xs
xsm
sm
md
lg

“อนุชา” โชว์ศักยภาพการเกษตรไทย ต่อที่ประชุมโต๊ะกลมระดับ รมต. ย้ำ ไทยให้ความสำคัญปกป้องดิน-น้ำ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



รมช.เกษตรฯ โชว์ศักยภาพด้านการเกษตรของไทย ต่อที่ประชุมโต๊ะกลมระดับรัฐมนตรี ย้ำ ไทยให้ความสำคัญในการปกป้อง ดูแล รักษาทรัพยากรดินและน้ำ

วันนี้ (21 ก.พ.) ณ กรุงโคลัมโบ สาธารณรัฐสังคมนิยมประชาธิปไตยศรีลังกา นายอนุชา นาคาศัย รัฐมนตรึช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้นำเสนอต่อที่ประชุมโต๊ะกลมระดับรัฐมนตรี ของการประชุมสมัชชาองค์การอาหารและการเกษตรแห่งสหประชาชาติ ประจำภูมิภาคเอเชียและแปซิฟิก ระดับรัฐมนตรี ครั้งที่ 37 ถึงการดำเนินงานเพื่อพลิกโฉมระบบเกษตรและอาหารของประเทศไทยให้ยั่งยืน ยืดหยุ่น และเป็นธรรม

นายอนุชา ได้เน้นย้ำต่อที่ประชุม ว่า ประเทศไทย ให้ความสำคัญกับการสร้างความตระหนักและให้ความรู้แก่ทุกภาคส่วน ในการปกป้อง ดูแล รักษาทรัพยากรดินและน้ำ ซึ่งเป็นรากฐานของกระบวนการผลิตอาหาร ระบบนิเวศ และสุขภาวะที่ดีของมนุษย์ นอกจากนี้ มีการดำเนินโครงการเสริมสร้างความสามารถในการรับมือต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศในลุ่มน้ำของประเทศไทย ด้วยการบริหารจัดการน้ำที่มีประสิทธิภาพ และการเกษตรแบบยั่งยืน รวมถึงการพัฒนาระบบบริหารข้อมูลด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศเพื่อการชลประทาน

นอกจากนี้ ประเทศไทย ยังได้ดำเนินการโครงการนำร่อง โครงการเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตและลดภาวะโลกร้อนจากการทำนาเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน ได้สนับสนุนชาวนาด้วยการส่งเสริมเทคโนโลยีที่ช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกจากการทำนา ในพื้นที่เขตชลประทานภาคกลาง ส่งผลให้ชาวนามีรายได้ที่เพิ่มขึ้น และสามารถปรับตัวจากผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศได้มากขึ้น ความสำเร็จของโครงการนี้ ได้ขยายผลไปสู่โครงการเพิ่มศักยภาพการปลูกข้าวที่เท่าทันต่อภูมิอากาศ ผ่านการลงทุนจากกองทุนภูมิอากาศสีเขียว ที่มีมูลค่าถึง 38 ล้านยูโร หรือ1,500 ล้านบาท พร้อมกับการลงทุนร่วมจากหน่วยงานภาครัฐที่สำคัญของประเทศไทย มีเป้าหมายเข้าถึงเกษตรกรที่ปลูกข้าวจำนวน 250,000 ราย

นายอนุชา กล่าวต่อไปว่า ประเทศไทยยังได้เริ่มโครงการพัฒนากระบวนการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกในการผลิตพืชเศรษฐกิจ (อ้อย ปาล์มน้ำมัน มันสำปะหลัง ยางพารา ทุเรียน และมะม่วง) เพื่อพัฒนาบุคลากรของไทยให้เป็นผู้ตรวจประเมินรับรองคาร์บอนเครดิตและภายใต้กรอบโครงการลดก๊าซเรือนกระจกภาคสมัครใจตามมาตรฐานของประเทศไทยและเพื่อพัฒนามาตรฐานการจัดการทางด้านคาร์บอนเครดิตในพืชเศรษฐกิจดังกล่าว โดยประเทศไทยยินดีที่จะแลกเปลี่ยนและแบ่งปันความรู้กับประเทศสมาชิกภูมิภาคเอเชียและแปซิฟิกเพื่อให้เป็นภูมิภาคที่มีความมั่นคงและปลอดภัยทางอาหาร และมีระบบอาหารที่ยั่งยืนต่อไป


กำลังโหลดความคิดเห็น