ข่าวปนคน คนปนข่าว
**เส้นทาง"ยอดนักกอล์ฟสาว "ที่ไม่ธรรมดาของ "แพตตีั -โปรเหมียว" ปภังกร ธวัชธนกิจ แชมป์ฮอนด้าแอลพีจีเอฯ คนล่าสุด
สร้างประวัติศาสตร์อีกหนึ่งหน้าให้กับวงการกอล์ฟเมืองไทยได้สำเร็จ สำหรับ “โปรเหมียว” หรือ "แพตตี้" ปภังกร ธวัชธนกิจ วัย 24 ที่นับเป็นนักกอล์ฟไทยคนที่ 2 ที่สามารถคว้าแชมป์แอลพีจีเอทัวร์ “ฮอนด้า แอลพีจีเอ ไทยแลนด์” ที่สยาม คันทรี คลับ โอลด์คอร์ส
คอกีฬาที่ติดตามผลงานต่างแสดงความยินดีและชื่นชม "โปรเหมียว" เป็นอย่างมาก ฟังว่า "เศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรมว.คลัง คือหนึ่งในนั้นเฝ้าเกาะติดตั้งแต่วันแรกที่แข่งขัน
พลันที่ “โปรเหมียว”คว้าแชมป์ นายกฯ โพสต์ข้อความผ่าน X ทันทีว่า “ขอแสดงความยินดีกับ โปรแพตตี้ น.ส.ปภังกร ธวัชธนกิจ ที่คว้าแชมป์กอล์ฟฮอนด้า แอลพีจีเอ ไทยแลนด์ 2024 มาได้ และกลายเป็นโปรกอล์ฟหญิงชาวไทย คนที่ 2 ที่ได้แชมป์รายการนี้ ขอบคุณสำหรับความทุ่มเท จนสามารถสร้างชื่อเสียง และนำความสุขมาให้พี่น้องชาวไทย”
ถึงตอนนี้ถ้าพูดถึง "โปรเหมียว" หลายคนย่อมต้องมองถึงอนาคตสดใสในระดับโลก ซึ่งเส้นทางสายอาชีพของเธอที่ผ่านมาต้องบอกว่า ไม่ธรรมดา
“ปภังกร” เป็นนักกอล์ฟอาชีพชาวไทย ที่แข่งขันในแอลพีจีเอทัวร์ ตั้งแต่ปี 2563
ปีถัดมา 4 เมษายน 2564 ด้วยวัยแค่ 21ปี "โปรเหมียว" คว้าแชมป์เป็นครั้งแรกในการแข่งขันแอลพีจีเอทัวร์ ในรายการ "เอเอ็นเอ อินสไปเรชั่น" ซึ่งเป็น 1 ใน 5 รายการเมเจอร์ในกอล์ฟอาชีพหญิง
ด้วยชัยชนะดังกล่าวทำให้ชื่อเสียงและอันดับของ "โปรเหมียว" พุ่งพรวดชั่วข้ามคืน
จากโปรเหมียวตามชื่อเล่นจริง มาเป็น "แพตตี้" เพื่อให้ฝรั่งจำง่าย
เบื้องหลังความสำเร็จของ “ปภังกร” ต้องยกเครดิต “ธนธัช และ ทิพยรัตน์ ธวัชธนกิจ” พ่อและแม่ที่เป็นนักธุรกิจที่สนับสนุนลูกสาวคนเดียวมาตลอด
ว่ากันว่า "โปรเหมียว" มีพรสวรรค์ในกีฬากอล์ฟมาตั้งแต่เริ่มเล่นตอนอายุ 9 ขวบ ทั้ง “ตีไกล-ไดรฟ์แรง” ผลงานกวาดแชมป์รุ่นเยาว์ในประเทศไทยแชมป์แล้วแชมป์เล่า เป็นที่ประจักษ์
หลังจากพรสวรรค์บวกกับฝีมือพัฒนาขึ้น พ่อจึงส่งให้เธอเรียนโรงเรียนอินเตอร์ ตั้งแต่เด็กด้วยความมุ่งมั่นพร้อมวางเป้าหมายอนาคตให้ปภังกร "เรียนและเล่นกอล์ฟ" ในสหรัฐฯ เพื่อบ่มเพาะการก้าวไปสู่ "ยอดนักกอล์ฟ" ระดับโลก
เมื่อเป้าหมายชัดเจน ก้าวย่างของ “ปภังกร” เริ่มจากเข้าร่วมการแข่งประเภทจูเนียร์ ที่สหรัฐฯซึ่งเธอก็ใช้ความสามารถจนได้แชมป์ต่างๆ มาหลายรายการ พร้อมทั้งคว้ารางวัล “ผู้เล่นระดับเยาวชนแห่งปีของโรเล็กซ์” ปี 2016 ซึ่งกลายเป็นประกาศนียบัตรสำคัญ ที่ทำให้มหาวิทยาลัยในสหรัฐฯ ถึง 20 แห่ง ยื่นข้อเสนอมาให้เธอรับทุนเรียนฟรี
“ปภังกร” ตัดสินใจเลือกเข้าศึกษา UCLA มหาวิทยาลัยชื่อดังเมืองแอลเอ รัฐแคลิฟอร์เนีย ซึ่งด้วยฝีมือที่พัฒนาขึ้นบวกกับความมุมานะของเธอระหว่างเรียนปี 1 ปี 2 ก็สามารถคว้าแชมป์ในรายการต่างๆ ที่มหาวิทยาลัยลงแข่งได้ถึง 7 รายการ จนได้รับการยกย่องให้เป็น “นักกอล์ฟน้องใหม่แห่งปี”
จากนั้นเธอตัดสินใจเข้าสู่วงการกอล์ฟอาชีพ ในปี 2019 และมาประสบความสำเร็จคว้าแชมป์ “เมเจอร์” ในปีต่อมาอย่างยิ่งใหญ่ดังกล่าว
การคว้าแชมป์แอลพีจีเอทัวร์ “ฮอนด้า แอลพีจีเอ ไทยแลนด์” ล่าสุด ย่อมการันตีความสามารถของ "แพตตี้" โปรเหมียว ปภังกร ธวัชธนกิจ ได้เป็นอย่างดี และนี่คือ "ยอดนักกอลฟ์สาว" ที่จะสร้างชื่อให้ตัวเอง และประเทศไทยไปยาวๆ
งานนี้คนไทยใจฟูไปอีกนาน
**ครอบครัวชินวัตรชื่นมื่น ดินเนอร์พร้อมหน้าพร้อมตาพ่อ แม่ ลูก...“อุ๊งอิ๊ง”บอกสภาพจิตใจพ่อดีขึ้นมาก
ครบ 1 สัปดาห์ ที่ “ทักษิณ ชินวัตร” ได้รับการพักโทษกลับมาอยู่ที่บ้านจันทร์ส่องหล้า โอกาสนี้ก็เลยมีการรับประทานอาหารมื้อเย็นร่วมกัน เฉพาะพ่อ แม่ ลูก 5 คน ก็มี... “ทักษิณ-คุณหญิงอ้อ-โอ๊ค-เอม-อิ๊ง” ไม่มีเขย ไม่มีสะใภ้ และหลานๆ มาร่วมวง
ซึ่ง“อุ๊งอิ๊ง” บอกว่า เป็นความต้องการของพ่อ ที่อยากจะย้อนความทรงจำวัยเด็กของลูกๆ ที่เคยอยู่บ้านหลังนี้ และจะพยายามมาทานข้าวร่วมกันสัปดาห์ละครั้ง ถ้าไม่พร้อมในวันอาทิตย์ อาจเป็นวันธรรมดาก็ได้ ส่วนเมนูอาหารมีอะไรบ้างนั้น “ทักษิณ” เป็นคนจัดเตรียมทั้งหมด ซึ่งต่อมา “อุ๊งอิ๊ง”ได้โพสต์ให้ดูเป็นตัวอย่างว่ามี สปาเกตตี้สูตรเฉพาะ และ ไข่คว่ำ
จังหวะนี้ “อุ๊งอิ๊ง” เลยถือโอกาสอัปเดตอาการป่วยของ “ทักษิณ” ว่า คุณหมอแนะนำ ช่วงนี้อย่าพึ่งไปไหน ให้พักผ่อนอยู่บ้านจะดีที่สุด แต่ที่สังเกตได้ชัดหลังจากได้โทรศัพท์พูดคุยกันคือ...
“เป็นเสียงสดใส ที่อิ๊ง ไม่ได้ยินมานานจริงๆ สดใสขึ้น และรู้สึกว่าคงสบายใจขึ้น คนเป็นลูกก็ดีใจอยู่แล้ว รู้สึกว่า จิตใจ ในใจเขาดูดีขึ้นเลย เพราะพ่อเป็นคนที่แอ็กทีฟมาก พออยู่ที่เดิมนานๆ เขา suffer แน่นอน”
“อุ๊งอิ๊ง”ยังบอกว่าพ่อเดินขี้นบันไดเป็นครั้งแรก ก็บอกว่าเจ็บขา แต่ก็พักและพยายาม เพราะถูกจำกัดที่มานาน อยู่ระหว่างการปรับตัว แค่ช่วง 1 สัปดาห์ที่ได้กลับมาอยู่บ้าน อาการทางกายเริ่มดีขึ้นบ้าง แต่สภาพจิตใจนั้นดีขึ้นมาก
ส่วนโรคเอ็นเปื่อยยุ่ยนั้น เป็นโรคคนแก่ ซึ่งตนเองได้ถามพ่อตอนที่เอ็นหลุด แล้วหมอให้ผ่าตัด พ่อบอกว่าแค่คว้าหยิบของ เอื้อมเร็วๆ เท่านั้น ไม่ได้มีการล้มใดๆทั้งสิ้น
ที่ผ่านมานั้น บุคคลสำคัญที่เข้าเยี่ยม “ทักษิณ” ซึ่งรับรู้กันอย่างเป็นทางการก็คือ “สมเด็จ ฮุนเซน” ประธานคณะองคมนตรี และอดีตนายกฯกัมพูชา เมื่อวันที่ 21ก.พ. และต่อมาเป็น “เศรษฐา ทวีสิน” นายกรัฐมนตรี เมื่อวันเสาร์ที่ 24 ก.พ.ที่ผ่านมา
สำหรับนักการเมืองและคนเก่าคนแก่จากพรรคเพื่อไทย รวมทั้งมวลชนคนเสื้อแดง จะมีโกาสได้เข้าไปเยี่ยมเยียนเมื่อไรนั้น “อุ๊งอิ๊ง” บอกว่า... ขณะนี้ยังไม่มีแผน หรือกำหนดการอะไรออกมา แต่คิดว่าพ่อคงอยากเจอแน่นอน เพราะคนเหล่านี้เคยสนับสนุนพ่อ ไม่ว่าจะเป็นคนเสื้อแดง หรือใครก็ตาม รวมถึงญาติๆ หลายๆคน ซึ่งตอนนี้ก็ยังไม่ได้เจอ ยังไม่ทราบแพลนอย่างไรบ้าง และคิดว่าถ้าพ่อโอเคเมื่อไร ก็คงจะทยอยเจอกัน
แต่โดยส่วนตัวส่วนตัว ขอบอกเลยว่า ยังไม่อยากเปิดบ้านให้ใครเข้าพบ เป็นห่วงเรื่องการติดไข้ เพราะช่วงนี้ไข้หวัดสายพันธุ์ต่างๆ กำลังระบาด จึงอยากให้รอสักพัก ให้ภูมิคุ้มกันดีๆ ก่อน เพราะหากติดมา จะได้ไม่ทรุดมาก
ส่วนประเด็นการเมืองที่กำลังมีเสียงวิพากษ์วิจารณ์ว่า หลังจากนี้ “ทักษิณ” จะเป็นผู้กำหนดเกม ประเทศไทยจะมีนายกฯ 2 คน หรือ 3 คน ซึ่ง “อุ๊งอิ๊ง” ก็บอกว่า ที่ผ่านมา “ทักษิณ” ยังไม่เคยพูดเรื่องการเมืองเลย แต่ในฐานะที่ตอนนี้ตนเองเป็นหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ก็อยากให้ท่านไปที่พรรค ไปดูว่าตนเองนั่งทำงานตรงไหน ไปเจอคนในพรรคบ้าง ซึ่งเป็นเรื่องทางจิตใจ เพราะคนในพรรคก็คิดถึงพ่อ จึงอยากให้ได้ไปเจอ ส่วนจะเมื่อไรยังไม่รู้ คงต้องรอไปอีกสักระยะ หรืออาจให้ลูกพรรคมาหาที่บ้านก็ได้ แล้วแต่ท่านจะตัดสินใจ
ส่วนเรื่องนายกฯ 2 คน นั้น อุ๊งอิ๊ง” บอกว่า...“ตอนที่คุณเศรษฐา พึ่งขึ้นตำแหน่ง แล้วอยู่กับอิ๊ง ก็บอกเป็นนายกฯ 2 คน อยู่กับพ่อก็บอกเป็นนายกฯ 2 คน ให้คุณเศรษฐา ทำหน้าที่ของคุณเศรษฐาไป ดีหรือไม่ ไม่ต้องพูดเรื่องนี้แล้วมั๊ย...” เมื่อพูดถึงนายกฯ 3 คน “อุ๊งอิ๊ง”เลยได้แต่ถอนหายใจยาว...
เรื่องที่ “ทักษิณ” จะเข้ามามีบทบาท ทางการเมืองหลังจากที่ โดยที่บางกระแสบอกว่า อาจจะเข้ามาเป็น “ที่ปรึกษานายกฯ” นั้น ในทางพฤตินัย ใครๆก็รู้ว่า“ทักษิณ”ใหญ่กว่านายกฯ แล้วจะต้องมามีชื่อเป็นที่ปรึกษานายกฯ ให้ตัวเองดู “เล็กลง” ทำไมเล่า
ดังนั้น ตัดไปได้เลยที่ “ทักษิณ”จะยอมเป็นที่ปรึกษานายกฯ