"พิธา" ปัดเสียงวิจารณ์ "ก้าวไกล" อ่อนแอสอบปม "ทักษิณ" อ้าง "ชัยธวัช" ตั้งกระทู้ในสภาแล้ว ชี้ ต้องยอมรับระบบก็เคยสองมาตรฐานกับ "ทักษิณ" แต่ปัจจุบันจะลบล้างอดีตไม่ได้ เป็นสิทธิ์ สว.เปิดเวทีชำแหละรัฐบาล แต่แปลกใจ เพิ่งมาทำตอนนี้ เย้ยประสิทธิภาพไม่ได้หมายความใครเปิดก่อนหลัง โว ที่ผ่านมา "ก้าวไกล" ไม่เคยทำให้ผิดหวังเรื่องซักฟอก
วันนี้(26 ม.ค.) ที่รัฐสภา นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ สส.บัญชีรายชื่อ ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคก้าวไกล กล่าวถึงกรณีที่มีเสียงวิจารณ์ถึงการตรวจสอบของพรรคก้าวไกลว่ามีความอ่อนแอ โดยเฉพาะกรณีของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่พักรักษาตัวอยู่ชั้น14 ร.พ.ตำรวจ ว่า ไม่เป็นความจริง วันนี้เราตรวจสอบทุกอย่างอย่างตรงไปตรงมา ส่วนเรื่องของนายนั้น นายชัยธวัช ตุลาธน หัวหน้าพรรคก้าวไกล ได้ตั้งกระทู้ถามสดในสภาไปแล้ว ส่วนมุมมองของตนกับเรื่องนี้ มองเป็นเรื่องของระบบ ไม่ใช่บุคคลใดบุคคลหนึ่ง และไม่ต้องการทำให้กลายเป็นเรื่องของความสะใจ
“ระบบควรจะมีความเท่าเทียม สำหรับคนที่ถูกกลั่นแกล้งทางการเมือง และคนที่ต้องลี้ภัยไปหลายประเทศ มีหลายคนที่แสดงความเห็นทางการเมืองแล้วไม่สามารถกลับบ้านได้ ทุกคนควรได้รับโอกาสกลับเข้าสู่กระบวนการอย่างเท่าเทียมกัน เราจึงพยายามผลักดันเรื่องนิรโทษ โดยที่ไม่ได้ต้องการสนับสนุนหรือโจมตีบุคคลใดบุคคลหนึ่ง ไม่ต้องเห็นประเทศไทยเป็นนิติรัฐของอภิสิทธิ์ชน ”
เมื่อถามว่าภาพจำตอนนี้ คนคิดว่าพรรคก้าวไกลไม่กล้าแตะเรื่องนายทักษิณ มีการเปรียบเทียบว่า สว. ยังทำหน้าที่เป็นฝ่ายค้านได้ดีกว่าด้วยซ้ำ นายพิธา กล่าวว่า อายุและเวลาการทำงานตอนนี้มันไม่เท่ากัน การทำงานที่มีประสิทธิภาพไม่ได้หมายความว่าใครทำก่อนทำหลัง แต่อยู่ที่ว่าใครทำได้ตรงเป้าหมายมากกว่ากัน ถ้าวุฒิสภาเห็นว่าเวลาที่เหมาะสมในการเปิดอภิปรายตอนนี้ เขาก็อาจจะยื่นก่อนพรรคก้าวไกล ก็เป็นสิทธิ์ของวุฒิสภาที่จะใช้อำนาจ แต่สิ่งที่น่าแปลกก็คืออยู่มาหลายปีเพิ่งเห็นวุฒิสภาตรวจสอบรัฐบาล ที่ผ่านมาไม่เคยมี แต่เราอภิปรายไม่ไว้วางใจทุกปี และไม่เคยทำให้ผิดหวัง
เมื่อถามว่านายพิธาอาจจะมองว่านายทักษิณถูกกระทำเป็นเรื่องของความไม่ยุติธรรมในกระบวนการ แต่การที่พักรักษาตัวที่โรงพยาบาลตำรวจมีการมองว่าเป็น 2 มาตรฐาน แต่พรรคก้าวไกลไม่ได้ออกมาเคลื่อนไหวเรื่องนี้อย่างจริงจัง นายพิธา กล่าวว่ากรณีที่นายชัยธวัชตั้งกระทู้ถามในสภาไปแล้ว เคยยกตัวอย่างแล้วว่าคนที่ใช้สิทธิ์นอกโรงพยาบาลราชทัณฑ์มีไม่กี่คน และพยายามยกตัวอย่างให้เห็นแล้วว่ามีสอง มาตรฐานจริงๆ
“แต่ก็ต้องยอมรับว่านายทักษิณโดนกลั่นแกล้งทางการเมืองเช่นเดียวกัน แต่ก็ไม่ได้หมายความว่า สองมาตรฐานที่เกิดขึ้นวันนี้ จะสามารถไปล้มล้างความสองมาตรฐานที่เกิดขึ้นในอดีต มันเป็นสิ่งที่ไม่ควรเกิดขึ้น ก็ควรจะเป็นมาตรฐานเดียวกันทั้งก่อนและหลังเช่นเดียวกัน อย่างไรก็ตาม ตนยืนยันว่าจะติดตามตลอด และจะใช้กลไกทั้งในและนอกสภา ในการทำงานตรงนี้”
เมื่อถามว่าการอภิปรายไม่ไว้วางใจ ที่จะเกิดขึ้นในเดือนเมษายน จะมีเรื่องนายทักษิณหรือไม่ นายพิธา กล่าวว่า มีหลายๆเรื่อง ทั้งเรื่องการเมือง เศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม ต้องรอดูสถานการณ์ไหนที่จะมาเรียงลำดับความสำคัญ