“สุทิน” ซัดเด็กก้าวไกลไปศึกษาเทคนิคการกู้เรือก่อนพูด แจง ยกมาทั้งลำ เสี่ยงหัก-ผิดข้อตกลงกับสหรัฐฯ ลั่นปม รล.สุโขทัยล่ม ต้องมีคนถูกลงโทษ
เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 27 กุมภาพันธ์ ที่ทำเนียบรัฐบาล นายสุทิน คลังแสง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีพรรคก้าวไกล ออกมาตั้งข้อสังเกตเรื่องการกู้เรือหลวงสุโขทัย ที่ไม่กู้ขึ้นมาทั้งลำ และการล้มประมูลการกู้เรือก่อนหน้านี้ ว่า เรื่องนี้ตนเคยตอบคณะกรรมาธิการ (กมธ.) การทหาร สภาผู้แทนราษฎร ไปแล้วว่า ของเดิมเราจะกู้เอง แต่ทางสหรัฐอเมริกาซึ่งเป็นผู้ขายเรือให้กับกองทัพเรือ มีข้อตกลงว่า สหรัฐฯ ไม่อยากให้ชาติอื่นเข้าถึงเทคโนโลยีของเขา และมีข้อตกลงอยู่ว่า หากเรือมีปัญหาเขาจะเป็นฝ่ายเดินทางมาซ่อมเอง รวมถึงการกู้เรือ จึงต้องยอมรับข้อตกลงนี้ ส่วนวิธีการกู้เรือ คนพูดจะต้องเข้าใจเรื่องเทคนิค และกรรมวิธี นวัตกรรมในการกู้ เดิมคิดว่าจะยกขึ้นมาทั้งลำ แต่เสี่ยงที่เรือจะหัก ฉะนั้น ตนอยากให้ไปศึกษาวิธีการกู้เรือแล้วค่อยออกมาพูด ทั้งนี้ ทางสหรัฐฯได้มีการพูดคุยเรื่องนี้กับทางวิศวกรอย่างละเอียด ซึ่งเขาดูว่าการกู้ที่ดีที่สุด คือ การทยอยกู้ โดยเขาจะส่งทีมนักประดำน้ำลงไปสำรวจและถ่ายภาพขึ้นมาทั้งหมด เพื่อเป็นการเก็บหลักฐาน รวมถึงการสำรวจกำลังพลอีก 5 นายที่สูญหาย หากพบจะนำขึ้นมาก่อน หลังจากนั้นจะเป็นเรื่องเทคโนโลยีของเขาเอง
“เขายังบอกอีกว่า การกู้เรือด้วยการยกมาทั้งลำในหลายประเทศเคยทำมาแล้วหัก ยิ่งจะทำให้เสียหลักฐาน ส่วนการล้มประมูลนั้น การกู้เรือก่อนหน้านี้เกิดเหตุจากเราไม่สามารถฝืนข้อตกลงของสหรัฐฯได้ รวมทั้งเป็นการประหยัดงบประมาณ และทางสหรัฐฯ ก็ออกงบประมาณบางส่วนมากู้ ส่วนเราสมทบไปจำนวนหนึ่ง แต่ไม่มาก กองทัพเรือยืนยันว่าประหยัดงบของรัฐบาลและราชการ ฉะนั้น ดูแล้วมีแต่ประโยชน์มากกว่าเป็นโทษ” นายสุทิน กล่าว
ผู้สื่อข่าวถามว่า เชื่อหรือไม่ว่า กองทัพไม่ได้อำพรางซ่อนเร้น เพราะเรือจมอยู่ใต้ทะเล 1 ปี 2 เดือน หลักฐานต่างๆ อาจจะถูกทำลาย นายสุทิน กล่าวว่า ตนเชื่อว่า ไม่มีเจตนานั้น เพราะว่าเท่าที่ทราบเขาก็ดำเนินการสอบสวนกันอยู่ และจะต้องมีการลงโทษ ส่วนเรื่องหลักฐานเป็นเรื่องที่เราซีเรียส ได้กำชับไปทางสหรัฐฯว่าจะกู้วิธีไหนก็แล้วแต่ แต่เรื่องหลักฐานทางคดีต้องไม่ทำให้เสีย ซึ่งเขายืนยัน
เมื่อถามว่า ข้อครหาอย่างหนึ่ง คือ คำสั่งการที่มีส่วนทำให้ผู้การเรือสละเรือช้า นายสุทิน กล่าวว่า เป็นเรื่องที่สอบสวนกันอยู่ ซึ่งไม่เกี่ยวกับซากเรือ สามารถสอบสวนโดยสถานการณ์ และพยานแวดล้อมได้ ล่าสุด พล.ร.อ.อะดุง พันธุ์เอี่ยม ผู้บัญชาการทหารเรือ ได้ระบุว่า เรื่องคดีไม่มีการยุติหรือปิดไปกับการกู้เรือ เพราะฉะนั้นจะต้องมีคนที่จะต้องรับผิด