ส.ส.ก้าวไกล เผย ไม่คิดยื่นยุบ ภท. หลัง “ศักดิ์สยาม” ถูกศาล รธน.ชี้สิ้นสุด รมต. ยันไม่เกี่ยวกับกลัวถูกยุบจากคดี ม.112 แต่ไม่ควรมีองค์กรใดมีอำนาจประหารบุคคล หรือพรรคการเมืองได้ เดินหน้าบี้ ป.ป.ช.เรียกหลักฐานสอบต่อไป
วันนี้ (18 ม.ค.) นายปกรณ์วุฒิ อุดมพิพัฒน์สกุล ส.ส.บัญชีรายชื่อ ในฐานะประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้าน (วิปฝ่ายค้าน) ให้สัมภาษณ์ถึงความคืบหน้าการดำเนินการขั้นต่อไปหลังศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยให้ความเป็นรัฐมนตรีของ นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ อดีต รมว.คมนาคม และ อดีตเลขาธิการพรรคภูมิใจไทย สิ้นสุดลงเฉพาะตัวตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคหนึ่ง (5) ประกอบ มาตรา 82 นับแต่วันที่ศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ จากกรณีคงไว้ซึ่งหุ้นใน หจก.บุรีเจริญคอนสตรัคชั่น ในวันที่ยังเป็นรัฐมนตรี ว่า สำหรับกระบวนการด้านอื่นๆ นั้น ตอนที่พรรคร่วมฝ่ายค้านในรัฐบาลชุดที่แล้ว ไปยื่นต่อศาลรัฐธรรมนูญได้ยื่นคำร้องต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ไปด้วย ซึ่งเรื่องนี้ยังค้างอยู่ โดยเรื่องที่ยื่นเป็นเรื่องของการยื่นบัญชีทรัพย์สินอันเป็นเท็จ หลังจากนี้ก็คงต้องเร่งรัดป.ป.ช.เปิดให้มีการการสอบสวนรวมถึงเรียกหลักฐานต่างๆ มาพิจารณาต่อไป
“เรื่องการยื่นจริยธรรมหรือยุบพรรคนั้น ผมยืนยันว่า ไม่ควรที่จะมีองค์กรใดที่จะมาประหารชีวิตบุคคล หรือพรรคการเมืองใดๆการตัดสินประการชีวิตของบุคคลทางการเมืองคิดว่า ควรเป็นหน้าที่และอำนาจของของประชาชนในการเลือกตั้งซึ่งก็ต้องขึ้นอยู่กับว่าประชาชนจะเลือกหรือไม่ เรายืนยันและยึดมั่นในหลักการนี้”
เมื่อถามว่า เช่นนี้ จะกลายเป็นมาตรฐานใหม่ในการยื่นยุบพรรคในอนาคตหรือไม่ เพราะที่ผ่านมาก็มักจะมีคนไปยื่นยุบพรรค นายปกรณ์วุฒิ กล่าวว่า คิดว่าเป็นจุดยืนของพรรคเรามากกว่า ยืนยันว่า พรรคยังยืนยันในจุดยืนเดิมไม่จะเป็นต้องทำอย่างที่คนอื่นทำ ย้ำว่าเรายืนยันและยึดมั่นในหลักการคิดว่าเป็นเรื่องที่สำคัญในการเมือง
ด้าน นายชัยธวัช ตุลาธน ผู้นำฝ่ายค้าน กล่าวว่า เรายังยืนยันที่จะทำหน้าที่ฝ่ายค้านแม้เราต้องทำงานตรวจสอบรัฐบาลแต่เราตรวจสอบภายใต้หลักการที่ถูกต้อง เรื่องการยื่นยุบพรรคไม่ได้เป็นนโยบายของพรรคก้าวไกล แต่ย้ำว่าเฉพาะกรณีนี้ยังมีเรื่องต่อเนื่องอีกหลายส่วน ตามที่นายปกรณ์วุฒิระบุ คิดว่าไม่ใช่เรื่องยุบพรรคการเเมืองอย่างเดียว
ส่วนที่มีการมองไปถึงการพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ ในวันที่ 31 ม.ค.นี้ในกรณีพรรคก้าวไกล ที่เสนอร่างพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญาเพื่อยกเลิกประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 โดยใช้เป็นนโยบายในการหาเสียงเลือกตั้งเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 49 วรรคหนึ่งหรือไม่นั้น นายชัยธวัช กล่าวว่า เรื่องนี้ไม่ได้เกี่ยวข้องกันแต่อย่างใด ไม่ใช่กังวลว่าจะยื่นยุบพรรตัวเองแล้วจึงไม่ยื่นยุบภูมิใจไทย
นายชัยธวัช กล่าวว่า การพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญวันที่ 31 ม.ค.นี้ เป็นเพียงคำร้องที่ขอให้ยุตติการกระทำไม่ได้ขอให้ยุบพรรคอย่างฉะนั้นวั้นดังกล่าวจะไม่มีเรื่องยุบพรรคอย่างแน่นอน ส่วนจะนำไปสู่การยุบพรรคหรือไม่ขณะนี้เราไม่กังวล