"ศรีสุวรรณ" เล็งฟ้องราชทัณฑ์หลังจ่อให้ "ทักษิณ" พักโทษ ชี้ตามกฎหมายทำไม่ได้ จี้ผู้ตรวจการแผ่นดิน แจงรายละเอียดตรวจชั้น 14
วันนี้ ( 19 ม.ค.) นายศรีสุวรรณ จรรยา ผู้นำองค์กรรักชาติรักแผ่นดิน กล่าวถึงความคืบหน้า กรณีได้ยื่นเรื่องต่อผู้ตรวจการแผ่นดิน ให้ตรวจสอบหน่วยงานรัฐอนุญาตให้นายทักษิณ ชินวัตร ไปพักรักษาตัวที่โรงพยาบาลตำรวจ ว่า ตนได้ยื่นฟ้องกรณีแรกต่อกรมราชทัณฑ์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลตำรวจไปแล้ว และได้ฟ้องต่อกรมราชทัณฑ์เป็นคดีที่ 2 เนื่องจากมีการปกปิดข้อมูลข่าวสาร ที่ควรแจ้งให้ประชาชนทราบ คือใครขอข้อมูลเอกสารจากราชทัณฑ์เกี่ยวกับนายทักษิณ เขาจะไม่ให้เลย ทั้งที่ข้อมูลบางอย่างไม่ใช่ข้อมูลส่วนบุคคล ไม่ใช่ข้อมูลทางการแพทย์ แต่ราชทัณฑ์ก็อ้างว่าเป็นข้อมูลส่วนบุคคล และข้อมูลทางการแพทย์จึงไม่ยอมให้ ตนได้ทำหนังสือถึงคณะกรรมการข้อมูลข่าวสารฯ ซึ่งคณะกรรมการข้อมูลข่าวสารฯก็สั่งว่ากรมราชทัณฑ์จะต้องให้ข้อมูล แต่ก็ยังเพิกเฉยอยู่
ส่วนคดีที่ 3 ได้ร้องเรียนแพทยสภา ให้เข้าไปตรวจสอบกรณีการป่วยของนายทักษิณว่าป่วยจริงหรือไม่ อย่างไร ซึ่งแพทย์สภาก็ยังคงเงียบและได้ทำหนังสือทวงถามไปแล้ว
ส่วนการยื่นฟ้องคดีที่ 4 อาจเป็น การแถลงของโฆษกกรมราชทัณฑ์ เมื่อวันที่ 17 ม.ค.ที่ผ่านมา ที่ระบุว่านายทักษิณอาจจะเข้าข่ายการพักโทษ ทั้งๆที่หลักการพักโทษจะต้องเป็นไปตาม พ.ร.บ.ราชทัณฑ์ พ.ศ.2560 ซึ่งนายทักษิณได้รับการพระราชทานอภัยโทษจนเหลือ 1 ปีแล้วจะมาพักโทษซ้ำ 2, 3 และ 4 ไม่ได้
"คุณไปทำความดีอะไร นอนรักษาตัวอยู่โรงพยาบาลตำรวจมาโดยตลอด เกือบ 140 วันแล้ว เอาความดีความชอบอะไรจะมาพักโทษได้" นายกศรีสุวรรณ กล่าวและระบุว่านายทักษิณยังรับโทษไม่ครบ 6 เดือน ซึ่งจะครบในปลายเดือนกุมภาพันธ์
นอกจากนี้นายศรีสุวรรณ ยังฝากถึงกรมราชทัณฑ์ว่าอย่าพยายามช่วยเหลือเอื้อประโยชน์ให้กับนายทักษิณมากเกินไป ไม่อย่างนั้นตัวเองจะต้องมารับโทษแทนนายทักษิณ เพราะเรื่องนี้เป็นเรื่องที่สาธารณชนให้ความสนใจ ให้ความสำคัญ เป็นเรื่องที่สังคมจะวินิจฉัยว่าพฤติการณ์ของกรมราชทัณฑ์ จะถือว่าเป็นการเลือกปฏิบัติหรือไม่ เพราะมีนักโทษนับแสนคนที่ไม่ได้รับการเอื้อประโยชน์แบบเดียวกันจากกรมราชทัณฑ์หรือไม่ เพราะหลายคนที่เจ็บป่วยก็ยังต้องรักษาตัวอยู่ในทัณฑสถาน ไม่ได้รับสิทธิพิเศษ หรือแม้มารักษาตัวก็ไม่ได้รับสิทธิพิเศษให้พักตัวอยู่ในห้องพิเศษเหมือนนายทักษิณ
ส่วนที่กรมราชทัณฑ์ออกมาระบุว่า ถ้าออกมารักษาตัวภายนอกราชทัณฑ์ก็ไม่ใช้คำว่า นช.นั้น นายศรีสุวรรณ กล่าวว่า ถ้าไม่ให้ใช้ นช.ก็ให้ใช้คำว่าเทวดาไปเสียก็จบ เพราะชาวบ้านจะได้ไม่ต้องมาพะว้าพะวงว่าแท้ที่จริงแล้วคือเทวดา
เมื่อถามต่อว่า กรณีนี้ได้ยื่นเรื่องให้ผู้ตรวจการแผ่นดินไปตรวจสอบและได้มีการลงพื้นที่ไปพบกับนายทักษิณ ถือว่าการตรวจสอบมีความล่าช้าหรือไม่ นายศรีสุวรรณ กล่าวว่าต้องรอคำวินิจฉัยของผู้ตรวจการแผ่นดิน ว่าไปตรวจสอบแล้วพบเห็นอะไร จริงหรือไม่เป็นไปตามคำร้องของหลายๆคนรวมถึงองค์กรรักชาติรักแผ่นดินด้วยหรือไม่ ถ้าผู้ตรวจการแผ่นดินยังล่าช้า ก็อาจถูกร้องได้ฐานเข้าข่ายล่าช้าเกินสมควร ส่วนการที่กรมราชทัณฑ์จะมาอ้างว่าผู้ตรวจการแผ่นดินได้ไปตรวจสอบแล้วก็ต้องรอว่าทางผู้ตรวจฯจะว่าอย่างไร ไปจริงและไปพบอย่างไร เพื่อยืนยัน ไม่ใช่ฟังจากทางราชทัณฑ์เพียงอย่างเดียว