วันนี้(19 ก.พ.)ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ได้มีความเคลื่อนไหว ของตัวแทนกลุ่มขบวนการประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรม (พีมูฟ) และตัวแทนภาค SAVE บางกลอย “บางกลอยคืนถิ่น” ที่ปักหลักเรียกร้องขอความชัดเจนบริเวณทำเนียบรัฐบาลมา 15 วัน เพื่อติดตามความคืบหน้าการแก้ไขปัญหาคดีความของกลุ่มชาวบางกลอยคืนถิ่น 28 คน รวมไปถึงการกลับขึ้นไปยังพื้นที่บางกลอยบนของชาวบ้าน โดยล่าสุด นายพชร คำชำนาญ กองเลขานุการขบวนการประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรม หรือ พีมูฟ กล่าวถึง การติดตามคดีที่ฟ้องร้อง นายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร คดีฆาตกรรม บิลลี่ พอละจี รักจงเจริญ ว่า ตอนนี้เข้าใจว่า นายชัยวัฒน์ ยังคงทำหน้าที่เป็น ผอ.สำนักอุทยานแห่งชาติ ตามปกติเหมือนไม่มีความผิดใดๆ และถือว่ามีตำแหน่งใหญ่กว่าในสมัยที่เป็นหัวหน้าอุทยานแห่งชาติแก่งกระจานเสียอีก เพราะมีหน้าที่ไปตรวจตราหลายอุทยานฯ รวมถึงข้อพิพาทในหลายพื้นที่ เช่นกรณีอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ เป็นต้น
ดังนั้น ในเรื่องคดี “ฆาตกรรมบิลลี่” ซึ่งมีคนเสียชีวิตจริงในอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน จึงเป็นเหตุผล ที่ทางทีมทนายของชาวบ้านในขณะนั้น ได้มีการยื่นฟ้องต่อศาล ในกรณีการใช้ความรุนแรง เช่นกันเผาบ้าน หรือแม้กระทั่งคดีที่เชื่อได้ว่าเกี่ยวข้องกับอาชญากรรม "บิลลี่" จนถึงวันนี้ก็ยังไม่มีความกระจ่างใดๆ ที่จะเยียวยาครอบครัวของ "บิลลี่" ซึ่งภาคประชาชนจะต้องติดตาม โดยเบื้องต้นทางกลุ่ม P-move ได้คุยกันเบื้องต้นในระหว่างชุมนุม ว่าจะติดตามร้องเรียนไปยังคณะกรรมาธิการที่เกี่ยวข้อง คือกรรมาธิการความมั่นคงแห่งรัฐ กิจการชายแดนไทย ยุทธศาสตร์ชาติและการปฏิรูปประเทศ สภาฯ เพื่ออยากทราบว่านายชัยวัฒน์ หลุดจากคดีได้อย่างไร แม้จะมีหลักฐานที่ชัดเจน ทั้งเรื่องการเผาบ้าน หรือการบังคับสูญหาย ที่เชื่อได้ว่าอาจจะเป็นนายชัยวัฒน์ อยู่เบื้องหลังของเรื่องนี้
นายพชร กล่าวทิ้งท้ายว่า "บิลลี่" เสียชีวิตในปี 2557 จนถึงวันนี้ 10 ปี ของการจากไป ที่ถือเป็นกรณีที่ชัดเจนที่สุดในประเทศ ว่าเป็นการกระทำจากเจ้าหน้าที่รัฐ ดังนั้น พวกเราจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องร่วมผลักดันกฎหมายการซ้อมทรมานและบังคับสูญหาย รวมถึงจดจำการต่อสู้ของ "บิลลี่" ที่ส่งต่อมาถึงพี่น้องบางกลอยในปัจจุบัน คือ เรื่องการทวงคืนศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ในฐานะชนเผ่าพื้นเมือง การออกมาต่อสู้ส่งเสียงสู่รัฐบาลและคนในสังคมว่าพวกเขามีตัวตน โดยเชื่อว่าอุดมการณ์เหล่านี้ยังอยู่และส่งต่อมาถึงคนรุ่นหลัง การกลับบ้านยังคงดำเนินต่อไป แม้ว่าฆ่า "บิลลี่" แล้วทุกอย่างจะจบแต่ไม่จบ "บิลลี่" คือสัญลักษณ์ของ "การต่อสู้เพื่อเผ่าพันธุ์ของพี่น้องกลุ่มชาติพันธุ์" และอยากให้จดจำอุดมการณ์ของ "บิลลี่" ที่อยากจะกลับขึ้นไปดำรงวิถี และอยากให้ทุกคนออกมาส่งเสียงเรียกร้องเพื่อช่วยพี่น้องบางกลอยรุ่นนี้ให้ได้กลับขึ้นไป ตามเจตนารมณ์ของ "บิลลี่" ไม่ควรมีใครที่ต้องตกเป็นเหยื่ออาชญากรรมโดยรัฐ เพียงแค่เพราะออกมาต่อต้านการใช้ความรุนแรงในรัฐ
เมื่อถามว่า ทางกลุ่ม P-move มีการติดตามความเคลื่อนไหว นายชัยวัฒน์ อย่างไรบ้าง ตัวแทนกลุ่ม P-move ระบุว่าที่เห็นได้อย่างชัดเจน และเป็นเรื่องที่น่ากังวล เพราะนายชัยวัฒน์ ดูแลติดตามควบคุมพื้นที่อุทยานแห่งชาติทั่วประเทศ หมายความว่าจะเดินทางไปที่ไหนก็ได้ ทำให้คนในพื้นที่ต้องเตรียมการสำหรับตั้งรับเป็นอย่างดี และไม่มีหลักประกันว่านายชัยวัฒน์ จะรับฟัง หรือจะไม่มีการปราบปราม หรือใช้ความรุนแรงในระดับพื้นที่อีก มีการใช้วาจาข่มเหงเจ้าหน้าหน้าที่รัฐ ส่วนเรื่องหมุดที่เขาใหญ่ นั้น ส่วนตัวมองว่า ตอนที่ประกาศเป็นพื้นที่อุทยานแห่งชาติ ตามกฎหมายอุทยานแห่งชาติ ปี 2504 ไม่ได้มีการกันพื้นที่ชาวบ้านออก ไม่ได้มีกระบวนการมีส่วนร่วม ดังนั้น ชาวบ้านที่อยู่ในพื้นที่ ไม่ว่าจะเป็นชุมชน หรือพื้นที่การเกษตรที่ทำอยู่แล้วจึงไม่รู้ด้วยซ้ำว่าพื้นที่ตรงนั้นถูกประกาศเป็นพื้นที่อุทยาน และไม่รู้ด้วยซ้ำว่าจะออกมาต่อสู้อย่างไร ซึ่งถือว่าเป็นความไม่เป็นธรรมแรกของกรมอุทยานแห่งชาติฯ และไม่ได้หมายความเพียงแค่นายชัยวัฒน์ แต่ยังหมายถึง กระบวนการประกาศของอุทยานแห่งชาติฯ ทั้งหมดที่มีปัญหาเรื่องการขาดการมีส่วนร่วมตั้งแต่แรก โดยทางกลุ่มฯ ยังคงต้องติดตามต่อเนื่อง
