การจัดสรรเงินอุดหนุนให้แก่พรรคการเมืองมีวัตถุประสงค์เพื่อ ส่งเสริมและสนับสนุนให้พรรคการเมืองมีความเข้มแข็ง สามารถการดำเนินกิจกรรมทางการเมืองได้อย่างต่อเนื่อง ดำรงเจตนารมณ์และอุดมการณ์ทางการเมืองตามวิถีทางการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ส่งเสริมให้เกิดการพัฒนาพรรคการเมืองไปสู่ความเป็นสถาบันทางการเมือง ของประชาชน โดยพรรคการเมืองที่มีสิทธิได้รับการจัดสรรเงินอุดหนุนจากกองทุนเพื่อการพัฒนาพรรคการเมือง จะต้องเป็นพรรคการเมืองที่นายทะเบียนพรรคการเมืองรับจดทะเบียนจัดตั้งพรรคการเมืองเรียบร้อยแล้ว ภายในวันที่ 30 กันยายน 2566
การจัดสรรเงินอุดหนุนให้แก่พรรคการเมือง ประจำปี พ.ศ. 2567 ใช้ข้อมูลพรรคการเมือง ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม ๒๕๖5 ถึงวันที่ ๓๐ กันยายน ๒๕๖6 ซึ่งในการจัดสรรเงินอุดหนุนให้แก่พรรคการเมือง ประจำปี พ.ศ. 2567 แต่ละพรรคการเมืองได้รับเงินอุดหนุนจำนวนเท่าไรนั้นเป็นไปตามหลักเกณฑ์ที่กำหนดไว้ตามกฎหมาย ดังนี้
(1) จัดสรรเงินที่ได้รับจากกรมสรรพากรตามที่ผู้เสียภาษีเงินได้ประจำปีระบุไว้ในแบบแสดงรายการภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาประจำปี ให้จัดสรรให้พรรคการเมืองตามที่ผู้เสียภาษีได้ระบุไว้
(2) ร้อยละสี่สิบของวงเงินจัดสรร ให้จัดสรรเงินตามจำนวนเงินค่าบํารุงพรรคการเมือง
(3) ร้อยละสี่สิบของวงเงินจัดสรร ให้จัดสรรเงินตามคะแนนเสียงที่พรรคการเมืองได้รับจากการเลือกตั้ง สำหรับปีถัดจากปีที่มีการเลือกตั้งทั่วไป (พ.ศ.2566)
(4) ร้อยละยี่สิบของวงเงินจัดสรร ให้จัดสรรเงินตามจำนวนสาขาพรรคการเมือง
ทั้งนี้ จากการคำนวณตามหลักเกณฑ์ที่กำหนด ในปี พ.ศ.2567 มีพรรคการเมืองได้รับการจัดสรรทั้งสิ้น จำนวน 78 พรรคการเมือง วงเงิน 139,859,956.72 บาท (หนึ่งร้อยสามสิบเก้าล้านแปดแสนห้าหมื่นเก้าพันเก้าร้อยห้าสิบหกบาท เจ็ดสิบสองสตางค์)
การใช้จ่ายเงินอุดหนุนของพรรคการเมือง
พรรคการเมืองที่ได้รับการจัดสรรเงินอุดหนุนจากกองทุนเพื่อการพัฒนาพรรคการเมืองจะต้องดำเนินการและใช้จ่าย
ให้เป็นประโยชน์ต่อการดำเนินกิจกรรมของพรรคการเมือง และเป็นไปตามวัตถุประสงค์ เพื่อประโยชน์ในการหาเสียงเลือกตั้ง การจัดทำกิจกรรมทางการเมืองของพรรคการเมือง สาขาพรรคการเมืองและตัวแทนพรรคการเมืองประจำจังหวัด การพัฒนาพรรคการเมืองและสมาชิกให้มีคุณภาพและคุณธรรมอันดีงาม และการส่งเสริมความรู้แก่สมาชิกและประชาชนในทางการเมืองการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข และการอื่นใดที่คณะกรรมการการเลือกตั้งกำหนด
นอกจากนี้ การดำเนินการและการใช้จ่ายเงินอุดหนุนของพรรคการเมือง จะต้องเป็นไปตามรายละเอียดมาตรฐานและอัตราการใช้จ่ายที่คณะกรรมการกองทุนเพื่อการพัฒนาพรรคการเมืองกำหนด ซึ่งในปี พ.ศ.2567 ได้มีการปรับปรุงรายละเอียดให้มีความเหมาะสมและเพื่อให้การใช้จ่ายเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ ในกรณีที่พรรคการเมืองใช้จ่ายเกินกว่ามาตรฐานและอัตราการใช้จ่ายที่กำหนด พรรคการเมืองจะต้องส่งคืนเงินอุดหนุนที่ได้ใช้จ่ายไปเกินกว่าอัตราที่กำหนด ทั้งนี้ เพื่อประโยชน์ในการดําเนินงาน พรรคการเมืองจะส่งรายละเอียดการใช้จ่ายเงินอุดหนุน ให้นายทะเบียนพรรคการเมืองทราบก่อนการใช้จ่ายเงินอุดหนุนหรือก่อนดำเนินงานก็ได้ ในกรณีที่นายทะเบียนพรรคการเมืองเห็นว่าการใช้จ่ายเงินรายการใดไม่เป็นไปเพื่อประโยชน์ หรือไม่เป็นไปตามวัตถุประสงค์ นายทะเบียนพรรคการเมืองจะแจ้งให้พรรคการเมืองทราบ
การรายงานการใช้จ่ายเงินอุดหนุนของพรรคการเมือง
พรรคการเมืองใช้จ่ายเงินอุดหนุนไปเพื่อการใดแล้ว ให้จัดทำรายงานการใช้จ่ายเงินอุดหนุนของพรรคการเมืองให้ถูกต้องตามความเป็นจริงทุก ๆ 3 เดือน นับแต่วันที่ได้รับจัดสรร และส่งให้คณะกรรมการการเลือกตั้งทราบภายใน 15 วันของทุก ๆ 3 เดือน


