“เทพไท” ดักคอ! “ทักษิณ” รอดคดี ม.112 ไม่ถูกอายัด? วิเคราะห์และตั้งข้อสังเกตจาก 7 ประเด็น “แกนนำ คปท.” ซัด “เดอะอ้วน” ตรรกะวิบัติ เอาอะไรมาวัด “คปท.”เสียงส่วนน้อย “สมชาย” ข้องใจเรื่องป่วย จี้ รัฐบาลแถลงให้สังคมหายสงสัย
น่าสนใจเป็นอย่างยิ่ง วันนี้(7 ก.พ.67) นายเทพไท เสนพงศ์ อดีต ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) โพสต์เฟซบุ๊กหัวข้อ "ทักษิณ ได้พักโทษ ไม่ถูกอายัดตัว จะรอดคดี ม.112 ???"
เนื้อหาระบุว่า เมื่อวานนี้ (6 ก.พ.2567) ทีมงานโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด ได้ออกมาแถลงข่าว เกี่ยวกับการอายัดตัวคุณทักษิณ ชินวัตร ข้อหากระทำความผิดมาตรา 112 และการกระทำผิดพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ หลังจากได้รับการพักโทษ จากกรมราชทัณฑ์ ในวันที่ 18 กุมภาพันธ์ 2567 นั้น
ผมขออนุญาตวิเคราะห์ และตั้งข้อสังเกตดังนี้
1.คุณทักษิณเข้ามาประเทศไทย เมื่อวันที่ 22 สิงหาคม 2566 แต่ทำไมเพิ่งมาแจ้งข้อกล่าวหา เมื่อวันที่ 17 มกราคม 2567
2.การที่สำนักงานอัยการสูงสุด เข้าแจ้งข้อกล่าวหาคุณทักษิณ โดยพบกับตัวผู้ต้องหาโดยตรง ทำไมที่ผ่านมา ไม่มีข่าวเรื่องบุคคลอื่นไปพบคุณทักษิณเลย
3.เมื่อคุณทักษิณปฏิเสธข้อกล่าวหา และยื่นร้องขอความเป็นธรรม ต่ออัยการสูงสุด ผลที่จะออกมามี 3 ทาง คือ
(1)สั่งสอบเพิ่ม ตามข้อเท็จจริงที่ยื่นเพิ่มเติม
(2)คดีสมบูรณ์แล้ว สั่งฟ้องเหมือนเดิม
(3)เมื่อพิจารณาจากหลักฐานที่ยื่นมาใหม่มีน้ำหนักเพียงพอ อสส.มีคำสั่งไม่ฟ้อง
4.การถูกอายัดตัวและแจ้งข้อหาจะต้องดำเนินการอย่างเปิดเผยและยื่นขออนุญาตต่อศาลเพื่อฝากขัง และต้องใช้มาตรฐานเดียวกับผู้ต้องหาคดีมาตรา 112 คนอื่นๆที่ผ่านมา
5.การได้รับการพักโทษออกจากโรงพยาบาลตำรวจคุณทักษิณมีสภาพร่างกายพร้อมจะถูกดำเนินคดีหรือไม่
6.ถ้าคุณทักษิณออกจากโรงพยาบาลตำรวจ โดยสภาพเหมือนบุคคลปกติทั่วไป แสดงว่าที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่ของรัฐปกปิดข้อเท็จจริงต่อประชาชน
ส่วนตัวเชื่อว่า
1.คุณทักษิณจะไม่โดนอายัดตัว
2.ไม่ถูกนำตัวไปขออนุญาตฝากขังที่ศาล
3.ได้รับการปล่อยตัว โดยไม่ต้องประกันตัว
4.สำนักงานอัยการสูงสุดจะเปิดโอกาสให้ทักษิณแก้ข้อกล่าวหาได้อย่างเต็มที่
5.เมื่อพิจารณาพยานหลักฐานทั้ง 2 ฝ่ายแล้ว อัยการสูงสุดจะสั่งไม่ฟ้อง
6.ถ้าจำเป็นต้องสั่งฟ้องตามกระแสกดดัน ก็จะรอดชั้นศาล
7.คดีเกิดขึ้น ปี2558 ยุครัฐบาล คสช. ตอนนี้ยุครัฐบาลเพื่อไทย
ขณะเดียวกัน นายพิชิต ไชยมงคล แกนนำเครือข่ายนักศึกษาประชาชนปฏิรูปประเทศไทย(คปท.) โพสต์ความเห็นผ่านเฟซบุ๊กหัวข้อ "จริงกับน้อย"
โดยระบุว่า "รัฐบาลพร้อมฟัง คปท.ถึงแม้จะเป็นเสียงส่วนน้อย" รองนายกฯภูมิธรรม ได้พูดไว้เมื่อวาน
ถ้ารัฐบาลฟัง คปท.จริง เดอะอ้วนคงไม่พูดเช่นนี้หรอกครับ
1. สิ่งที่ คปท.พูดมันไม่ใช่เรื่องจำนวนคนมากหรือน้อย แต่เป็นเรื่องความจริงที่เห็นกันทั้งประเทศ
ตรรกะความจริงจะไปเปรียบเทียบว่าเสียงส่วนน้อยไม่ได้ ตรรกะวิบัติเช่นนี้ไม่รู้ระดับรองนายกรัฐมนตรีคนเดือนตุลาคิดได้อย่างไร
"ถ้าโจร 10 คนร่วมกันไปขโมยของแล้วเจอตำรวจ 1 คนมาจับ โจรลงมติว่าตำรวจเป็นเสียงส่วนน้อย" แบบนี้ได้ไหมครับ
2.คิดหรือว่า คนที่เห็นด้วยกับ คปท. มีจำนวนน้อย
ใช้เครื่องมืออะไรมาวัดจำนวนเรื่อง ความจริงกับความเท็จครับ หรือจะสำรวจความเห็นคนทั้งประเทศดี
คนที่เห็นด้วยว่า ทักษิณ ไม่ได้ติดคุกจริง ผมว่ามีมากกว่าคนที่เห็นว่า ทักษิณ ติดคุกอยู่นะ
การเอาความจริงไปเปรียบเทียบเรื่องจำนวนจึงเป็นความวิบัติทางความคิดมากที่สุด ถ้าพูดเรื่องจำนวน เพื่อไทยก็มีจำนวน ส.ส.น้อยกว่าก้าวไกล พวกท่านยังโกงความจริงมาจัดตั้งรัฐบาลเลย คุณภูมิธรรม
ที่น่าสนใจไม่แพ้กัน นายสมชาย แสวงการ สมาชิกวุฒิสภา(สว.) โพสต์เฟซบุ๊ก "สมชาย แสวงการ" ระบุว่า
“ขอบคุณการแถลงข่าวของสำนักอัยการสูงสุด ในความคืบหน้าคดีนายทักษิณ ถูกกล่าวหา ม.112 ยืนยันว่า อธิบดีอัยการและคณะ ร่วมกับพนักงานสอบสวน ได้เข้าแจ้งข้อกล่าวหาต่อนายทักษิณแล้ว
วันนี้สังคมคงพอได้อานิสงส์จากเรื่องนี้บ้างว่า อัยการและคณะคงน่าจะแจ้งข้อกล่าวหาต่อนายทักษิณที่รพ.ตำรวจในห้องผู้ป่วยชั้น14 กระมัง และการที่ผู้ต้องหาให้การปฏิเสธตลอดจนยื่นหนังสือร้องขอความเป็นธรรมต่างๆต่ออัยการสูงสุดได้ นั้น แสดงว่า อาการป่วยที่ยังไม่มีใครทราบว่า ป่วยวิกฤติร้ายแรงต่างๆนั้น
นักโทษเด็ดขาดรายนี้ หายดีขึ้นแล้ว ใช่หรือไม่ อย่างไร รัฐบาลน่าจะแถลงให้สังคมหายคลางแคลงใจบ้างนะ
#ทักษิณ #อัยการสูงสุด #นักโทษเทวดา”