“เศรษฐา” เป็น ปธ.มอบรางวัลอุตสาหกรรม ประจำปี 66 ชี้ โอกาสดี ศก.ไทยมีทิศทางเติบโต ย้ำ เดินหน้าเปิดตลาดส่งออก-ดึงนักลงทุนต่างชาติเข้าไทย นำทักษะใหม่ผลักดันอุตสาหกรรมไทยขยับให้เก่งขึ้น
วันนี้ (12 ก.พ.) ที่ตึกสันติไมตรี (หลังนอก) ทำเนียบรัฐบาล นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และ รมว.คลัง เป็นประธานในพิธีมอบรางวัลอุตสาหกรรม ประจำปี พ.ศ. 2566 (The Prime Minister's Industry Award 2023)
พร้อมกล่าวว่า รู้สึกยินดีและเป็นเกียรติอย่างยิ่ง ที่ได้มาเป็นประธานในพิธีมอบรางวัลอุตสาหกรรม ประจำปีพุทธศักราช 2566 รวมทั้งขอขอบคุณกระทรวงอุตสาหกรรมซึ่งเป็นหน่วยงานหลัก ด้านการพัฒนาและยกระดับศักยภาพภาคอุตสาหกรรมของประเทศที่ได้จัดให้มีพิธีมอบ �รางวัลอุตสาหกรรมในวันนี้ และขอแสดงความยินดีกับผู้ประกอบการที่ได้รับรางวัลอุตสาหกรรม�ยอดเยี่ยมและรางวัลอุตสาหกรรมดีเด่น ทั้ง 44 ท่าน
นายกฯ กล่าวว่า ในช่วงเวลาที่รัฐบาลได้เข้ามาบริหารประเทศ นับเป็นโอกาสดีที่เศรษฐกิจของไทยจะมีทิศทางการเติบโต และมีแนวโน้มปรับตัวดีขึ้น เป็นผลมาจากการขยายตัวของการอุปโภคบริโภคภาคเอกชนในเกือบทุกหมวดสินค้า โดยเฉพาะอย่างยิ่งหมวดบริการที่เกี่ยวเนื่องกับการท่องเที่ยวภายในประเทศ ตลอดจนภาคอุตสาหกรรม Soft Power ที่กำลังมีผลต่อการขับเคลื่อนเศรษฐกิจประเทศในหลากหลายมิติ
นายกฯ กล่าวว่า ส่วนภาคอุตสาหกรรมนั้น รัฐบาลตระหนักถึงความสำคัญที่มีต่อการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศมาโดยตลอด ซึ่งเป็นแหล่งการจ้างงาน และที่สำคัญเป็นภาคเศรษฐกิจ�ที่ทำรายได้ให้กับประเทศมากที่สุด นอกจากนี้ ยังเป็นแหล่งบ่มเพาะความรู้ เทคโนโลยีให้ก้าวหน้าและกระจายออกไปสู่ภาคอื่นๆ การสั่งสมประสบการณ์และความชำนาญของผู้ประกอบการไทยทำให้ภาคอุตสาหกรรมไทยไม่เป็นรองใครในโลกนี้ ซึ่งรัฐบาลได้ให้ความสำคัญต่อการพัฒนาศักยภาพของอุตสาหกรรมไทย และแข่งขันได้ในเวทีโลก โดยใช้ฐานความรู้อย่างสร้างสรรค์ การลดต้นทุนการผลิต การพัฒนาฝีมือแรงงาน และการบริหารจัดการที่ทันสมัย รวมทั้งการสร้างสภาพแวดล้อมทางธุรกิจให้เอื้อต่อการลงทุน เพื่อสนับสนุนความพร้อมของภาคอุตสาหกรรมไทย�ที่จะแสวงหาประโยชน์ได้เต็มศักยภาพ
นายเศรษฐา กล่าวว่า รัฐบาลจะช่วยเหลือและสนับสนุนการเจริญเติบโต โดยเฉพาะการส่งออก โดยจะช่วยเดินหน้าเปิดตลาดการส่งออกให้มากยิ่งขึ้น ผ่านการเซ็นสัญญา FTA กับประเทศต่างๆ และในขณะเดียวกัน ก็จะช่วยผลักดันการยกระดับศักยภาพ ผ่านการดึงดูดการลงทุนจากต่างประเทศ ซึ่งจะพาทักษะใหม่ๆ และห่วงโซ่อุปทานที่มีมูลค่าสูงขึ้นเข้ามา เป็นแรงผลักดันให้ภาคอุตสาหกรรมไทยต้องขยับตัวให้เก่งขึ้นด้วยและรัฐบาลขอสนับสนุนการเปลี่ยนผ่านไปยังอุตสาหกรรมที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากยิ่งขึ้น สอดคล้องกับเป้าหมายของประเทศที่จะเป็นกลางทางคาร์บอนในอนาคต
นายเศรษฐา กล่าวว่า ขอขอบคุณกระทรวงอุตสาหกรรมที่ได้จัดงานมอบรางวัลอุตสาหกรรม�ยอดเยี่ยมและรางวัลอุตสาหกรรมดีเด่นขึ้นเป็นประจำทุกปี ซึ่งนับได้ว่าเป็นการสนับสนุนและเป็นกำลังใจให้กับผู้ประกอบการที่จะพัฒนาคุณภาพและผลิตภัณฑ์ของตนเองให้มีมาตรฐาน และสามารถแข่งขันได้มากยิ่งขึ้นในเวทีการค้าโลกต่อไป พร้อมกันนี้ ขอแสดงความยินดีกับสถานประกอบการที่ได้รับรางวัลอุตสาหกรรมยอดเยี่ยมและรางวัลอุตสาหกรรมดีเด่นประจำปี พ.ศ. 2566 ทุกท่าน และขอให้ท่านรักษามาตรฐาน การดำเนินงานนี้ไว้อย่างสม่ำเสมอ เพื่อให้ได้รับ�การยอมรับในระดับสากลและนำอุตสาหกรรมไทยไปสู่การพัฒนาที่ยั่งยืนต่อไป
การทำงานของรัฐบาลนี้ จะเป็นการทำงานในเชิงรุก เราจะเปลี่ยนระบบวิธีการทำงาน เราจะพาเจ้าของบริษัท นักพัฒนาอุตสาหกรรมหลายๆ คน ที่อยู่ในที่นี้ ออกไปค้าในเวทีโลกให้มากขึ้น ซึ่งเป็นความหวังของรัฐบาลนี้ เพราะหากท่านมีพาร์ตเนอร์ในการลงทุน ที่จะเข้ามาลงทุนในประเทศร่วมกัน และพัฒนาศักยภาพอุตสาหกรรมไทยให้ดีขึ้นในอนาคต รัฐบาลยินดีให้การสนับสนุนทุกมิติ ทั้งจากบีโอไอ หรือการนำผู้บริหารระดับสูงของบริษัทร่วมทุนจากต่างชาติ มาเจอกับผู้นำรัฐบาลเช่น ตนหรือรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ตนเชื่อว่า จะเป็นมิติใหม่ในการทำงานเชิงรุกที่จะยกระดับภาคอุตสาหกรรม ไทยให้มีการแข่งขันที่ไม่น้อยหน้าใครในเวทีโลก