รทสช.ประชุมตั้งกรรมการตรวจสอบ "เจ๋ง ดอกจิก-พิมณัฏฐา" ขณะเจ้าตัวชิงลาออกก่อน สั่งไล่เช็คประวัติคณะทำงานรัฐมนตรี-กมธ.ในส่วนของพรรค ยันเป็นความผิดส่วนบุคคล ไม่เกี่ยว การเมืองเล่นงานพรรค
เมื่อเวลา 15.00 น. วันที่ 30 ม.ค. ที่พรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) มีการประชุม สส.ของพรรค จากนั้นเวลา 16.00 น. มีการประชุมคณะกรรมการบริหารพรรค (กก.บห.) โดย นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พลังงาน ในฐานะหัวหน้าพรรค เดินทางเข้าร่วมประชุมโดยเข้าทางประตูด้านหลัง ส่วนนายยศวริศ ชูกล่อม หรือ “เจ๋ง ดอกจิก” และ น.ส.พิมณัฏฐา จิระพุทธิภาคย์ อดีตผู้สมัคร สส.รวมไทยสร้างชาติ ไม่ได้เดินทางแต่อย่างใด
ต่อมาเวลา 17.20 น. นายอัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ สส.ราชบุรี ในฐานะโฆษกพรรครวมไทยสร้างชาติ แถลงภายหลังการประชุม ว่า นายสัญญา นิลสุพรรณ สส. นครสวรรค์ พรรครวมไทยสร้างชาติ ในฐานะประธานกรรมาธิการกิจการศาล องค์กรอิสระ องค์กรอัยการ รัฐวิสาหกิจ องค์การมหาชน และกองทุน สภาผู้แทนราษฎรได้ลงนามให้ นายยศวริศ ชูกล่อม หรือ “เจ๋ง ดอกจิก” พ้นจากตำแหน่ง ที่ปรึกษาประธานกรรมาธิการกิจการศาลฯแล้ว ขณะที่ได้มีการตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง น.ส.พิมณัฏฐา จิระพุทธิภาคย์ อดีตผู้สมัคร สส.รวมไทยสร้างชาติ แต่น.ส.พิมณัฏฐา ได้ยื่นหนังสือลาออกจากการเป็นสมาชิกพรรควันเดียวกันนี้ กรรมการจึงไม่จำเป็นต้องตรวจสอบ
นายอัครเดช กล่าวว่า พรรคยังสั่งการให้ตรวจสอบคณะทำงานของคณะรัฐมนตรีในส่วนของพรรคและประธานกรรมาธิการ โดยภายในการประชุมพรรคครั้งหน้าให้ส่งรายชื่อให้เลขาธิการพรรครวมไทยสร้างชาติเพื่อตรวจสอบคุณสมบัติว่าไปกระทำการอันใดที่สร้างความเสียหายให้กับพรรคหรือไม่ ยืนยันว่าพรรคจะไม่มีการปกป้อง เบื้องต้นยังไม่พบสมาชิกบุคคลอื่นนอกเหนือจาก 2 คนที่มีความเชื่อมโยงกับข้อกล่าวหาข่มขู่เรียกเงินอธิบดีกรมการข้าว 3 ล้านบาท หากมีเพิ่มเติม ผู้บริหารพรรคยืนยันชัดเจนว่าจะไม่ปกป้องคนผิด หากมีข้อมูลก็พร้อมที่จะส่งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินคดี
เมื่อถามว่า ที่ประชุมได้พูดคุยหรือไม่ว่าเรื่องนี้อาจเป็นเรื่องเกี่ยวกับการเมือง โฆษกพรรครวมไทยสร้างชาติ กล่าวว่า ไม่ได้มองเรื่องนี้เป็นเรื่องการเมือง แต่มองเป็นเรื่องความบังเอิญ ที่จับตัว เจ๋ง ดอกจิก ที่ทำเนียบรัฐบาล มองเป็นความผิดทางอาญาส่วนบุคคล ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินการตามกฎหมาย หากวันดังกล่าวเจ๋ง ดอกจิก อยู่ที่รัฐสภาก็ต้องไปจับที่รัฐสภา
นายอัครเดช กล่าวว่า ส่วนที่สังคมสงสัยว่าให้ เจ๋ง ดอกจิก พ้นจากตำแหน่งคณะทำงานตั้งแต่เดือนธันวาคม 2566 แต่ยังปรากฏภาพ เจ๋ง ดอกจิก เข้าร่วมประชุมคณะทำงานตรวจราชการคณะ 11 และนายพีระพันธุ์ ได้ชี้แจงชัดเจนแล้วว่าต้องการผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนให้คนอื่นเข้ามาทำงาน จึงให้เจ๋งดอกจิกพ้นจากตำแหน่ง
เมื่อถามว่าได้พูดคุยกับคนที่นำ เจ๋ง ดอกจิก เข้ามาที่พรรคบ้างหรือไม่ นายอัครเดช กล่าวว่า ได้สอบถามเลขาธิการพรรคฯ แต่ยังไม่ได้ชี้แจงเรื่องนี้ คงจะมีการสอบถามอีกครั้งว่าใครเป็นคนพาเจ๋งดอกจิก เข้ามาในพรรค แต่เป็นที่ทราบกันอยู่แล้วว่า เจ๋ง ดอกจิก เคยเป็นแกนนำเสื้อแดง และกลับใจในนามกลุ่มคนไทยรักชาติ และส่วนตัวไม่ได้รู้จัก เจ๋ง ดอกจิก แต่ไปเจอกันที่สภา
เมื่อถามว่า ได้มีการร้องเรียนบุคคลทั้ง 2 เข้ามาที่พรรคบ้างหรือไม่ นายอัครเดช กล่าวว่า ไม่มีเลย และพรรคไม่ได้ระแคะระคาย ถ้ามีก็คงดำเนินการ หัวหน้าพรรคคงไม่ปล่อยไว้แน่นอน เพราะขนาดตอนนี้พอทราบเรื่องก็ได้ยกเลิกคำสั่งทันที เพราะฉะนั้นยืนยันได้ว่าเรื่องนี้เป็นพฤติกรรมส่วนบุคคล อย่างไรก็ตาม พรรครวมไทยสร้างชาติ มี 6 หมื่นกว่าคน ก็มีทั้งคนดีและคนไม่ดี ซึ่งเป็นเรื่องปกติของทุกพรรคการเมืองที่เป็นแบบนี้ แต่สิ่งที่สำคัญคือความรับผิดชอบของพรรคการเมืองและผู้บริหารพรรค เมื่อทราบเรื่องก็ให้พ้นจากตำแหน่งทันทีเพื่อให้เข้าสู่กระบวนการยุติธรรมเพื่อพิสูจน์ตัวเอง เราไม่มีที่จะมายื้อ แสดงให้เห็นความจริงใจ ในการไม่ปกป้องคนผิดและสนับสนุนให้ตำรวจดำเนินการตามกฎหมายอย่างเต็มที่
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการแถลงข่าวนายอัครเดช ยังได้นำเอกสารมาแสดงให้สื่อมวลชนดู ประกอบด้วย เอกสารที่นายสัญญา ได้ลงนามในหนังสือให้นายยศวริศ พ้นจากตำแหน่งที่ปรึกษาประธานกรรมาธิการ ตั้งแต่วันที่ 30 ม.ค. และใบลาออกจากการเป็นสมาชิกพรรค ของ น.ส.พิมณัฏฐา ที่ขอลาออกในวันเดียวกันนี้เช่นกัน
ด้าน นายเอกนัฎ พร้อมพันธุ์ เลขาธิการพรรค รวมไทยสร้างชาติ เปิดเผยว่า ได้มีการแก้ไขปัญหา เรื่องนี้เรียบร้อยแล้ว โดยในสัปดาห์หน้า สส. และรัฐมนตรีจะส่งรายชื่อบุคคลที่แต่งตั้งเป็นคณะทำงานมาให้ตรวจสอบ โดยขณะนี้อยู่ระหว่างทยอยส่ง ถ้าตรงไหนมีการตั้งข้อสังเกตก็จะเร่งตรวจสอบให้เร็วที่สุด เมื่อถามถึงบุคคลที่ชักนำนายเจ๋ง ดอกจิก ให้เข้ามาร่วมงาน นายเอกนัฎ กล่าวปฏิเสธว่า ขอไม่ไปตรงจุดนั้น ปัญหาอยู่ตรงไหน ก็จะไปแก้ตรงนั้น