นายกฯ เยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์มรดกวัฒนธรรมอิสลาม-ศูนย์การเรียนรู้คัมภีร์อัล-กุรอาน ที่นราฯ รับพรดุอาอ์ขอให้สุขภาพแข็งแรง-ทุกสิ่งที่ตั้งใจเกิดผลสัมฤทธิ์-สันติสุขจงเกิดใน 3 จชต. เจ้าตัวยินดีฟังความเห็น ร่วมกันทำงาน ซื้อกระเป๋ากระจูด 3 ใบเตรียมหิ้วไปฝรั่งเศส โชว์ดีไซเนอร์ ชี้ 3 วันลงพื้นที่มีคุณค่า ปีหน้ามาดูความคืบหน้า ลั่นต้องเกิดสันติภาพ-สันติสุข
วันนี้ (29ก.พ.) เวลา 11.20 น. นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีเดินทางถึงพิพิธภัณฑ์มรดกวัฒนธรรมอิสลามและศูนย์การเรียนรู้คัมภีร์อัล-กุรอาน ต.ละหาร อ.ยี่งอ จ.นราธิวาส โดยมีประชาชนและข้าราชการรอให้การต้อนรับ พร้อมทำการแสดงเครื่องดนตรีกรือโต๊ะต้อนรับด้วย ก่อนที่นายกฯจะเดินเยี่ยมชมผลิตภัณฑ์โอท็อป และซื้อผลิตภัณฑ์จากต้นกระจูดของชาวบ้านชุมชนต.โคกเคียน อ.เมือง จ.นราธิวาส โดยเป็นกระเป๋าจักรสาน 3 ใบ ซึ่งนายกฯจะนำกระเป๋าทั้ง 3 ใบหิ้วขึ้นเครื่องไป ปฏิบัติภารกิจ ที่ประเทศฝรั่งเศลด้วย เพื่อที่จะให้ชาวฝรั่งเศสและนักดีไซเนอร์เห็นผลิตภัณฑ์ของไทย ขณะเดียวกันนายกฯยังได้ชมการสาธิตทาสีบนเรือกอและจำลอง ก่อนจะร่วมทดลองใช้พู่กันทาสีเหลืองลงบนเรือกอและจำลองด้วย
นอกจากนี้ นายกฯ ยังชมการแสดงยุทธศิลป์ถิ่นมลายู ซึ่งเป็นศิลปะการต่อสู้อันเก่าแก่ที่แพร่หลายในกลุ่มชาวมุสลิม ซึ่งมีชื่อเรียกว่า ปันจักสีลัต หรือสีละ ถือเป็นศิลปะการต่อสู้ของคนเชื้อสายมาลายู
ทั้งนี้ นายกฯยังได้แวะบูธชิมกาแฟอาริบิก้ายี่งอผสมน้ำผึ้งชันโรง พร้อมกล่าวว่า “อร่อย และให้รัฐมนตรีได้ร่วมชิมด้วย”
ต่อมานายกฯ ได้พบกับคณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัดนราธิวาส อ่านดุอาอ์ขอพรให้นายกฯมีกำลังใจ สุขภาพแข็งแรง ทุกสิ่งที่นายกฯตั้งใจให้เกิดผลสัมฤทธิ์ และสันติสุขจงเกิดขึ้นใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ขณะเดียวกันยังขอให้นายกฯให้ความสำคัญกับศาสนาอิสลาม ทั้งการจัดการเรียนการสอนของโรงเรียนสอนศาสนา และขอให้นายกฯช่วยแก้ไขปัญหาเรื่องยาเสพติดด้วย
ด้านนายกฯ กล่าวขอบคุณ คณะกรรมการอิสลาม ประจำจังหวัดนราธิวาสที่ให้พร พร้อมระบุว่าเนื่องในโอกาสที่จะเข้าในช่วงเทศกาลเดือนรอมฎอน ถือเป็นเทศกาลแห่งความอดทน ตนจึงขออวยพรให้ทุกท่านประสบแต่ความสุข ซึ่งรัฐบาลจะให้ความสำคัญกับเรื่องของความเสมอภาค ความเท่าเทียมและจะทำให้พื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ มีแต่ความสงบความเจริญยิ่งๆขึ้นไป ทั้งนี้ ภารกิจของตนที่ท่านบอกว่ายิ่งใหญ่ แต่ก็ไม่ยิ่งใหญ่ไปกว่าความปรารถนาของพวกท่านที่ จะเห็น 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้มีความสงบสันติ ซึ่งถือเป็นภารกิจอันใหญ่ที่ต้องร่วมกันทำ ซึ่งรัฐบาลยินดีเป็นส่วนหนึ่งไม่ว่าจะเป็นส่วนเล็กหรือส่วนน้อย โดยขอให้ทราบถึงความตั้งใจจริงของรัฐบาล ผู้นำท้องถิ่นเรายินดีที่จะรับฟังความคิดเห็น เพื่อทำงานร่วมกัน
ก่อนที่นายกฯ จะเดินพบปะกับนักเรียน และถ่ายรูปเซลฟี่อย่างเป็นกันเอง พร้อมทั้งเยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์ภัมภีร์อังกุรอาน ก่อนชมการโชว์เขียนชื่อ และนามสกุลนายกฯ เป็นภาษาอาหรับ และภาษาตุรกี ด้วยปากกาปากแบนโบราณบนกระดาษ จากนั้นผู้เขียนได้มอบกรอบรูปที่เขียนชื่อและนามสกุลนายกฯ ด้วยภาษาอาหรับบนลวดลายศิลปะ และมอบ กรอบรูปที่ปักชื่อนายกฯบนผ้า มอบให้นายกฯเป็นที่ระลึกด้วย ก่อนที่นายกฯจะชมการซ่อมคัมภีร์อัลกุรอานด้วยความสนใจ
จากนั้นนายกฯมอบนโยบายกับทางจังหวัดว่า 3 วันแล้วที่เราลงพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ตนคงไม่ต้องบอกว่าพวกเราและทีมงานหลายๆท่านที่ไม่เคยมา และได้รับการต้อนรับที่ประทับใจอย่างสูงสุด ดูได้จากสายตาของประชาชนทุกคนที่มาต้อนรับ เข้าใจได้ถึงการมองเห็นโอกาส ที่รัฐบาลจะนำมาให้ และเข้าใจถึงแนวทางการดำเนินการที่เราจะพยายามค้นหาวัฒนธรรมที่ดีๆสิ่งดีๆที่ยังไม่ได้มีการเผยแพร่และนำเสนอในพื้นที่ สามจังหวัดชายแดนภาคใต้
นายเศรษฐา กล่าวว่า ส่วนเรื่องปัญหาที่เกิดขึ้นในอดีต ทั้งความไม่สงบในระยะยาวก็จะมีการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจของรัฐบาลนี้ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการนำวัฒนธรรมของที่นี่ไปเผยแพร่ให้กับจังหวัดอื่นๆ หรือต่างประเทศ ทั้งอาหารการกินเป็นที่ประจักษ์ดีอยู่แล้วว่าไม่ได้ด้อยกว่าใคร
นายกฯ กล่าวว่า ส่วนปัญหาด่านศุลกากรต่างๆ ยังมีปัญหาอุปสรรคอยู่ ได้มีการจัดการให้แก้ไขบูรณาการอย่างทันที และถนนทางหลวงต่างๆทั้งการทำถนน เจาะอุโมงค์ พยายามพูดคุยตลอดให้ทยอยทำภายในก่อนสิ้นปีนี้ให้ได้ และเรื่องสนามบินจะต้องขึ้นอยู่กับปริมาณความต้องการ ทุกอย่างต้องใจเขาใจเรา
นายเศรษฐากล่าวว่า ส่วนการพูดคุยกับฝ่ายความมั่นคง การใช้สนามบินร่วมกันที่จังหวัดปัตตานีเดี๋ยวจะมีการพูดคุยกันว่าจะต้องดำเนินการอย่างไรบ้าง หลายๆเรื่องตนคิดว่ารัฐบาลนี้เข้าใจถึงปัญหานี้ว่าการที่เราได้ลงมาครบทุกกระทรวงทบวง กรม ทั้งฝ่ายความมั่นคง มหาดไทย วัฒนธรรม การท่องเที่ยวและกีฬา และยุติธรรม ซึ่งเป็นเจ้าของพื้นที่มีสส.อยู่เยอะ ก็ได้รับการตอบรับที่ดี ได้รับการพูดคุยปรึกษาปัญหาต่างๆ และการมาพบปะกันตนถือว่า 3 วันนี้เป็น 3 วันที่มีคุณค่า และรัฐบาลก็จะมาเยี่ยมเยียนอีกในปีหน้านี้เพื่อมาดูความคืบหน้าของโครงการต่างๆที่เราได้จัดสรรลงมา หากมีเวลาก็จะอยู่ให้นานกว่านี้
นายกรัฐมนตรี กล่าวด้วยว่า ขอขอบคุณ ฝ่ายความมั่นคงที่ดูแลเป็นอย่างดี เราไม่พูดถึงความไม่มั่นคง เราไม่พูดถึงความไม่สงบ แต่อยากพูดถึงความมั่นคงทางเศรษฐกิจ เราไม่เห็นเรื่องอาวุธหนักที่จะต้องเอามาคุ้มครอง ซึ่งถือเป็นนิมิตหมายอันดีที่เราจะได้เริ่มต้น ขอขอบคุณฝ่ายความมั่นคงและพื้นที่ที่กรุณาทำได้อย่างเหมาะสมและดีมาก พร้อมกับขอบคุณสส.ที่อยู่ในที่นี้และ 2-3 วันที่ผ่านมากับการต้อนรับที่อบอุ่น เข้าใจถึงปัญหาที่ชัดเจน ซึ่งก็เป็นหน้าที่ของรัฐบาลที่จะต้องพยายามทำให้ได้ ภูมิภาคนี้จะต้องเกิดทั้งความสันติภาพและสันติสุข
ต่อมานายกฯออกเดินทางโดยเครื่องบินกองทัพบก บ.ล. 295 จากท่าอากาศยานนราธิวาส ไปยังท่าอากาศยานทหาร 2 กองบิน 6 (บน.6) ดอนเมือง กรุงเทพฯกลับกรุงเทพฯ.