xs
xsm
sm
md
lg

“พิธา” ควง “อภิชาติ” เยือนอุดรธานี ฟังปัญหาที่ดินหนองวัวซอ ย้ำการจัดการที่ดินต้องให้ประชาชนมีส่วนร่วม

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



“พิธา” ควง “อภิชาติ” เยือนอุดรธานี ฟังปัญหาที่ดินหนองวัวซอ ย้ำการจัดการที่ดินต้องให้ประชาชนมีส่วนร่วม รัฐบาลต้องทำให้ที่ดินของรัฐสร้างความมั่นคงในชีวิตประชาชน

วันที่ 2 มีนาคม 2567 พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคก้าวไกล พร้อมด้วย อภิชาติ ศิริสุนทร เลขาธิการพรรคก้าวไกล เดินทางไปรับฟังปัญหาด้านที่ดินทำกินจากพี่น้องประชาชนชาวหนองวัวซอ อำเภอหนองวัวซอ จังหวัดอุดรธานี โดยพิธากล่าวถึงเหตุผลที่เดินทางมายังจังหวัดอุดรธานี นอกจากเพื่อมาขอบคุณที่พี่น้องชาวอุดรธานีมอบคะแนนเสียงให้กว่า 300,000 คะแนนในการเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมา ยังต้องการมาแนะนำตัวว่าที่ผู้สมัครนายก อบจ. อุดรธานี ของพรรคก้าวไกล และที่สำคัญต้องการเดินทางมาพบปะประชาชนชาวหนองวัวซอ เพื่อรับฟังปัญหาความทุกข์ร้อน

ซึ่งจากการรับฟังปัญหา มองว่าปัญหาข้อแรกคือเรื่องการจัดการที่ดิน รัฐต้องสร้างกลไกให้ประชาชนมีส่วนร่วม ข้อสองคือรัฐบาลควรตรวจสอบที่ดินของรัฐที่อยู่กับกระทรวงทั้ง 8 กระทรวง ไม่ว่าจะเป็น กลาโหม มหาดไทย เกษตร ฯลฯ ว่ามีที่ดินที่ไม่ได้ใช้ประโยชน์อยู่เท่าใด ประเทศไทยมีพื้นที่ทั้งหมดประมาณ 320 ล้านไร่ มีเท่าไรที่สามารถนำมาให้ประชาชนใช้ประโยชน์ได้ สิ่งนี้จะเป็นปัจจัยสำคัญในการแก้ไขปัญหาความเหลื่อมล้ำและพัฒนาชนบทด้วย

ในส่วนของหนองวัวซอ เป็นหนึ่งในหลายพื้นที่ที่มีปัญหาคล้ายๆ กันทั่วประเทศ กล่าวคือ พื้นที่หนองวัวซอมีที่ดินที่ทหารครอบครอง 39,235 ไร่ พื้นที่ที่จะนำมาเข้าร่วมโครงการซึ่งซ้อนทับกับที่ดินของประชาชนมีอยู่ 9,255 ไร่ มีประชาชนใช้ประโยชน์อยู่ 1,597 ราย พื้นที่ทับซ้อนเหล่านี้ประชาชนคัดค้านการเป็นที่ดินของทหารมาตลอด เรียกร้องการพิสูจน์สิทธิ์มาตลอด แต่ไม่เคยมีกระบวนการพิสูจน์สิทธิ์จากรัฐ จากการขึ้นทะเบียนหนังสือสำคัญสำหรับที่หลวง จนต่อมากลายเป็นที่ดินราชพัสดุในความดูแลของกรมธนารักษ์ กระทรวงการคลัง

ทั้งนี้ ที่ราชพัสดุทั่วประเทศมีทั้งหมดกว่า 12 ล้านไร่ ครึ่งหนึ่งถือครองโดยกองทัพ ทั้งที่ที่ราชพัสดุเป็นที่ดินของรัฐที่ควรให้ประชาชนได้ใช้ประโยชน์เพื่อสร้างความมั่นคงในชีวิต แต่กระทรวงการคลังต้องการให้ประชาชนเช่าที่ดินเพียง 3 ปี ซึ่งตนมองว่าเป็นระยะเวลาที่ไม่เพียงพอต่อการสร้างความมั่นคง เกษตรกรไม่สามารถวางแผนเพาะปลูก หรือผู้เช่าที่ดินไม่สามารถวางแผนจัดการที่ดินของตนได้ เมื่อเทียบกับการที่รัฐอนุญาตให้ต่างชาติเข้ามาลงทุนในโครงการเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) ยังมากถึง 99 ปี

"หากต้องการก้าวข้ามกับดักรายได้ปานกลาง ไม่มีประเทศพัฒนาแล้วที่ไหนที่รัฐบาลเป็นเจ้าของที่ดินมากถึง 60% ดังนั้นกลับไปที่หลักการเดิม ที่ประชาชนควรจะมีส่วนร่วมในการตัดสินใจ และรัฐบาลควรจะใช้ที่ดินอย่างเหมาะสมจริงๆ" พิธากล่าว

ด้านอภิชาติ กล่าวว่า กรณีที่ดินหนองวัวซอ พี่น้องประชาชนประสบกับความเดือดร้อนอย่างมาก ประชาชนไปร้องเรียนแทบทุกที่ แต่กลับไม่ได้รับคำตอบจากภาครัฐ ในขณะที่ตนไปทำงานที่จังหวัดหนองบัวลำภู พี่น้องชาวหนองวัวซอตามไปยื่นหนังสือเพื่อร้องเรียน วันนี้จึงยืนยันอีกครั้งว่าเราไม่ทิ้งพี่น้องประชาชนอย่างแน่นอน

อภิชาติกล่าวอีกว่า ในฐานะผู้แทนประชาชนและประธานคณะกรรมาธิการการที่ดิน ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม สภาผู้แทนราษฎร จะใช้กลไกรัฐสภาเพื่อแก้ไขปัญหา โดยต้องมีการรวบรวมข้อมูล ตอนนี้ตนได้ตั้งคณะกรรมการที่ปรึกษาเพื่อตรวจสอบปัญหาที่ดินทำกินในจังหวัดอุดรธานี ซึ่งจะส่งต่อข้อมูลให้ตนและให้ประธานที่ปรึกษาพรรคในการขับเคลื่อนแนวทางแก้ไขต่อไป ขอยืนยันว่านโยบายพรรคก้าวไกลนั้นชัดเจน เราเห็นว่าวิธีสร้างความเข้มแข็งให้ชนบทไทย จำเป็นต้องแก้ปัญหาที่ดินที่ทับซ้อนระหว่างประชาชนและหน่วยงานรัฐ ทำให้ประชาชนมีกรรมสิทธิ์ในที่ดินให้ได้










กำลังโหลดความคิดเห็น