ข่าวปนคน คนปนข่าว
** ป.ป.ช.ยื้อคดีโจ๊ก ส่อช่วยกัน "บิ๊กต่อ" ก็หงอไม่เลิก งานนี้ "นายกฯนิด" ไม่บี้ไม่ได้แล้ว !?
ท่าที "เตะถ่วง" เลื่อนประชุมครั้งแล้วครั้งเล่า ของบอร์ด ป.ป.ช. ต่อกรณีคดี "โจ๊ก หวานเจี๊ยบ" พลตำรวจเอกสุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. ทำให้คิดถึงเรื่องเล่าหนาหูในองค์กรอิสระที่ไม่อิสระแห่งนี้ขึ้นมาตะหงิดๆ
เขาว่ากันว่า มีเจ้าหน้าที่ป.ป.ช. ที่ยังรับราชการอยู่คอยเป็นหูเป็นตา ช่วยผู้ต้องหา ซะงั้น
ทำกันเป็นทีม แต่คนที่ขยันขันแข่งกว่าคนอื่นๆ เรียกหากันว่า “ทิว ป.ป.ช.”
ผลงานของ "ทิว ป.ป.ช." ที่ผ่านมาถือว่าไม่ธรรมดา ให้การช่วยเหลือ บิ๊กตำรวจคนดังมาอย่างต่อเนื่องยาวนาน
อย่างเช่นเรื่องการแสดงบัญชีทรัพย์สิน หนี้สิน "ทิว ป.ป.ช." เป็นตัวกลางประสาน “อดีต ป.ป.ช.สอบตก” แนะนำช่องทางแสดงบัญชีทรัพย์สิน
วิชาที่อาจาร์ยมหาวิทยาลัยไหนก็สอนให้ไม่ได้ ไม่มีในหลักสูตร แต่งานนี้มีอยู่ที่ “ทิวป.ป ช.”จัดให้ มีการปั้นเรื่องซื้อขายพระกับ "เซียนดัง" เฮียอ. เป็นตุเป็นตะ แสดงให้เห็นว่า เจ้าหน้าที่ป.ป.ช.แทนที่ จะมาช่วยกันปราบปรามการทุจริต กลับหาช่องปกปิดการทุจริตให้ แบบนี้ก็ได้เหรอ?!
ถ้าพูดแบบโจ๊กๆ ของพรรค์นี้ ลูกน้องทำอะไร คนเป็นหัวหน้าก็ต้องรู้เรื่อง นี่หรือเปล่าที่คนเขาสงสัย เรื่องตำรวจมาเฟียเว็บพนันออนไลน์ มีผู้ใหญ่ในป.ป.ช. คอยช่วยเก็บเรื่อง ต้องการดองเรื่องไว้ โดยไม่ส่งให้หน่วยงานรับผิดชอบดำเนินการต่อ ดึงเวลาช่วยเหลือกัน
เรื่องนี้จะว่าไปแล้ว หากป.ป.ช.ทำตรงไปตรงมา ไม่เห็นมีอะไรต้องไปกังวล แต่กลับมีความพยายามสร้างความบิดเบี้ยว ประวิงเรื่องให้ผู้ต้องหา
งานนี้ก็ต้องบอกว่า “คดีโจ๊กและพวก” ได้เห็นถึงกระบวนการยุติธรรมในมือของป.ป.ช.นั้นเป็นอย่างไร
รวมไปถึง สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ที่ก็ไม่รู้ว่า "บิ๊กต่อ" พลตำรวจเอกต่อศักดิ์ สุขวิมล ผบ.ตร. จะ"เฟรนด์ลี่" พี่มีแต่ให้ กับ "โจ๊ก" และลูกน้องที่ถูกแจ้งขอกล่าวหาไปถึงไหน แต่ภาษาชาวบ้านเขาไม่ได้เรียกเฟรนด์ลี่กัน เขาเรียกว่า "หงอ"
ผบ.ตร.หงอ รองผบ.ตร. เป็นไปได้ ประเทศไทยแลนด์!!
ที่ควรเด็ดขาด จัดการกับลูกน้องโจ๊ก กลับ เฟรนด์ลี่ ลงแส้เบาๆ แค่สั่งย้าย แทนที่จะให้พักราชการไว้ก่อน หากพิสูจน์ข้อกล่าวหาได้ว่าไม่ผิด ค่อยกลับเข้ารับราชการต่อ อย่างนี้ไม่มีใครว่า
ท่าทีหงอของพลตำรวจเอกต่อศักดิ์ ที่มีต่อโจ๊กและลูกน้อง ทำให้องค์กรตำรวจเบื้องล่างเสื่อมศรัทธา เบื้องบนระดับบังคับบัญชา ก็ไม่มีใครเชื่อถือ ผบ.ตร.
เรียกว่า ถ้า "บิ๊กต่อ" ยังปล่อยให้โจ๊กเพียงคนเดียวทำ สตช.เละเทะ เลอะเทอะ แบบนี้ ข่าวลือแพร่สะพัดไปไม่หยุด ทำนองไก่เห็นตีนงู งูเห็นนมไก่ จึงไม่กล้าทำอะไรให้เด็ดขาด
ฟันธงไปเลยล่วงหน้าได้เลยว่า นี่จะเป็น “โบดำ”ที่ประชาชนจะจำไปตลอดกาล ว่าสมัยผบ.ตร. ชื่อ พลตำรวจเอกต่อศักดิ์ ซึ่งเหลือเวลาอีกไม่กี่เดือนจะเกษียณอายุราชการ ที่จำได้ก็คือ คดีโจ๊ก นี่แหละ!!
งานนี้หรือจะต้องถึงนายกรัฐมนตรี “เศรษฐา ทวีสิน” ในฐานะประธาน ก.ตร. ลงมาจัดการสั่งการ ผบ.ตร. หรือไม่
ในฐานนะ"นายกฯนิด" ประธาน ก.ตร.จะทนเห็นตำรวจคนหนึ่ง ทำลายองค์กรได้หรือ !?
ถ้านายกฯแสดงความเด็ดขาด สั่งการ " บิ๊กต่อ" ยืดอกรับดำเนินการไม่หงอ ฟันฉับๆ "ตำรวจสีดำ" จบกันสักที ตำรวจทั้งสตช. จะเทใจให้ทั้งนายกฯและบิ๊กต่อ ทันที
ปล่อยคาราคาซังไว้ สตช.มีแต่เสื่อมและทรุด แบบกู่ไม่กลับ.. นะครับนะ.
**สองพี่น้อง“วงษ์สุวรรณ” โดนไล่ต้อน สะท้อนเสื่อมอำนาจ บารมี
โดนเด็กคราวลูกคราวหลาน จิก ประจานกลางสภาแบบไม่ไว้หน้า ทั้งพี่ ทั้งน้อง สำหรับ “บิ๊กป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ สส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ และ “บิ๊กป๊อด” พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
โดยในการประชุมสภาเมื่อวานนี้ (29 ก.พ.) ช่วงกระทู้ถามสดด้วยวาจา และกระทู้ทั่วไป มีกระทู้สดด้วยวาจา 3 กระทู้ กระทู้ทั่วไปอีก 4 กระทู้ แต่มีรัฐมนตรีมาตอบเพียง 1 กระทู้ ซึ่งเป็นกระทู้ถามของสส.ฝั่งรัฐบาลด้วยกันเอง แบบชงมาให้ตบโชว์
ที่เป็นเรื่อง ก็มาจากกระทู้ถามทั่วไปของ “ชุติพงศ์ พิภพภิญโญ” สส.ระยอง พรรคก้าวไกล กรณีปัญหาช้างป่าในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาอ่างฤๅไน พื้นที่ป่ารอยต่อ 5 จังหวัดภาคตะวันออก รบกวนชาวบ้าน สร้างความเสียหายในพื้นที่ทางการเกษตร ถามนายกรัฐมนตรี ซึ่งนายกฯ ได้มอบหมายให้ “บิ๊กป๊อด” พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ มาชี้แจงแทน ซึ่งกระทู้นี้มีการเลื่อนมาถึง 3 ครั้งแล้วเนื่องจาก “บิ๊กป๊อด” แจ้งว่า ติดภารกิจไม่สามารถมาตอบได้ ซึ่งครั้งนี้ เป็นครั้งที่ 4 แต่มีการคอนเฟิร์ม มาแล้วว่า จะมาตอบ แต่พอถึงเวลาก็ไม่มาเหมือนเดิม
“ชุติพงศ์” บอกว่าตั้งแต่ช่วงปีใหม่มาถึงตอนนี้ มีคนตายไปแล้ว 13 ราย มีช้างป่าตาย 1 ตัว แต่พล.ต.อ.พัชรวาท ไม่เคยมาชี้แจงถึงแนวทางแก้ปัญหา ไม่เคยลงพื้นที่ หรือเคยไปงานศพผู้เสียชีวิตสักศพหรือไม่ แล้วนายกรัฐมนตรี จะเก็บรัฐมนตรีอย่างนี้ไว้ทำไม
“สส.ชุติพงศ์” บอกว่า มีคนถามมาว่า พี่ชาย (บิ๊กป้อม) เป็นประธานมูลนิธิป่ารอยต่อ 5 จังหวัดภาคตะวันออก น้องชาย คุมกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม จนตอนนี้คนเชาสงสัย ใครเอาช้างมาปล่อยหรือเปล่า...
อย่างรัฐบาลที่แล้ว “บิ๊กป้อม”ผู้พี่ ยังมาสภาตอบกระทู้ แม้จะตอบว่า “ไม่รู้ ไม่รู้” ก็ยังดีที่มา แต่นี่ “บิ๊กป๊อด” ผู้น้องบอก “ไม่มา ไม่มา” อย่างเดียว หรือจะต้องให้ตั้งกระทู้ถามไปที่บ้านจันทร์ส่องหล้า ถึงจะยอมมาตอบ
และในช่วงท้าย สส.ก้าวไกล ก็ได้ชูภาพ “พล.ต.อ.พัชรวาท” ประชดว่า กำลังตามหาคนหาย
ปกติ “พล.ต.อ.พัชรวาท” ก็จัดอยู่ในประเภทรัฐมนตรีโลกลืมอยู่แล้ว พอ สส.ก้าวไกล หยิบขึ้นมาประจาน ทำให้คนถึงว่า ในรัฐบาลนี้มีรัฐมนตรีชื่อนี้ด้วยหรือ (วะ)
ส่วน “บิ๊กป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ผู้พี่ ที่ก่อนหน้านี้บารมีมากล้น ใครๆ ก็อยากไปเป็นแขกที่ “บ้านป่ารอยต่อฯ” แต่เมื่อวานนี้ โดน “หมออ๋อง” ปดิพัทธ์ สันติภาดา รองประธานสภาฯ ประกาศไล่ออกสื่อ ไม่ให้ “บิ๊กป้อม”ใช้ห้องด้านหลังบัลลังก์ประธานสภาผู้แทนฯ
โดย“หมออ๋อง”ใช้คำว่า ไม่ควรมีการครอบครองปฏิปักษ์ หรือเข้ามาใช้งานโดยไม่ได้รับอนุญาต!!
ทั้งนี้ ห้องด้านหลังบัลลังก์ประธานสภานั้น ใช้สำหรับเป็นห้องประชุม หรือที่พักคอยสำหรับผู้มาชี้แจง เมื่อถูก “บิ๊กป้อม” และพลพรรคพลังประชารัฐยึดครอง ใช้เป็นที่พักผ่อน พบปะพูดคุย หรือรับประทานอาหาร ทำให้ผู้มาชี้แจงต้องไปรอที่ห้องพยาบาล
นอกจากประกาศออกสื่อดังๆ แล้ว “หมออ๋อง” ยังสั่งให้เลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ร่างระเบียบ เพื่อเป็นมาตรฐานการใช้ห้องหลังบัลลังก์ดังกล่าว สำหรับเป็นห้องประชุมเท่านั้น ไม่ใช่ปล่อยให้ใครมาใช้ก็ได้ หากพูดแล้วไม่ฟังก็ต้องใช้ระเบียบมาบังคับ
นี่ขนาดอาคารรัฐสภาแห่งใหม่ มีจำนวนห้องให้ใช้มากมาย ยังเกิดปัญหาเช่นนี้ขึ้นมาได้
ทั้งกรณีของ “บิ๊กป๊อด”ถูกประจานเรื่องหนีกระทู้ และ “บิ๊กป้อม”ถูกไล่ไม่ให้ใช้ห้องด้านหลังบัลลังก์ประธานสภา ย่อมสะท้อนให้เห็นว่า จากบารมีของสองพี่น้อง “ตระกูลวงษ์สุวรรณ” ที่เคยเบ่งบาน รุ่งโรจน์ บัดนี้มันช่างตกต่ำ ห่อเหี่ยว จนใครๆก็ไม่ให้ความ“เกรงใจ”แล้ว