“ลุงป้อม”ไม่รู้ๆๆ ก็ยังมา สถิติมันฟ้อง “ลุงป๊อด” ผู้น้องยืนหนึ่งดาวเบี้ยวสภา! **“แด๊ดดี้พิธา”คัมแบ็ก พลพรรคก้าวไกลคึก ชน“นายพล”โชว์ “ธนาธร”โผล่นั่ง กมธ.ถ่ายโอนธุรกิจกองทัพ

ข่าวปนคน คนปนข่าว

** “ลุงป้อม”ไม่รู้ๆๆ ก็ยังมา สถิติมันฟ้อง “ลุงป๊อด” ผู้น้องยืนหนึ่งดาวเบี้ยวสภา!

ไม่รู้ว่า “ลุงป้อม”พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ รับรู้เรื่องนี้แล้วจะหัวเราะหรือว่าร่ำไห้ดี หรือ จะหัวร่อไม่ออก ร่ำไห้ไม่ได้!

เพราะในการประชุมสภาผู้แทนราษฎรพิจารณากระทู้ถามทั่วไป เรื่องปัญหาช้างป่ากับประชาชนของฝ่ายค้านโดย “ชุติพงศ์ พิภพภิญโย” สส.ระยอง พรรคก้าวไกล ถามนายกรัฐมนตรี แต่มอบให้ “ปิ๊กป๊อด” พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เป็นผู้ตอบกระทู้ แต่ รมว.ทรัพยากรฯ แจ้งว่า ติดภารกิจเร่งด่วน จึงขอเลื่อนการตอบกระทู้ออกไปเป็น วันที่ 29 ก.พ. หรืออีกกว่า 1 เดือนข้างหน้าไปนู่น

งานนี้ทำเอา “สส.ชุติพงศ์”เดือดจัด ขอใช้สิทธิ์ในฐานะผู้ถามกระทู้ หารือไปยังคณะรัฐมนตรีว่า เข้าใจว่า รมว.ทรัพยากรฯ น่าจะมีภารกิจ ครม.สัญจร ที่ จ.ระนอง จึงไม่ได้มาตอบกระทู้ แต่กระทู้ถามเรื่องนี้ตั้งไว้ตั้งแต่สมัยประชุมที่แล้ว และถูกเลื่อนมา 2 ครั้งแล้ว จึงมายื่นในครั้งนี้ และคิดว่า รมว.ทรัพยากรฯ ไม่น่าจะมาตอบ จึงยื่นถามนายกฯ ซึ่งนายกฯ ก็มอบหมายแล้ว รมว.ก็ไม่มาตอบอีก


อย่ากระนั้นเลย สส.ก้าวไกล จึงกางสถิติให้ดูกันจะจะ จากที่รวบรวมสถิติทั้งสภาฯ ถาม รมว.ทรัพยกรฯ 20 กระทู้ ของฝ่ายค้าน และรัฐบาลรวมกัน เป็นกระทู้ทั่วไป 4 กระทู้ แยกเฉพาะ 16 แต่รัฐมนตรีกระทรวงทรัพย์ฯ มาตอบ 0 ครั้ง

เรียกว่า “พล.ต.อ.พัชรวาท” ไม่เคยมาย่างกรายเข้ามาชี้แจงแถลงไขกระทู้ถามแม้แต่ครั้งเดียว!!

สส.ระยอง พรรคก้าวไกล เห็นว่าได้ทีจึงขี่แพะไล่ บอกว่าอย่างนี้มีปัญหาแล้วที่ “พล.ต.อ.พัชรวาท” ไม่เคยมาตอบกระทู้ในสภา ซึ่งไม่เข้าใจว่าทำไมสภามายากเย็นแสนเข็ญนักหรือ? เพราะเห็นรัฐมนตรี “ลุงป๊อด”ก็ลงพื้นที่ทั้งเชียงใหม่ กระบี่ สมุทรสาคร หรือไปดูไบมาแล้ว ไม่หยุดไม่หย่อน ต่างประเทศก็ไปอย่างเช่น ดูไบ ที่ก็ไม่รู้ว่าไปทำไม ไม่มีดอก ไม่มีผลเลย


ดังนั้นหากจัดอันดับ “ดาวเบี้ยวสภา” หรือ “หนีสภา” ใครมากที่สุด? “พล.ต.อ.พัชรวาท” ก็คงไม่พลาดรับตำแหน่ง “ยืนหนึ่ง”เยอะที่สุด

แน่นอนเมื่อ “ลุงป๊อด” ยืนหนึ่งดาวเบี้ยวสภา เพราะ ความเป็นน้องชายของ “ลุงป้อม” สถิติของน้องชายจึงถูกนำไปเทียบกับลุงป้อมผู้พี่ โดยสมัยสภาชุดที่แล้วก็ยังมาตอบ แม้จะตอบ “ไม่รู้ๆๆๆ” เพียงถ่ายเดียวก็ยังมา

แต่ “พล.ต.อ.พัชรวาท” เล่นไม่มาเลย ทั้งที่กระทู้ถามเกี่ยวข้อง รมว.ทรัพยากรฯ เต็มๆ

งานนี้ขืนเป็นเช่นนี้ พรรคพลังประชารัฐ จะโดนคนนินทา หมาดูถูกเอาได้ “ลุงป้อม”จะอยู่เฉย ไม่รู้ๆๆ ดู “ลุงป๊อด” หนีสภาไปเรื่อยๆ จะไหวหรือ ?


**“แด๊ดดี้พิธา”คัมแบ็ก พลพรรคก้าวไกลคึก ชน“นายพล”โชว์ “ธนาธร”โผล่นั่ง กมธ.ถ่ายโอนธุรกิจกองทัพ

หลังจาก “หลุดบ่วงไอทีวี” วานนี้(25ม.ค.) “แด๊ดดี้พิธา” ของบรรดาด้อมส้ม ก็เข้าสภาเป็นวันแรก หลังจากห่างหายไปประมาณ 6 เดือน บรรยากาศที่สภาจึงคึกคักเป็นพิเศษ ทั้งบรรดาแฟนคลับ และช่างภาพสื่อมวลชน

โอกาสนี้ “พิธา” ผูกเนคไท สีฟ้าเส้นเดิมกับในวันที่เดินออกจากสภา เมื่อมีคำสั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่

“พิธา” ได้ตอบคำถามสื่อ และปล่อยวาทะเด็ดออกมาเป็นชุด เช่นว่า ก้าวแรกที่เข้าสู่สภาก็ได้รับไออุ่นที่คุ้นเคย ...เสียดายโอกาสในการเลือกนายกรัฐมนตรีครั้งที่ 2 ที่ไม่อาจมีใครบอกได้ว่าผลจะออกมาเป็นอย่างไร หรือถ้ามีครั้งที่ 2 แล้วมันจะมีครั้งที่ 3 หรือไม่


ส่วนจะกลับมาเป็นหัวหน้าพรรค และเป็นผู้นำฝ่ายค้านหรือไม่ “พิธา” ตอบอย่างไว้เชิง แบบไม่ปิดโอกาสตัวเองว่า ต้องแยกเป็น 2 ส่วน 1.เป็นไปตามกระบวนการที่จะมีการประชุมใหญ่วิสามัญของพรรคในเดือน เม.ย.นี้ และต้องผ่านการคัดเลือกจากกรรมการบริหารพรรค (กก.บห.) ชุดใหม่ รวมถึงการนำเสนอในที่ประชุม หรือสมาชิกโหวต และ 2. ตนเองไม่ได้ยึดติดตำแหน่ง นายชัยธวัช ก็ทำหน้าที่ได้ดี และทำงานอย่างแหลมคม ซึ่งทั้งตนเองและนายชัยธวัช ไม่ได้มีใครยึดติดในตำแหน่งทั้งคู่

กับคำถามสุดท้ายที่ผู้สื่อข่าวได้ถามว่า เข้าสภาฯ รอบนี้ ไม่ออกแล้วใช่ หรือไม่ “พิธา”ตอบให้เอาไปคิดว่า..."ถ้าจะออก ก็ออกไปทำเนียบรัฐบาลอย่างเดียว"

เป็นไงล่ะ“แด๊ดดี้พิธา” มาแล้ว การเมืองคงมีสีสันขึ้นเยอะ

สำหรับการอภิปรายในที่ประชุมสภา ของบรรดา สส.ก้าวไกล ก็คึกคักเป็นพิเศษเช่นกัน โดยเฉพาะญัตติ ขอให้สภาฯ ตั้ง คณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษาแนวทางการถ่ายโอนหน้าที่การให้บริการไฟฟ้า ที่อยู่ในความดูแลรับผิดชอบของกิจการไฟฟ้าสวัสดิการของกองทัพ ไปอยู่ในความดูแลรับผิดชอบของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องโดยตรง รวมถึงการถ่ายโอนธุรกิจต่างๆ ของกองทัพ ไปอยู่ในความดูแลของรัฐบาล ของ “เบญจา แสงจันทร์” สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล เป็นผู้เสนอ


งานนี้ “สส.เบญจา” โชว์ฝีปากชน “นายพล” ของกองทัพไทยชนิดไม่ยั้ง บอกว่าหลังเกษียณ ลงจากตำแหน่งผบ.ทบ. ลงจากตำแหน่งทางการเมือง รวยกันเละ บางรายมี 200-300-500 ล้าน และยังมีนายพลระดับเสี่ยอีกว่า 3,000 นาย ที่รวยตั้งแต่ระดับ 10 ล้านถึง 1,000 ล้านบาท สมกับคำที่ว่า... เป็นทหารได้อะไรมากกว่าที่คิดจริงๆ

แหล่งขุมทรัพย์ที่นำมาซึ่งความอู้ฟู่ ของบรรดานายพลเหล่านี้ คือ 1.ที่ราชพัสดุ กองทัพมีที่ดินราชพัสดุทั่วประเทศ 7.5ล้านไร่ นำมาสร้างปั้มน้ำมัน สนามกอล์ฟ ธุรกิจตลาดนัด สโมสร โรงแรม สนามมวย สนามม้า สถานีโทรทัศน์ บ้านพักตากอากาศ กระทั่งทำบ้านจัดสรร

2. บอร์ดรัฐวิสาหกิจ 56 แห่ง ที่นายพลบางคนนั่งควบหลายบอร์ด

3.งบฯกระทรวงกลาโหมที่เพิ่มขึ้นทุกปี แบบไม่มีหน่วยงานใดเข้าไปตรวจสอบได้ จัดซื้ออาวุธก็ต้องมีเงินทอน ลูกท่าน หลานเธอ ตั้งบริษัทรับงานในกองทัพ

4. คลื่นวิทยุและโทรทัศน์ของกองทัพ 205 คลื่น เป็นเสือนอนกินปล่อยเช่าคลื่น ได้เงินมหาศาล แต่ไม่เคยเปิดเผยเงินค่าเช่าคลื่น

5.ขุมทรัพย์ธุรกิจพลังงาน ทั้งน้ำมัน ไฟฟ้า โซลาร์ฟาร์ม ที่กองทัพมีกิจการเป็นของตัวเอง

ดังจึงเห็นว่าควรถ่ายโอนกิจการต่างๆเหล่านี้ ให้มาอยู่ในความดูแลรับผิดชอบของรัฐบาลให้หมด


ขณะที่ตัวตึงอีกคน “วิโรจน์ ลักขณาอดิศร” สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ในฐานะประธาน กมธ.การทหาร สภาผู้แทนฯ อภิปรายสนับสนุนว่า ธุรกิจกองทัพ ไม่ใช่หน้าที่ของทหาร และไม่ได้เกี่ยวข้องกับความมั่นคงของประเทศแต่อย่างใด แต่เป็นกลไกที่ทำให้กองทัพเข้ามาพัวพันกับการเมือง และเศรษฐกิจของประเทศ ในลักษณะรัฐซ้อนรัฐ สุดท้ายกลายเป็นแหล่งรายได้นอกระบบของบรรดา “นายพล” เป็นเครือข่ายอุปถัมภ์ที่อยู่หลังม่านการเมือง โดยเอาความมั่นคงของประเทศมาเป็นข้ออ้าง

นอกจากนี้ กองทัพและกระทรวงกลาโหมไม่เคยให้ความร่วมมือกับผู้ตรวจการแผ่นดิน หรือคณะกรรมาธิการ(กมธ.)การทหาร ที่ขอข้อมูลไปเลย ดังนั้นเมื่อมีการอภิปรายไม่ไว้วางใจ “รมว.สุทิน คลังแสง” ต้องเจอกันแน่

และที่เป็นที่ฮือฮาก็คือ หลังการอภิปรายเสร็จสิ้น ที่ประชุมก็เห็นชอบให้ตั้ง กมธ.วิสามัญพิจารณาศึกษาแนวทางการถ่ายโอนธุรกิจกองทัพ ไปอยู่ในความดูแลของหน่วยงานอื่น หรือย้ายไปอยู่หน่วยงานอื่น โดยกมธ.ในสัดส่วนของพรรคก้าวไกล มีชื่อ “ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ” ประธานคณะก้าวหน้า มานั่งเป็นกมธ.ด้วย

เรียกว่าจะชนกับกองทัพทั้งที่ “ก้าวไกล” ระดมพลพรรคมาเต็มอัตราศึก!!