เมืองไทย 360 องศา
เมื่อวันก่อน “อุ๊งอิ๊ง” น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ลูกสาวของนายทักษิณ ชินวัตร ออกมาเปิดเผยว่า พ่อ คือนายทักษิณ อยากพบคนเสื้อแดง และ ส.ส.ของพรรคเพื่อไทย แม้ว่าจะพยายามสื่อออกมาในแบบ “คนคิดถึงกัน” แบบ “ครอบครัวเดียวกัน” หลังจากไม่ได้เจอตัวเป็นๆ กันนานนับสิบปี อะไรประมาณนั้น
แต่สำหรับในมุมการเมืองมันย่อมมีความหมายที่ “ซ่อนนัย” และมีเจตนาสื่อความหมายส่งญาณออกมาทั้งกับคนเสื้อแดง ที่เป็นฐานมวลชนเก่าแก่ ที่เคยเคลื่อนไหวสนับสนุนเขามาตลอด กับพวก ส.ส.ที่ต้องคุมฐานคะแนนเสียงในต่างจังหวัด ซึ่งหากมองแบบนี้มันย่อมเห็นภาพชัดเจน และประเมินสถานการณ์วันข้างหน้าได้ไม่ยาก
ขณะเดียวกัน เมื่อวันที่ 25 กุมภาพันธ์ ที่บ้านจันทร์ส่องหล้า ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สมาชิกครอบครัวชินวัตร ได้ทยอยเดินทางเข้าบ้านจันทร์ส่องหล้า เพื่อรอร่วมรับประทานอาหารเย็นกับนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี โดยเริ่มจาก น.ส.พินทองทา ชินวัตร คุณากร น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรคเพื่อไทย (พท.) เดินทางมาถึง คุณหญิงพจมาน ดามาพงศ์ นายพานทองแท้ ชินวัตร
นอกจากนี้ น.ส.แพทองธาร ยังอัปเดตอาการของนายทักษิณ ว่า คุณหมอแนะนำว่าอย่าเพิ่งไปไหน ให้พักก็จะดีที่สุด แต่สิ่งที่ตนสังเกตคือตอนที่คุณพ่อโทร.มา ตนรู้สึกว่าเสียงสดใส ซึ่งตนไม่ได้ยินมานานจริงๆ และรู้สึกว่าเขาคงสบายใจขึ้น คนเป็นลูกดีใจอยู่แล้วที่จิตใจเขาดูดีขึ้น ทั้งนี้ จริงๆ พ่อเป็นคนที่แอคทีฟมาก การที่ไปอยู่ที่เดิมนานๆ เขาซับเฟอร์แน่นอน ซัปเฟอร์มากๆ และยังบอกว่าได้ขึ้นบันไดครั้งแรก เขาบอกว่าเจ็บขา ก็ต้องพยายามเพราะเหมือนถูกจำกัดที่มานาน ก็ต้องปรับตัว แต่จิตใจดี
ส่วนที่มีมวลชนอยากเจอนายทักษิณนั้น น.ส.แพทองธาร ยืนยันว่า ยังไม่มีแผนอะไรในเวลาอันใกล้ แต่คิดว่าเขาคงอยากเจอแน่นอน ไม่ว่าจะเป็นคนเสื้อแดง หรือใครก็ตามที่เคยสนับสนุนคุณพ่อ หากโอเคเมื่อไหร่ ก็จะค่อยๆ ทยอยเจอ
เมื่อถามว่า นายทักษิณ มีแพลนจะทำอะไรการเมืองต่อจากนี้หรือไม่ น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า ยังไม่ได้พูดคุยอะไรเรื่องการเมือง แต่ตนในฐานะหัวหน้าพรรค พท. อยากให้คุณพ่อได้เจอคนในพรรคบ้าง เจอกันในเรื่องของทางใจ เพราะคิดว่าทุกคนคิดถึง แต่จะเป็นเมื่อไหร่ยังไม่ทราบ รอก่อน
เมื่อถามต่อว่า จะพาลูกพรรคมาหาที่บ้านหรือพาไปที่พรรค น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า จริงๆ ไม่ติด เอาที่คุณพ่อสะดวก หากคุณพ่อไปพรรค ก็จะได้รู้ว่าตนนั่งทำงานที่ไหน ส่วนจะเปิดบ้านให้มวลชนคนเสื้อแดงเข้าพบหรือไม่นั้น ขณะนี้ตนห่วงเรื่องโรคติดต่อ ขอให้รอสักพักดีกว่า รอให้คุณพ่อมีภูมิคุ้มกันที่ดีขึ้นก่อน ส่วนอาการดีขึ้นหรือไม่นั้น ทางร่างกายโอเค จิตใจก็ดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด รู้สึกว่าเขามีกำลังใจมากขึ้น
นั่นเป็นคำให้สัมภาษณ์ของ “อุ๊งอิ๊ง” น.ส.แพทองธาร ชินวัตร ที่เป็นทั้งหัวหน้าพรรคเพื่อไทย และลูกสาวของ นายทักษิณ ชินวัตร ซึ่งพอจับใจความสำคัญที่ต้องการสื่อให้เห็นสองสามอย่าง นั่นคือ การอยู่พร้อมหน้าของคนในครอบครัวชินวัตร ทั้งพ่อแม่ลูก จะพบกับ ส.ส.พรรคเพื่อไทย และมวลชนคนเสื้อแดงในเร็วๆ นี้
เรื่องแรกคือการพบกันพร้อมหน้าของครอบครัวชินวัตร โดยเฉพาะอย่างยิ่งการพบกันของ นายทักษิณ กับ คุณหญิงพจมาน ดามาพงศ์ แม้เชื่อว่าคงได้เจอกันหลายครั้งแล้ว เพียงแต่ว่าคราวนี้ต้องการสื่อให้เห็นอย่างน้อยในทางการเมืองให้เห็นว่า พวกเขา “ปึ้ก” กันขนาดไหน เหมือนกับว่าเป็นการ “รวมพลัง” กันสู้ศึกใหญ่ในวันข้างหน้า เพราะหากโฟกัสไปที่ คุณหญิงพจมาน ในอดีตถือว่าเป็นมือประสาน “สั่งการอยู่หลังม่าน” และแม้ว่าก่อนหน้านั้นพวกเขาจะมี “สถานะหย่า” กันก็ตาม แต่เชื่อว่าเป็นเหตุผลทางกฎหมายบางอย่างเท่านั้น
เอาเป็นว่าหากมองในมุมการเมืองแล้ว ก็มั่นใจว่า การพบกันของคนในครอบครัว เหมือนกับการส่งสัญญาณชัดเจนแล้วงานนี้ “เอาจริง” สำหรับสถานการณ์ภายหน้า ที่ยาวไปถึงการเลือกตั้งครั้งต่อไป รวมไปถึง “ดีล ยิ่งลักษณ์กลับมา” ซึ่งเชื่อว่าคงอีกไม่นาน ส่วนจะกลับมาแบบไหนค่อยมาว่ากันอีกที เพราะกรณีของ นายทักษิณ เหมือนกับเป็นการเบิกทางนำร่องมาก่อน และทำให้หลายคนเชื่อว่าจะต้องมี “อีกดีล” ที่พา น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร กลับบ้าน
ประการที่สอง และสาม ที่บอกว่าเตรียมพบกับ “คนเสื้อแดง” และ ส.ส.พรรคเพื่อไทย นั้นมองได้ไม่ยาก ว่านี่การ “กระชับความสัมพันธ์ทางการเมือง” เพราะทั้งสองส่วนมีความเชื่อมโยงกัน เกี่ยวกับ “ฐานการสนับสนุน” มาช้านาน แต่ในระยะหลังมีความห่างเหิน จนมีหลายคนแยกย้ายกันไปคนละทิศละทาง บางคนก็ไปมีสังกัดใหม่ กลายเป็นฝ่ายตรงข้ามเลยก็มีมากมาย ด้วยเหตุผลที่ระบุว่า “ถูกหลอกใช้” หรือหลอกให้ไปตายก็มี
ที่เห็นชัดเจนก็คือ กรณีของ นายจตุพร พรหมพันธุ์ อดีตประธาน นปช. หรือคนเสื้อแดงที่เวลานี้เปิดศึกกับ นายทักษิณ ชินวัตร อย่างออกรส วิพากษ์วิจารณ์ทั้งคนในครอบครัวชินวัตร และรัฐบาลพรรคเพื่อไทยอย่างดุเดือด และเต็มไปด้วยข้อมูลเชิงลึก จนสร้างผลกระทบกับพวกเขาอย่างมากทีเดียว
ขณะที่ “คนเสื้อแดง” ที่ยังเหนียวแน่นอยู่กับ นายทักษิณ พรรคเพื่อไทยถือว่าลดลงไปมากจากเหตุผลดังกล่าวข้างต้น ส่วนหนึ่งอาจเป็นเพราะกาลเวลาที่ผ่านมาเนิ่นนาน รวมทั้งสถานการณ์ทางการเมืองที่เปลี่ยนแปลงไปมากมาย ต่างคนต่างก็ต้องการเอาตัวรอด
การส่งสัญญาณกลับมาพบกันกับคนเสื้อแดง และ ส.ส.ในพรรคเพื่อไทยที่กำลังจะเกิดขึ้นในเร็วๆนี้ มันก็เหมือนกับการ “กระชับฐานสนับสนุน” ให้กลับมาอีกครั้ง หลังจากต้องสูญเสียมากมาย จนส่งผลกระทบต่อการเลือกตั้ง ที่พ่ายแพ้เป็นครั้งแรก โดยแพ้ให้กับพรรคก้าวไกล
แต่ขณะเดียวกัน การกลับมา “ออดอ้อน” ขอให้คนเสื้อแดงกลับมาอีกครั้งมันก็ไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะทุกอย่างมันเปลี่ยนไปแทบจะสิ้นเชิง ทั้งการรู้เช่นเห็นชาติ ที่ระยะเวลาเกือบยี่สิบปี หลายคนคงได้เห็นอะไรมามากมาย ในลักษณะที่เรียกว่า “ทิ้งมวลชน” เหมือนกับ “ถีบเรือทิ้ง” ขึ้นฝั่งเอาตัวรอดคนเดียว ซึ่งที่ผ่านมามีหลายคนระบายความในใจออกมาให้เห็นมาแล้ว
อย่างไรก็ดี เมื่อพิจารณากันตามรูปการณ์แล้ว ไม่ว่าผลข้างหน้าจะออกมาแบบไหน แต่สำหรับ นายทักษิณ ชินวัตร ต้องการพบมวลชน ต้องการเคลียร์ใจเพื่อหวังให้กลับมาเหมือนเดิม เพราะต้องไม่ลืมว่าศึกใหญ่รออยู่ข้างหน้า นั่นคือสนามเลือกตั้งคราวหน้า ในเกมรักษาและแย่งชิงอำนาจ ที่แบ่งเป็น “สองขั้วใหม่” ซึ่งคราวนี้ เขาต้องนำทัพด้วยตัวเองอย่างแท้จริง!!