อดีตหน.ก้าวไกล ประกาศพร้อมทำหน้าที่ในสภา ให้สมกับที่รอมานาน ย้ำปรับโครงสร้างพรรคต้องเป็นไปตามวาระ ยังไม่มีแผนกลับนั่งหน. ชอบใจ ปชช.เรียกนายกฯ ยันยังมีชื่อเป็นแคนดิเดต แจงปมศาลเตือนจ้อคดีไม่เหมาะสม ระวังตัวมาตลอด ส่วนการเลื่อนแจง 2 รอบ เพื่อความรอบคอบ
วันนี้ (24ม.ค.) 15.00 น. นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ สส.บัญชีรายชื่อพรรคก้าวไกล ให้สัมภาษณ์ หลังฟังคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ ที่เห็นว่าการถือหุ้นบริษัทไอทีวีจำกัดของนายพิธาไม่เป็นเหตุให้สมาชิกภาพส.สสิ้นสุด ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 101 (6) ประกอบมาตรา 98 (3) ว่า จากผลการตัดสิน ที่ออกมานี้ ตนรู้สึกเฉยๆ เป็นปกติ จากนี้ตนพร้อมที่จะเดินหน้าทำงานต่อไป ภารกิจแรกคือจะแถลงแผนงานประจำปี ที่ได้รับมอบหมายจากนายชัยธวัช ตุลาธน หัวหน้าพรรคก้าวไกล ส่วนที่จะกลับเข้าสภาได้เมื่อไหร่นั้นต้องรอกระบวนการทางศาลรัฐธรรมนูญกับสภา ให้เรียบร้อยก่อน และจะให้ทีมงานหารือกับทางสภาอีกครั้งว่าจะสามารถเข้าปฏิบัติหน้าที่ได้เมื่อไหร่ เข้าใจว่า ทางวิปได้มีการหารือกัน อยู่ ว่าจะให้ตอนกลับเข้าไปทำงานได้เมื่อไหร่ เพราะเป็นเรื่องที่ผูกพัน 2 องค์กร ทั้งนี้ จะทำหน้าที่สส. ให้สมกับที่รอมา วันนี้ในใจคิดแต่เรื่องการทำงาน และรอเวลาว่าจะได้กลับเข้าสภาเมื่อไหร่ ทั้งนี้การทำงานการเมืองในฐานะฝ่ายค้านจะต้องเอาความเดือดร้อนของประชาชนเป็นที่ตั้ง จะรีบกลับไปเสริมทัพทำงานร่วมกับสมาชิกพรรคก้าวไกล ถ้าสภาไปเขียวเมื่อไหร่ก็จะกลับไปวันนั้นเลย
ส่วนการปรับโครงสร้างของพรรคก้าวไกลก็ต้องปล่อยให้เป็นไปตามวาระ เป็นปีๆ ตนยังไม่มีแผนการว่าจะกลับเข้าไปเป็นหัวหน้าพรรคก้าวไกลในตอนนี้
เมื่อถามถึงกรณีศาลรัฐธรรมนูญเตือน คู่กรณี เกี่ยวกับการให้ความเห็นก่อนศาลมีคำวินิจฉัยว่าไม่เหมาะสมยืนยันว่า ที่ผ่านมา ระมัดระวังมาโดยตลอด ไม่ว่าจะเป็นคำเตือน การเลื่อนชี้แจงต่อศาล 2 ครั้ง ซึ่งตนเป็นคนขอยื่นเรื่องเลื่อนชี้แจงเพื่อความละเอียดรอบคอบ ในส่วนของการให้สัมภาษณ์ก็ต้องยืนยันว่ามีการระมัดระวังมาโดยตลอด และจะระมัดระวังต่อไปบางครั้งก็มีข้อมูลที่ไม่ถูกต้อง อาจจะเป็นความเข้าใจผิดของสื่อมวลชนจึงจำเป็นที่จะต้องอธิบายเพื่อไม่ให้เกิดความเข้าใจผิดหรือความคลาดเคลื่อนในข้อเท็จจริง
เมื่อถามว่า จนถึงตอนนี้ประชาชนยังเรียกนายพิธาว่านายกอยู่ นายพิธากล่าวถึงเรื่องนี้ว่า จนถึงตอนนี้ก็ยังเป็นแคนดิเดตนายกฯ ตามลิสต์อยู่ว่าหากมีอุบัติเหตุหรืออะไรเกิดขึ้น สภาก็ยังมีการพูดคุยว่าคนที่อยู่ในบัญชีนายกรัฐมนตรี ซึ่งตนก็ยังเป็นแคนดิเดตนายกของพรรคก้าวไกล
เมื่อถามต่อว่าจะมีการดำเนินคดีกับกกต.หรือไม่ นายพิธา กล่าวสั้นๆ ว่า ไม่มีครับ
ส่วนการวินิจฉัยคดีมาตรา 112 ที่ศาลฯกำหนดวินิจฉัยในวันที่ 31 ม.ค.นี้ นายพิธา กล่าวว่า ยังมีความหวังอยู่เสมอ
ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศ ที่ศาลรัฐธรรมนูญทันทีที่ศาลวินิจฉัยว่านายพิธาไม่พ้นสมาชิกภาพส.ส. มวลชนพี่มารอให้กำลังใจต่างโห่ร้องด้วยความดีใจ ตะโกนพร้อมกันว่า นายกฯพิธา พร้อมบอกว่า เตรียมส่งนายกฯ เข้าสภาแล้ว
ขณะที่นางนภัสสร บุญรี อายุ 60 ปี หนึ่งในมวลชนที่มาให้กำลังนายพิธา เผยว่า ก่อนผลคำวินิจฉัยจะออกมา ก็ลุ้นผล 50-50 ว่าจะเป็นคุณหรือโทษ พวกเราภาวนาขอให้รอด และวันนี้ก็พิสูจน์แล้ว อีกทั้งพวกเราได้เลือกนายพิธา ซึ่งเป็นนายกรัฐมนตรีของพวกเรา เราต้องการนายกฯ ที่มีวิสัยทัศน์ ไม่ชอบนายกที่พาประเทศถอยหลัง เพราะวันข้างหน้าลูกหลานของเราต้องเติบโต ฉะนั้นต้องมีนายกฯที่ทันสมัย พาประเทศก้าวไปข้างหน้า ให้ทัดเทียมนานาประเทศ และพวกเราจะให้กำลังใจตามจนถึงตอนที่เข้าสภาเลย.