ส.ส.ปชป. ซัดรัฐบาลทำงานไม่ทันฝ่ายนิติบัญญัติ ข้ออ้างไม่มาตอบกระทู้ฟังไม่ขึ้น ชี้จะมีซักฟอกหรือไม่อยู่ที่ก้าวไกลเพราะ พรรคเสียงไม่พอ
วันนี้ (3มี.ค.) นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ ส.ส. บัญชีรายชื่อ อดีตหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่รัฐมนตรีไม่ไปตอบกระทู้ถามสมาชิกสภา จนเกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวางว่า โดยข้อเท็จจริงหากนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีติดภารกิจสำคัญจนไม่อาจหลีกเลี่ยงได้ ก็สามารถเลื่อนการตอบกระทู้ถามของสมาชิกได้ แต่ข้อเท็จจริงหลายครั้ง หลายกรณีที่เกิดขึ้นในรัฐบาลนี้ก็คือรัฐมนตรีไม่มาตอบกระทู้ถามด้วยเหตุผลที่ฟังไม่ขึ้น รัฐมนตรีบางท่านไม่เคยมาตอบกระทู้ถามสดของสมาชิก บางท่านแม้เป็นกระทู้ถามทั่วไปที่รู้ล่วงหน้ามาหลายเดือน ก็ยังไม่มาตอบก็มี
นายจุรินทร์กล่าวเพิ่มเติมว่า ต้องยอมรับความจริงว่ารัฐบาลชุดนี้ทำงานไม่ทันฝ่ายนิติบัญญัติ โดยเฉพาะทำงานไม่ทันฝ่ายค้าน ที่ให้ความสำคัญกับการใช้เวทีของสภาเป็นเวทีในการเสนอกฎหมาย สะท้อนปัญหาประชาชนและตรวจสอบรัฐบาล ซึ่งนอกจากตัวอย่างรัฐมนตรีไม่มาตอบกระทู้แล้ว ที่สำคัญก็คือกฎหมายหลายฉบับที่ฝ่ายค้านเสนอเข้าสู่การพิจารณาของสภาและบรรจุเข้าสู่ระเบียบวาระแล้ว แต่ไม่สามารถพิจารณาตามวาระได้ เพราะรัฐบาลเสนอกฎหมายตามประกบไม่ทัน ทำให้รัฐบาลต้องรับกฎหมายหลายฉบับไปพิจารณาก่อนรับหลักการหรือที่เรียกกันเป็นภาษาการเมืองว่าต้องขอ“อุ้ม”กฎหมายของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรหรือของฝ่ายนิติบัญญัติ เอาไปดองไว้ที่ทำเนียบก่อนระยะเวลาหนึ่ง จนกว่ารัฐบาลจะเสนอร่างของรัฐบาลมาประกบได้ทันในภายหลัง ทำให้กฎหมายที่ถูกรัฐบาลอุ้มเกิดความล่าช้า ประชาชนต้องเสียประโยชน์ จึงขอเรียกร้องให้รัฐบาลเอาเวลาที่ใช้กับการเดินทัวร์มาให้ความสำคัญกับการออกกฎหมายซึ่งเป็นเครื่องมือสำคัญในการบริหารประเทศของรัฐบาลเองกับงานในสภาให้มากขึ้น กว่านี้
ส่วนการตรวจสอบรัฐบาลของฝ่ายค้านในสมัยประชุมนี้นั้น นายจุรินทร์กล่าวว่าขึ้นอยู่กับพรรคก้าวไกลเป็นหลักว่าจะดำเนินการในรูปแบบใดหรือไม่ และถ้าจะมีการอภิปราย จะอภิปรายในรูปแบบของการอภิปรายทั่วไปโดยไม่ลงมติตามมาตรา 152 ซึ่งต้องใช้เสียง 50 เสียงขึ้นไป หรือในรูปของการอภิปรายไม่ไว้วางใจตาม มาตรา 151 ซึ่งต้องใช้เสียงอย่างน้อย 100 เสียง ซึ่งประชาธิปัตย์มีเสียงไม่พอ จึงไม่สามารถดำเนินการแต่เพียงลำพังพรรคเดียวได้ จึงต้องอาศัยเสียงของพรรคก้าวไกลเป็นหลัก