏหมายแตกต่างกัน โดยเฉพาะยิ่งเป็นกฎหมายการเงิน นายกรัฐมนตรีจะต้องรับฟังเสียงของหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้อง จึงไม่ใช่เรื่องง่าย เหมือนพรรคการเมืองกับสภาผู้แทนราษฎร เพราะรัฐบาลต้องรับผิดชอบในเรื่องของงบประมาณที่ต้องตามมาอีก ล่าสุด ยอมรับว่า กฎหมายบางฉบับต้องล่าช้า เช่น การกระจายอำนาจไปสู่ท้องถิ่น ซึ่งทำมากว่า 20 ปีแล้วยังไปไม่ถึงไหน แม้กฎหมายจะผ่านมาแล้ว แต่ประเด็นที่ตามมาเรื่องงบประมาณก็ยังแบ่งการใช้จ่ายงบประมาณไม่ได้ ดังนั้นรัฐบาลนี้ ซึ่งตนเองรับผิดชอบพิจารณามาสามเดือนแล้ว ก็ยังถือว่าล่าช้า เพราะยังมีข้อไม่สมบูรณ์ก็เลยต้องเกิดความล่าช้า และปลายทางก็ต้องมาแก้ไข
ส่วนกรณีพรรคประชาชนกัมพูชา เชิญนางสาวแพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรคเพื่อไทย และกรรมการบริหารพรรค เดินทางเยือนกัมพูชาในเดือนนี้ ว่า สำหรับตนเองแล้ว ยังไม่มีการพูดคุยกันว่าจะเดินทางร่วมคณะไปหรือไม่