xs
xsm
sm
md
lg

“สามารถ”ขอบคุณ​ สว.ทำหน้าที่แทนฝ่ายค้าน ยื่นอภิปราย​ รบ.​ซัด มีพรรคก้าวไกลไว้ทำไม ควรพิจารณาตัวเอง

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



วันนี้(16 ม.ค.)นายสามารถ เจนชัยจิตรวนิช อดีตผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม กล่าวผ่านรายการสามารถ 5 นาที ช่องทางเฟซบุ๊กสามารถ เจนชัยจิตรวนิช และช่องทาง TikTok: jopstoploss ว่า ต้องขอบคุณ สว.ทุกท่าน วันนี้ได้ทราบมาว่าจำนวนสมาชิกที่ลงชื่อเกิน 84 เสียงแล้วในการที่จะยื่นอภิปรายทั่วไปรัฐบาลตามมาตรา 153 ของรัฐธรรมนูญ พูดง่ายๆว่า จะซักถามรัฐบาลเพื่อให้ชี้แจงให้ประชาชนได้ฟังในปัญหาที่ประชาชาชนสงสัย ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของนักโทษเทวดาชั้น 14 หรือเงินดิจิทัล สรุปแล้วรัฐบาลจะกู้ได้หรือไม่ได้ ถ้าทำแล้วจะผิดกฎหมายหรือไม่ ถ้าทำแล้วประชาชนจะเดือดร้อนหรือไม่

“นั่นคือสิ่งที่ประชาชนเคลือบแคลงสงสัยครับ ผมดีใจที่ท่าน สว.ลงชื่อมากกว่า 84 คน หาญกล้าที่จะทำในสิ่งที่ถูกต้อง มีคนเคยถามผมว่า สว.มีไว้ทำไม วันนี้ผมมั่นใจว่าประชาชนได้คำตอบแล้ว​ ก็คือ สมาชิกวุฒิสภาทำหน้าที่ตรวจสอบรัฐบาลแทนพรรคฝ่ายค้าน“นายสามารถ กล่าว

นายสามารถ กล่าวต่อว่า วันนี้พรรคฝ่ายค้านอย่าไปว่าพรรคอื่นเลย เพราะพรรคประชาธิปัตย์มีแค่ 25 เสียง ส่วนพรรคก้าวไกลมี 151 เสียง ตัดออกไป 2 คน เหลือ 149 เสียง คุณพิธา ถูกสั่งหยุดปฏิบัติหน้าที่เหลือ 148 เสียง มีถึง 148 เสียง กลับไม่ยื่นอภิปรายทั่วไป ไม่ยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจ​ แถมยัง ไม่ถอดถอนนายกรัฐมนตรี นี่จึง​เป็น​ประเด็น​ที่ประชาชนเขาถึงถามว่ามีพรรคก้าวไกลไว้ทำไม มีพรรคนี้ไว้ทำหน้าที่อะไร ไม่ใช่มาตั้งคำถามว่ามี สว. ไว้ทำไม​ หรือสิ่งที่เขาพูดกันหนาหูว่าในช่วงเดือนเมษายน ถึงช่วงเดือนมิถุนายน ที่ผ่านในปี พ.ศ. 2566 คุณธนาธรไปพบคุณทักษิณที่ฮ่องกงมีการทำปฏิญาณ ที่บอกว่าจะไม่แตะต้องคุณทักษิณจริงหรือไม่ รวมถึงข่าวที่ว่าจะร่วมกับพรรคเพื่อ​ไทยด้วย

นายสามารถ กล่าวต่อว่า ถ้า สว.หมดอายุเมื่อไหร่ พรรคก้าวไกลก็จะจับมือกับพรรคเพื่อไทยเป็นรัฐบาล นี่แปลว่าสิ่งที่คุณพิธาบอกว่าให้ ซื่อสัตย์ต่อประชาชน ก็แปลว่าแบบนี้ไม่ซื่อสัตย์​ เพราะว่าการซื่อสัตย์นั้นคือการรู้หน้าที่ของตัวเอง​ แล้วก็ต้องทำหน้าที่ของตัวเองด้วย แต่ปรากฏว่าวันนี้พรรคก้าวไกล ซึ่งเป็นผู้นำฝ่ายค้าน ไม่ยอมทำหน้าที่ของตัวเอง ทั้งที่สภาจะปิดต้นเดือนเมษายน 2567 วันนี้ก็มากลางเดือนมกราคม 2567 แล้ว พูดง่ายๆว่าผ่านมาครึ่งเดือน เหลืออีกครึ่งเดือน เหลือว่าอีกแค่ 2 เดือนครึ่ง แต่พรรคก้าวไกลไม่คิดจะทำหน้าที่ผู้นำฝ่ายค้านตรวจสอบรัฐบาลเลย

”วันนี้​ผมมาทานข้าว ถามแม่ค้าว่าเป็นยังไงบ้าง อยากได้เงินดิจิทัลหรือไม่ ร้านค้าบอกไม่อยากได้ เขาไม่เอา ไม่อยากให้ประเทศไทยเป็นหนี้มากกว่านี้แล้ว เขาสงสารลูกหลานคนไทย ประชาชนยังมีวิธีคิด ร้านค้ายังมีวิธีคิด แต่พรรคก้าวไกลกลับไม่ทำอะไรที่เกิดประโยชน์ต่อประชาชน ผมคิดว่าท่านควรจะพิจารณาตัวเองได้แล้ว“

นายสามารถ กล่าวต่อว่า สว.เขาทำหน้าที่ในบทบาทสภาสูง ใช้การยื่นญัตติมาตรา 153 ตามรัฐธรรมนูญ แต่ก้าวไกลมีทั้งญัตติมาตรา 151 มาตรา 152 คือรัฐธรรมนูญให้อำนาจท่านมากกว่า สว.เพราะมาตรา 151 คือหน้าที่ฝ่ายค้าน มาตรา 152 คือหน้าที่ฝ่ายค้าน พูดง่ายๆว่าเขาให้ สส. ทำหน้า​ที่ตามญัตติมาตรา151 และ มาตรา 152 คือ การอภิปรายไม่ไว้วางใจกับ กับอภิปรายทั่วไปแบบไม่ลงมติ ส่วนมาตรา 153 ให้ สว. ทำ แปลว่า สว.ต้องทำหลัง สส. แต่ปรากฏว่า สส. ที่นั่งอยู่ในสภาเป็นฝ่ายค้านกับไม่ปฏิบัติหน้าที่ ประชาธิปัตย์เขามีแค่ 25 เสียง พรรคคุณหญิงหน่อยหายไปอีก 3 เสียง ไม่มีใครจะยื่นได้ถ้าไม่ใช่พรรคก้าวไกล แล้วตอนที่มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าผู้นำฝ่ายค้าน นายชัยธวัช​ใส่ชุดขาวติดเข็มไปรับพระบรมราชโองการ แต่ทำไมเวลานี้ถึงไม่ทำหน้าที่

”นั่นคือสิ่งที่ผมบอกว่า การซื่อสัตย์ต่อประชาชนนั้น คือการทำหน้าที่สภาชิกสภาผู้แทนราษฏร ให้สมศักดิ์ศรีตามที่ประชาชนไว้ใจและเชื่อใจเลือกมา เขาไม่ได้เลือกให้คุณเป็นรัฐบาล เขาเลือกให้คุณไปเป็น ส.ส. แล้ว ส.ส. ไปทำหน้าที่เลือกนายกรัฐมนตรี ส.ส. บวก ส.ว. ทำหน้าที่เลือกนายกรัฐมนตรี สุดท้ายพอตอนนี้​พรรคก้าวไกลได้เป็นฝ่ายค้าน กลับไม่ปฏิบัติหน้าที่ของตัวเองดังนั้น​หัดทำหน้าที่ตัวเองก่อนดีกว่า​ ไม่อย่างนั้นชาวบ้าน​จะตั้งคำถามว่ามีพรรคก้าวไกลไว้ทำไม“นายสามารถ กล่าว
กำลังโหลดความคิดเห็น