วันนี้(2 มี.ค.)นายนภินทร ศรีสรรพางค์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยภายหลังการเป็นประธานเปิดงาน “มหกรรมชี้ช่องรวยแฟรนไชส์ ครั้งที่ 15” ณ ลานโปรโมชัน ชั้น 1 เซ็นทรัลบางนา ในวันศุกร์ที่ 1 มีนาคม 2567 ว่า ตนมีความยินดีอย่างยิ่งที่ได้มีโอกาสเข้าร่วมกิจกรรมในครั้งนี้ที่จัดโดย บริษัท พีเอ็มจี คอร์ปอเรชั่น จำกัด กับหน่วยงานภาครัฐและสถาบันการเงิน ซึ่งวัตถุประสงค์ของการจัดงานฯ สอดรับกับนโยบายเร่งด่วนของรัฐบาลที่มอบหมายให้ส่วนราชการที่เกี่ยวข้องดำเนินการลดรายจ่าย เพิ่มรายได้ ขยายโอกาส สร้างความเข้มแข็งให้ผู้ประกอบการ SMEs และธุรกิจแฟรนไชส์ ประกอบกับนโยบายของกระทรวงพาณิชย์ได้เร่งผลักดันการเพิ่มสัดส่วน GDP เอสเอ็มอีของไทยจาก 35% เป็น 40% ภายในปี 2570 โดยส่งเสริมพัฒนาธุรกิจไทยให้มีความก้าวทันในทุกสถานการณ์ สนับสนุนด้านสิ่งแวดล้อม ซึ่งภาคธุรกิจต้องปรับตัวต่อการเปลี่ยนแปลงทั้งการค้าในประเทศและการส่งออกต่างประเทศให้เติบโตอย่างต่อเนื่อง
รมช.พณ. กล่าวต่อว่า “สำหรับการส่งเสริมธุรกิจแฟรนไชส์ตนได้มอบนโยบายให้กรมพัฒนาธุรกิจการค้าหารือกับภาคเอกชนและหน่วยงานพันธมิตรเพื่อขอจัดสรรพื้นที่ทำเลการค้าในกรุงเทพฯ ในราคาพิเศษสำหรับผู้ประกอบการ SMEs และธุรกิจแฟรนไชส์ เช่น สถานีบริการน้ำมัน ห้างค้าปลีกขนาดใหญ่ และตลาดชุมชน โดยเบื้องต้นได้เจรจากับพันธมิตรและได้พื้นที่จำหน่ายสินค้าในราคาพิเศษแล้วจำนวน 124 แห่ง และพื้นที่ในส่วนต่างจังหวัดได้มอบหมายให้สำนักงานพาณิชย์จังหวัดทั้ง 76 จังหวัดเป็นผู้แทนเจรจากับภาคเอกชน เช่น ตลาดนัด ตลาดชุมชน ห้างค้าปลีกขนาดใหญ่ ห้างสรรพสินค้า สถานีบริการน้ำมัน และพื้นที่การค้าอื่นๆ ซึ่งจะทำให้เศรษฐกิจของประเทศสามารถเดินหน้าไปพร้อมกัน นอกจากนี้ ยังร่วมมือกับสถาบันการเงินในการให้สินเชื่ออัตราดอกเบี้ยพิเศษหรือแพ็กเกจพิเศษแก่ผู้สนใจที่ต้องการเข้ามาลงทุนในธุรกิจ SMEs และธุรกิจแฟรนไชส์ เพื่อเป็นการเปิดโอกาสในการเข้าถึงแหล่งเงินทุนได้ง่ายมากขึ้น”
“การมาเป็นประธานเปิดงาน “มหกรรมชี้ช่องรวยแฟรนไชส์ ครั้งที่ 15” ซึ่งเป็นงานที่รวมธุรกิจแฟรนไชส์ที่น่าลงทุนเริ่มต้นที่หลักหมื่น เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการเริ่มต้นธุรกิจใหม่หรือหารายได้เพิ่มเติม เป็นพื้นที่ให้คำปรึกษาด้านการเงินการลงทุนเพื่อเข้าถึงแหล่งเงินทุนสำหรับ SMEs ประชาชน และผู้สนใจทั่วไป เพื่อเป็นการสร้างธุรกิจให้มั่นคง เติบโต และเป็นนิมิตหมายที่ดี เกิดความร่วมมือกันระหว่างภาครัฐและภาคเอกชนอย่างแนบแน่น โดยภายในงานมีธุรกิจที่น่าลงทุนมากกว่า 60 บูธ 60 แบรนด์ ซึ่งคาดจะมีผู้เข้าชมงานกว่า 30,000 คน มีมูลค่าซื้อขายทางธุรกิจกว่า 120 ล้านบาท และยังเป็นโอกาสสำคัญของธุรกิจแฟรนไชส์ภายใต้การส่งเสริมของกระทรวงพาณิชย์ให้สามารถขยายธุรกิจให้เติบโต และสร้างอาชีพให้กับผู้ประกอบธุรกิจรายใหม่ได้อย่างไม่รู้จบ” รมช.พณ. กล่าวทิ้งท้าย