“พิธา” รอด ศาลรัฐธรรมนูญมีมติ 8 ต่อ 1 วินิจฉัยว่าไอทีวีไม่ได้ประกอบกิจการสื่อมวลชนใดๆ เนื่องจาก สปน.บอกเลิกสัญญาและยึดคลื่นความถี่คืนตั้งแต่ปี 50 ส่งผลให้แม้ผู้ถูกร้องถือหุ้นในวันสมัคร ส.ส.ก็ไม่ทำให้มีลักษณะต้องห้ามตามรัฐธรรมนูญ
วันนี้ (24 ม.ค ) เมื่อเวลา 14.00 น. ศาลรัฐธรรมนูญ อ่านคำวินิจฉัยในคดีที่สำนักงาน กกต.ขอให้พิจารณาวินิจฉัยว่าสมาชิกภาพ ส.ส.ของ นายพิธา สิ้นสุดลงตามรัฐธรรมนูญมาตรา 101(6) ประกอบมาตรา 98(3) หรือไม่ จากกรณีมีชื่อเป็นผู้ถือหุ้นในบริษัท ไอทีวี จำกัด (มหาชน) ซึ่งประกอบกิจการหนังสือพิมพ์หรือสื่อสารมวลชนใดๆ อยู่ในวันที่สมัครรับเลือกตั้ง ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ
โดยที่ศาลรัฐธรรมนูญมีมติวินิจฉัยว่า สมาชิกภาพ ส.ส.ของนายพิธา ไม่สิ้นสุดลงตามรัฐธรรมนูญมาตรา 101(6) ประกอบมาตรา 98(3) เนื่องจากในวันที่ 4 เม.ย. 66 ซึ่งเป็นวันที่พรรคก้าวไกลยื่นบัญชีรายชื่อผู้สมัคร ส.ส. แบบบัญชีรายชื่อต่อ กกต.แม้นายพิธา จะเป็นผู้ถือหุ้นไอทีวี 42,000 หุ้น แต่ในวันดังกล่าว บริษัท ไอทีวี จำกัด (มหาชน) ไม่ได้ประกอบกิจการสื่อมวลชนใดๆ หลังจากที่สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี (สปน.) ได้บอกเลิกสัญญาและยึดคลื่นความถี่คืน นับตั้งแต่วันที่ 7 มี.ค. 2550
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าสำหรับมติของศาลรัฐธรรมนูญที่เห็นว่าสมาชิกภาพ ส.ส.ของนายพิธาไม่สิ้นสุดลง เป็นมติเสียงข้างมาก 8 ต่อ 1 โดย 1 เสียงข้างน้อยคือนายนครินทร์ เมฆไตรรัตน์ ที่เห็นว่าสมาชิกภาพของนายพิธาสิ้นสุดลง