xs
xsm
sm
md
lg

เล่นใหญ่! แอมเนสตี้ฯ ยื่น 7,301 รายชื่อ จี้รัฐบาลหยุดดำเนินคดี-ยกเลิกคำตัดสิน “อานนท์ นำภา” ทันที พร้อมแก้ กม.ละเมิดสิทธิเสรีภาพประชาชน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



แอมเนสตี้ฯ ยื่น 7,301 รายชื่อ ปฏิบัติการด่วน ถึงรัฐบาลไทย ยื่น 3 ข้อเรียกร้องนายกรัฐมนตรี-รมว.ยุติธรรม ปล่อยตัว-ยกเลิกคำตัดสินเดิม-หยุดดำเนินคดี “อานนท์ นำภา” พร้อมยกเลิกหรือแก้กฎหมายละเมิดสิทธิในเสรีภาพการแสดงออกของประชาชน

วันนี้ (5 ก.พ.) แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล ประเทศไทย ร่วมกับเครือข่ายนิรโทษกรรมประชาชน ได้รวมตัวกันบริเวณแยกมิสกวัน ใกล้ทำเนียบรัฐบาล พร้อมนำ 7,301 รายชื่อ จากการเปิดปฏิบัติการด่วน (URGENT ACTION) ของแอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล และยื่นข้อเรียกร้องถึง นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และ พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม หลังได้ขับเคลื่อนผลักดันให้คนทั่วโลกได้มีส่วนร่วมลงชื่อและส่งจดหมายเรียกร้องถึงรัฐบาลให้ปล่อยตัว นายอานนท์ นำภา ทนายความด้านสิทธิมนุษยชน ที่ถูกจำคุกด้วยความผิดตามมาตรา 112 โดยทันที และอย่างไม่มีเงื่อนไข และต้องยกเลิกข้อกล่าวหาและคำตัดสินในกระบวนการยุติธรรมที่เขาถูกดำเนินคดีความทั้งหมด รวมไปถึงประชาชน เด็กและเยาวชนทุกคน ที่แอมนเสตี้ฯ อ้างว่า ถูกดำเนินคดีความเพียงเพราะได้ใช้สิทธิในเสรีภาพการแสดงออกของตัวเอง

โดยมี นายสมคิด เชื้อคง รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง พร้อมคณะ ในนามตัวแทนจากทำเนียบรัฐบาล ออกมารับหนังสือข้อเรียกร้อง


นางปิยนุช โคตรสาร ผู้อำนวยการแอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล ประเทศไทย กล่าวว่า การนำรายชื่อประชาชน สมาชิก นักกิจกรรมจากทั่วโลก มายื่นเรียกร้องให้รัฐบาลไทยปล่อยตัวและยกเลิกข้อกล่าวหาทั้งหมดกับ นายอานนท์ นำภา นักปกป้องสิทธิมนุษยชน รวมถึงนักกิจกรรมคนอื่นๆ ในครั้งนี้ คือ ปฏิบัติการด่วนที่สำนักเลขาธิการใหญ่ แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล กรุงลอนดอน สหราชอาณาจักร ต้องการกระตุ้นให้ทางการไทยปฏิบัติตามพันธกรณีด้านสิทธิมนุษยชนระหว่างประเทศ ที่กำหนดให้รัฐบาลไทยต้องคุ้มครองสิทธิมนุษยชนประชาชนทุกคน ทั้งสิทธิในเสรีภาพการแสดงออก การสมาคม และการชุมนุมโดยสงบ รวมไปถึงการยกเลิก แก้ไขเพิ่มเติมกฎหมายที่จำกัดสิทธิมนุษยชน ซึ่งการรณรงค์นี้มีถึงวันที่ 2 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา

“4 ปีที่ผ่านมา พบว่า เกิดการดำเนินคดีความกับนักกิจกรรมและผู้ที่ออกมาใช้สิทธิในเสรีภาพการแสดงออกและการชุมนุมประท้วงโดยสงบจำนวนมาก สะท้อนให้เห็นว่าการออกมาใช้สิทธิมนุษยชนในประเทศของตัวเองกลายเป็นเรื่องน่าเศร้า เพราะทุกคนถูกจับกุมคุมขัง ถูกคุกคาม ถูกติดตาม หรือต้องจากบุคคลอันเป็นที่รัก ปัจจุบันพบตัวเลขผู้ถูกละเมิดสิทธิเรื่องนี้มากกว่า 1,938 คน ในจำนวนนี้มีเด็กถูกดำเนินคดีความไปแล้วอย่างน้อย 286 คน ซึ่งทำให้เห็นถึงความบกพร่องในหน้าที่ของรัฐบาลไทยอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ เพราะตามพันธกรณีกฎหมายระหว่างประเทศด้านสิทธิมนุษยชน กำหนดให้รัฐบาลไทยต้องเคารพ คุ้มครอง และส่งเสริมสิทธิมนุษยชนที่ทุกคนควรได้มีเสรีภาพในการแสดงออกและการชุมนุมประท้วงโดยสงบ” นางปิยนุช กล่าว


ผู้อำนวยการแอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล ประเทศไทย ฝากถึงกระบวนการยุติธรรมและรัฐบาลไทย โดยเน้นย้ำว่า สิทธิในการประตัว หรือปล่อยตัวชั่วคราว คือ สิทธิมนุษยชนที่ทุกคนควรได้รับเพราะเป็นสิทธิขั้นพื้นฐานที่สอดคล้องกับหลักการทางกฎหมายที่ให้สันนิษฐานไว้ก่อนว่า ผู้ถูกกล่าวหาในคดีอาญาเป็นผู้บริสุทธิ์จนกว่าจะมีคำพิพากษาถึงที่สุด

นอกจากนี้ นางปิยนุช ได้กล่าวย้ำถึงคำประกาศที่รัฐบาลไทยได้กล่าวไว้กับนานาชาติและประชาคมโลก ว่า ประเทศไทยจะลงสมัครสมาชิกคณะมนตรีสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ (HRC) ระหว่างปี 2568-2570 ที่ย้ำและให้พันธสัญญาว่าจะร่วมส่งเสริมสิทธิมนุษยชนในประเทศของตัวเอง และหากรัฐไทยต้องการเป็นส่วนหนึ่งของคณะมนตรีสิทธิมนุษยชนฯ รัฐไทยจะต้องเคารพ ค้มครอง สิทธิมนุษยชนในประเทศของตนเองตามที่ได้ประกาศไว้

“เมื่อวันที่ 27 กุมภาพันธ์ 2566 ที่ผ่านมา รัฐบาลไทยได้กล่าวถ้อยแถลงในการประชุมคณะมนตรีสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ หรือ HRC ว่า ประเทศไทยจะลงสมัครสมาชิก HRC ระหว่างปี 2568-2570 และรัฐไทยยังย้ำและให้พันธสัญญาต่อประชาคมโลกที่จะร่วมส่งเสริมสิทธิมนุษยชนในประเทศของตัวเอง แต่ประกาศนั้นอาจสวนทางกับสถานการณ์สิทธิมนุษยชนของประเทศไทยในปัจจุบัน หากรัฐบาลไทยต้องการเข้าร่วมเป็นหนึ่งในสมาชิกของ HRC ในปี 2568 รัฐบาลไทยควรเตรียมความพร้อมต่อหน้าที่และความรับผิดชอบ ในฐานะสมาชิกของคณะมนตรีสิทธิมนุษยชนฯ ซึ่งจะถูกจับตามองจากนานาชาติ ด้วยการเคารพ คุ้มครอง และส่งเสริม รวมไปถึงการแก้ไขเพิ่มเติมหรือยกเลิกกกฎหมายที่จำกัดสิทธิของผู้ที่ออกมาใช้เสรีภาพในการแสดงออกและการชุมนุมประท้วงโดยสงบ และควรตระหนักว่าสิทธิในการประกันตัวคือสิทธิมนุษยชน”


ดังนั้น ทาง แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล จึงมีข้อเรียกร้องถึงรัฐบาลไทย ดังต่อไปนี้

1. ปล่อยตัว นายอานนท์ นำภา นักปกป้องสิทธิมนุษยชนโดยทันทีและอย่างไม่มีเงื่อนไข รวมทั้งให้ยกเลิกคำตัดสินว่ามีความผิดและการดำเนินคดีใดๆ ต่อเขาและบุคคลอื่นๆ รวมทั้งเด็ก ซึ่งถูกดำเนินคดีเพียงเพราะการใช้สิทธิมนุษยชนของตน

2. ระหว่างที่ยังไม่ยกเลิกคำตัดสินว่ามีความผิดและการดำเนินคดี ต้องอนุญาตให้ นายอานนท์ นำภา และนักกิจกรรมคนอื่นมีสิทธิได้รับการปล่อยตัวชั่วคราว และประกันว่าเงื่อนไขการประกันตัวจะไม่เป็นการจำกัดโดยพลการต่อการใช้สิทธิของตนโดยสงบ

3. แก้ไขเพิ่มเติมหรือยกเลิกกฎหมายที่ถูกใช้เพื่อจำกัดสิทธิที่จะมีเสรีภาพในการแสดงออกและการชุมนุมโดยสงบ เพื่อประกันว่าประเทศไทยจะปฏิบัติตามพันธกรณีด้านสิทธิมนุษยชนระหว่างประเทศของตน
     


ด้าน นายสมคิด เชื้อคง รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ซึ่งเป็นตัวแทนรัฐบาลที่ออกมารับหนังสือ เปิดเผยว่า เรื่องนี้ทางรัฐบาลไม่ได้นิ่งนอนใจ และจะรับไปเร่งรัดพิจารณาโดยเฉพาะเรื่องกฎหมายนิรโทษกรรม มองว่า สำหรับนายอานนท์แล้วก็ถือว่าเป็นคนบ้านเดียวกับตน ก็ไม่ควรที่จะต้องถูกดำเนินคดีทางการเมืองลักษณะแบบนี้ ซึ่งในวันที่ 8 กุมภาพันธ์ นี้ สภาผู้แทนราษฎรจะมีการอภิปรายร่างกฎหมายนิรโทษกรรม ก็จะนำข้อเสนอต่างๆ จากประชาชนไปอภิปรายชี้แจงในที่ประชุมสภาให้ โดยเน้นย้ำว่า การยื่นนิรโทษกรรมในเวลานี้ ยังไม่ต้องพูดถึงว่าจะต้องยกเว้นความผิดตามกฎหมายข้อใดก็ตาม แต่ทางรัฐบาลจะเร่งรับเรื่องนี้ไปดำเนินการให้ต่อไป


ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 17 ม.ค. 2567 ที่ผ่านมา ศาลอาญาได้พิพากษาจำคุก นายอานนท์ นำภา 4 ปี ไม่รอลงอาญา กรณีโพสต์เฟซบุ๊กดูหมิ่นเบื้องสูงเมื่อต้นปี 2564 และก่อนหน้านั้น ศาลอาญาได้มีคำพิพากษา จำคุกนายอานนท์ 4 ปี ไม่รอลงอาญา ปรับ 20,000 บาท กรณีนายอานนท์ขณะเป็นแกนนำม็อบราษฎร ปราศรัยดูหมิ่นสถาบันบริเวณอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย เมื่อปี 2563 ซึ่งเมื่อรวมกันแล้ว นายอานนท์ จึงมีโทษจำคุก รวม 8 ปี

โดยคดีการปราศรัยเมื่อปี 2563 นั้น นายอานนท์ ได้รับการประกันตัวออกมาสู้คดี แต่เมื่อวันที่ 12 ก.ค. 2566 นายอานนท์ ได้ขึ้นปราศรัยปลุกระดมในการชุมนุมที่ลานสกายวอล์ก แยกปทุมวัน เจ้าหน้าที่จึงยื่นคำร้องขอให้ศาลสั่งถอนประกัน แต่ศาลยังไม่ได้ไต่สวนสำนวนการขอถอนประกัน ก็ถึงกำหนดวันอ่านคำพิพากษาก่อน คือวันที่ 26 ก.ย. 2566 ซึ่งศาลอาญาได้สั่งจำคุก 4 ปี ไม่รอลงอาญา ปรับ 20,000 บาท และนานอานน์ก็ถูกควบคุมตัวเข้าเรือนจำตั้งแต่วันนั้น












กำลังโหลดความคิดเห็น