xs
xsm
sm
md
lg

ปาหี่ก้าวไกล“บิ๊กดีล”คับปาก ปัดซักฟอกรัฐบาล!?

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ - ทักษิณ ชินวัตร
เมืองไทย 360 องศา

พิจารณาตามรูปการณ์และสัญญาณล่าสุดที่ออกมาทำให้พอมองออกแล้วว่าพรรคก้าวไกล จะไม่ขอเปิดอภิปรายทั่วไปเพื่อลงมติไม่ไว้วางใจรัฐมนตรี เป็นรายบุคคลตามมาตรา 151 โดยอ้างเหตุผลว่า รัฐบาลยังไม่ได้ใช้งบประมาณในการบริหารราชการแผ่นดิน แม้ว่าล่าสุดนายชัยธวัช ตุลาธน หัวหน้าพรรค และผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนฯ จะยืนยันว่ายังมีการอภิปรายไม่ไว้วางใจ แบบไม่ลงมติก็ตาม แต่ความหมายมันผิดกันลิบลับ

ก่อนหน้านี้นายปกรณ์วุฒิอุดมพิพัฒน์สกุล สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ในฐานะประธานวิปฝ่ายค้าน กล่าวถึงความคืบหน้าในการยื่นญัตติอภิปรายรัฐบาลว่าจากการพูดคุยอย่างเป็นทางการครั้งที่แล้วเมื่อกลางเดือนที่ผ่านมา พรรคร่วมฝ่ายค้าน ก็ได้มีการพูดคุยกัน โดยค่อนข้างชัดเจนแล้วว่าสมาชิกวุฒิสภา (สว.) จะเปิดอภิปรายทั่วไปปลายเดือน มี.ค. และในช่วงใกล้เคียงกัน จะมีวาระ 2 ของ ร่างพระราชบัญญัติ(พ.ร.บ.) งบประมาณรายจ่ายประจำ ปีงบประมาณ 2567 ซึ่งดูจากไทม์ไลน์แล้ว คิดว่าอาจจะยังไม่มีการเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจ หรืออภิปรายทั่วไปในสมัยประชุมนี้

“ต้องบอกตามตรงว่าซักฟอกที่เป็นอภิปรายไม่ไว้วางใจโอกาสมีน้อยมากจริงๆ เพราะต้องยอมรับว่า รัฐบาลก็เพิ่งมา ยังไม่ได้ใช้งบประมาณที่ตนเองเป็นคนจัดทำ เลยแม้แต่บาทเดียว ก็ต้องพูดตามตรงว่า มีงบประมาณจริงๆก็หลังจากเดือนพ.ค. ถึงจะใช้งบประมาณที่รัฐบาลจัดทำขึ้นมาเป็นครั้งแรก”นายปกรณ์วุฒิระบุต่อว่า ปลายเดือนพ.ค. ก็จะมีร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำ ปีงบประมาณ 2568 ตนคิดว่าจะเป็นจุดเริ่มต้นที่ชัดเจนว่าตกลงแล้ว รัฐบาลจัดสรรงประมาณที่ตัวเองใช้อำ นาจเต็มอย่างไรบ้างและมีเวลาอยู่เกือบ 1 ปีในการจัดทำงบประมาณ 68 ว่ารูปร่างหน้าตาเป็นอย่างไรตนคิดว่าตอนนั้นข้อมูลทุกอย่างก็น่าจะค่อนข้างชัดเจนขึ้น ทั้งในเรื่องการดำ เนินนโยบาย และเป็นไปตามที่หาเสียงไว้หรือไม่และเป็นไปตามยุทธศาสตร์หรือวิสัยทัศน์ที่นายกรัฐมนตรีได้มอบหมายไว้หรือไม่รวมถึงการตามมาซึ่งทุจริตคอร์รัปชันต่างๆ ที่เราจะตรวจสอบอย่างเข้มข้นต่อไป

เมื่อถามว่าจำ เป็นต้องเป็นเรื่องงบประมาณอย่างเดียว หรือไม่ เพราะมีเรื่องอื่นให้อภิปรายนอกเหนือจากการใช้งบด้วย นายปกรณ์วุฒิกล่าวว่าตนคิดว่างบประมาณเป็นเรื่องใหญ่ เราก็ไม่อยากเป็นฝ่ายค้านที่หยิบยกประเด็นที่ไม่ได้สลักสำ คัญกับความเป็นอยู่ของพี่น้องประชาชนมาพูดให้มันเป็นเรื่องใหญ่มากจนเกินไป ตนคิดว่าเรื่องงบประมาณ การทุจริตคอร์รัปชันเป็น 1 เรื่องที่สำ คัญมาก ที่เราจะต้องตรวจสอบ ถ้าเป็นประเด็นการเมืองแล้วเราใช้โควตา โดยที่อาจจะต้องเว้นว่างไปอีก เราก็อาจจะต้องคำ นึงดีๆ

เมื่อถามถึงเรื่องนายทักษิณ ชินวัตรอดีตนายกรัฐมนตรีที่ถูกมองว่าฝ่ายค้านไม่กล้าแตะ นายปกรณ์วุฒิสวนทันทีว่า ตนเพิ่งถามกระทู้ไป ลำ พังพรรคก้าวไกลเอง ถามไป 2 รอบแล้ว ตนคิดว่าไม่ใช่เรื่องที่เราใจดีหรือโอนอ่อนอะไรไป ยืนยันว่าไม่ใช่เรื่องตัวบุคคล เวลาเราถาม เราก็ต้องตั้งคำ ถามเรื่องของระบบ ว่าระบบนี้ระเบียบนี้เป็นธรรมกับทุกคนจริงๆ หรือไม่

ฟังคำ พูดของประธานวิปฝ่ายค้านจากพรรคก้าวไกลคนนี้แล้ว ก็มั่นใจได้เลยว่า ในสมัยประชุมนี้จะไม่มีการยื่นอภิปราย “ซักฟอก” รัฐบาล ที่นำโดย นายเศรษฐา ทวีสิน จากพรรคเพื่อไทยอย่างแน่นอน โดยอ้างว่ารัฐบาลชุดนี้ยังไม่ได้ใช้งบประมาณแผ่นดิน เนื่องจากยังจัดทำ ไม่เสร็จและอ้างว่ายังไม่มีเรื่องใหญ่อื่นๆ ที่สามารถหยิบยกขึ้นมาอภิปรายไม่ไว้วางใจได้

ขณะที่ตอบคำ ถามกรณีของนายทักษิณ ชินวัตร ที่ถูกระบุว่า “ทำ ลายระบบยุติธรรม” ที่เชื่อมโยงไปถึงรัฐบาล และกระทรวงยุติธรรม ประธานวิปจากพรรคฝ่ายค้านคนนี้ก็อ้างว่า ที่ผ่านมาได้มีการยื่นกระทู้ถามในสภาไปแล้ว อีกทั้งไม่ได้พิจารณาเฉพาะตัวบุคคล แต่เป็นการตั้งคำ ถามในเรื่องของระบบ ระเบียบ ว่าเป็นธรรมกับทุกคนหรือไม่

แน่นอนว่าจากท่าทีดังกล่าวของพรรคก้าวไกลที่เวลานี้กลายเป็นฝ่ายค้านหลัก แต่ถูกมองด้วยความน่าสงสัยมากขึ้นประเภทว่ามีพฤติกรรมแปลกๆแบบ “ค้านไม่สุด” หรือ ชกไม่เต็มหมัดอะไรประมาณนั้น โดยเฉพาะอย่างยิ่ง “ไม่กล้าแตะทักษิณ”อย่างมากก็แค่เฉี่ยวไป เฉี่ยวมา เกาะกระแสเท่านั้นทั้งที่ประเด็นดังกล่าวถือว่าเป็นเรื่องใหญ่อีกเรื่องหนึ่งที่สะท้อนภาพ “ไร้มาตรฐาน” ไม่บังคับใช้กฎหมาย หรือเลือกปฏิบัติไม่เท่าเทียมกัน ซึ่งจะว่าไปแล้ว น่าจะเป็นเงื่อนไขสำ คัญที่สุดของพรรคนี้ที่มักอ้างในเรื่อง “คนต้องเท่ากัน” อยู่ตลอดเวลา แต่จากพฤติกรรม“เทวดา” ของนายทักษิณ ชินวัตรพรรคก้าวไกล แทบจะไม่มีการพูดถึงหรือแตะต้องอย่างจริงจังเลย

จากการไม่แตะ นายทักษิณ ชินวัตร ดังกล่าวทำ ให้หลายคนเกิดข้อสงสัย และตั้งคำ ถามว่าเป็นเพราะ “ดีลลับฮ่องกง” ก่อนหน้านี้ซึ่งนายธนาธรจึงรุ่งเรืองกิจ ที่ถูกมองว่าเป็นเจ้าของพรรคตัวจริงของพรรคก้าวไกล เคยยอมรับว่าได้ไปพบกับนายทักษิณ ที่ฮ่องกงแต่อ้างว่าไม่ได้คุยกันเรื่องการเมืองพร้อมกับย้ำว่าเป็นมิตรกับพรรคเพื่อไทย

และจากท่าทีที่แสดงออกชัดเจนแล้วว่า พรรคก้าวไกลจะไม่ซักฟอกรัฐบาลในสมัยประชุมนี้ทำ ให้หลายคนสงสัย และยกเอาเรื่อง “ดีลฮ่องกง”มาตั้งข้อสังเกตอีกครั้ง เช่น นายสามารถ เจนชัยจิตรวนิชอดีตผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ที่กล่าวว่า วันนี้สส.พรรคก้าวไกล หลายคนเขาก็บ่นกันว่า สิ่งที่เขาเห็นว่าการจะไปแก้มาตรา 112,116 นั้น มันไม่ใช่เรื่องที่จะทำ ให้ปากท้องประชาชนดีขึ้น วันนี้นายปกรณ์วุฒิมาสารภาพบาป สะท้อนให้เห็นถึงคำว่า “บิ๊กดีลที่ฮ่องกง”

“ฉะนั้นผมจึงมั่นใจว่า ถ้าการอภิปรายไม่เกิดขึ้นนั้น มีดีลอย่างแน่นอนคำ โบราณสุภาษิตจีนเขาพูดคำว่า ญาติย่อมสำ คัญกว่ามิตร ภาษาไทยก็คือเลือดย่อมข้นกว่าน้ำ จึงไม่แปลกที่นายธนาธรจึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้าจะมีนามสกุลเดียวกับคนในรัฐบาลของพรรคเพื่อไทย ไม่แปลกหรอก ที่จะไม่อภิปราย วันนี้ประชาชนโดนหลอก โดนต้ม ผมถึงบอกเขาว่า กระบวนการตรวจสอบรัฐบาล กลไกไม่ถูกทำ หน้าที่ ก็ต้องฝากประชาชนทำ หน้าที่ด้วย”

ดังนั้น เมื่อมองตามรูปการณ์แล้ว มันก็ไม่ต่างจาก “ปาหี่” ระหว่าง พรรคก้าวไกล กับเพื่อไทย ที่เอาเข้าจริงก็เป็นแค่เกมหลอกต้มชาวบ้านหรือเปล่าเพราะเมื่อพิจารณาจากความเคลื่อนไหวที่ผ่านมาทั้งหมด ไม่ว่าจะในสภา หรือนอกสภา ทุกอย่างเหมือนกับว่ามีคนกำ หนดให้เดินแค่ไหน หรือไม่ให้ล้ำ เส้นไปมากกว่านี้ แม้ว่าบางครั้งอาจดูขึงขัง แต่เป็นแค่เด็กๆ ส่วนระดับแกนนำ หรือ “เจ้าของ” กลับปิดปากเงียบไม่พูดสักแอะ !!.


กำลังโหลดความคิดเห็น