"พิธา" ขออย่าเทียบภาพตนพบประธานาธิบดีเยอรมนี กับ "เศรษฐา" มองเป็นการจัดสรรเวลาพบทุกฝ่าย ขอบคุณเป็นห่วงสุขภาพประชาธิปไตยไทย ยอมรับเป็นกำลังใจที่ดีให้หลังกลับเข้าทำงานวันแรก
วันที่ 26 ม.ค. 2567 ที่รัฐสภา นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ สส.บัญชีรายชื่อ ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคก้าวไกล แถลงข่าวโรดแมปของพรรคก้าวไกล ปี 2567
ช่วงการสัมภาษณ์ นายพิธา กล่าวถึงภาพการเข้าพบ นายฟรังค์-วัลเทอร์ ชไตน์ไมเออร์ ประธานาธิบดีแห่งสหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี เมื่อวานนี้ (25 ม.ค. 67) ว่า เป็นคำเชิญจากทางเยอรมนี ไม่แน่ใจว่าเป็นความประสงค์ของท่านประธานาธิบดีโดยตรงหรือเปล่า แต่ว่ามีการติดต่อมาจากทางการเยอรมนีว่าขอพบปะอย่างไม่เป็นทางการ ก็ได้มีโอกาสพูดคุยกับท่านประธานาธิบดีและคณะประมาณ 30-40 นาที ก็ได้พูดคุยกันหลายเรื่อง
ส่วนกรณีที่ในการแถลงข่าวของประธานาธิบดีเยอรมนีกับนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีของไทยเมื่อวานนี้ ที่ทำเนียบรัฐบาล มีการพูดถึงคดีหุ้นสื่อไอทีวี และการมาพบกับนายพิธาจะมองว่ามีการนำไปเปรียบเทียบกับนายเศรษฐา หรือไม่ นายพิธา ระบุว่า คงไม่เป็นอย่างนั้น เท่าที่ดูตารางงาน ท่านประธานาธิบดีได้วางเวลาอย่างสมดุล ทั้งภาคเอกชน รัฐบาล พรรคการเมือง รวมถึงการชมศิลปะที่ พิพิธภัณฑ์ศิลปะไทยร่วมสมัย (MOCA) ท่านคงวางแผนให้เกิดความสมดุลตรงนั้น
"ตัวผมเองได้มีโอกาสขอบคุณท่านประธานาธิบดีที่แสดงถึงความห่วงใยของสุขภาพของประชาธิปไตยไทย เชื่อว่าถึงแม้จะไม่ใช่เรื่องของตัวผม ท่านก็คงพูดในลักษณะนั้นอย่างดี เพราะว่าท่านเป็นมิตรประเทศกับประเทศไทย มีความสัมพันธ์ 162 ปี ก็ต้องขอบคุณท่านที่เป็นประมุขของรัฐที่คำนึงถึงคุณค่าของเพื่อนประเทศที่เป็นมิตรกันมานาน "
ส่วนการพบกับประธานาธิบดีเยอรมนีถือเป็นกำลังใจในการทำงานเพราะกลับมาทำงานเป็น สส.วันแรกก็ได้เข้าพบประมุของรัฐที่เป็นผู้นำของโลก นายพิธา ระบุว่า คงเป็นเรื่องบังเอิญ ท่านก็คงมีกำหนดเดินทางมาซึ่งได้เดินทางไปเวียดนามมาก่อนและเดินทางมาประเทศไทย ส่วนผมเองศาลรัฐธรรมนูญก็เป็นคนกำหนดให้วินิจฉัยวันที่ 24 มกราคม ก็เป็นเรื่องบังเอิญมากกว่า แต่ก็เป็นกำลังใจ