”สามารถ“ซัด ”ก้าวไกล“โชว์ปาหี่ลาออกจาก กมธ.แลนด์บริดจ์ มอง รบ.ไล่เช็คบิลพรรคร่วม ส่อแววกลัวหลัง“บิ๊กป้อม”ขยับอีกครั้ง

วันนี้(15 ม.ค.)นายสามารถ เจนชัยจิตรวนิช อดีตผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม กล่าวผ่านรายการสามารถ 5 นาที ช่องทางเฟซบุ๊กสามารถ เจนชัยจิตรวนิช และช่องทาง TikTok: jopstoploss ถึงกรณีที่พรรคก้าวไกลนำโดยนายชัยธวัช ตุลาธน ได้ยื่นกระทู้สดถามเรื่องคุณทักษิณ และพูดว่ากระบวนการยุติธรรมของประเทศไทยนั้นมันเหลื่อมล้ำหรือไม่ คุณทักษิณนั้นได้อภิสิทธิ์มากกว่านักโทษคนอื่นหรือไม่อย่างไร

นายสามารถ กล่าวต่อว่า ตนคิดว่าที่นายชัยธวัชถามทั้ง 2 ประเด็น ในเรื่องของการแก้รัฐธรรมนูญ และเรื่องของคุณทักษิณ ชั้น 14 นั้น นายชัยธวัชยังไม่เข้าใจการเมืองว่า กระทู้สดนั้นเขาให้ถามได้ 15 นาที ตอบอีก 15 นาที ฉะนั้นพอมันเกินเวลาก็โดนประท้วง ทำไมนายชัยธวัชถึงไม่เข้าชื่อเสนออภิปรายทั่วไปแบบไม่ลงมติ เหมือนที่ สว.เขากำลังจะดำเนินการ ถ้าจะพูดเรื่องคุณทักษิณในชั้น 14 ตนมั่นใจว่าต้องไม่เกิน เดือนพ.ค. ถ้าเกินคุณทักษิณเขามีสิทธิ์ที่จะพ้นโทษออกมาอย่างถูกต้อง แบบนี้นายชัยธวัชจะเอาเวลาตอนไหนไปพูด พูดง่ายๆว่าเวลาของสภาจะปิดช่วงต้น เม.ย. 2567 ก็จะปิดสมัยประชุมสภาแล้ว

“เวลาที่นายชัยธวัชมีนับจากนี้คือเดือน ม.ค.- มี.ค.มีเวลาอีก 3 เดือน ท่านยังมีเครื่อง​มืออภิปรายทั่วไปที่ท่านสามารถทำได้ และการอภิปรายไม่ไว้วางใจท่านก็สามารถทำได้ แต่ท่านยังไม่ได้ใช้เลย นั่นคือสิ่งที่ผมบอกว่า วันนี้พรรคก้าวไกลนั้นไม่เข้าใจบทบาทหน้าที่​ตนเอง แล้วเลือกที่จะเล่นละครมากเกินไป อย่างเรื่องของแลนด์บริดจ์ สิ่งที่ท่านเสนอมา ที่ท่านไม่เห็นด้วยเขาก็เขียนชัดเจนไว้ในรายงาน อย่าลืมว่านั่นคือกรรมาธิการวิสามัญศึกษา ว่าการสร้างแลนด์บริดจ์นั้นดีหรือไม่ดี เขาก็เอาความเห็นของทุกคนมาเขียน แต่อย่างที่ว่าบางคนเป็น สส.สมัยแรกพึ่งจะเหยียบสภามาไม่ถึงปี ก็ไม่เข้าใจว่ากรรมาธิการวิสามัญเขามีหน้าที่อะไร และสุดท้ายก็มาแถลงลาออกจากตำแหน่ง ไม่รับตำแหน่งใดๆ ทั้งที่เขาพิจารณาเสร็จเรียบร้อยแล้ว พูดง่ายๆ​ คือเขาปิดแล้ว เขาส่งเล่มรายงาน​ให้ประธานสภาแล้ว หมายความว่าค่อยไปชี้แจงในที่ประชุม​ สส.ให้สภาลงมติว่าจะให้ส่งรัฐบาลหรือไม่อย่างไร และพวกท่านมาแถลงลาออกบอกว่าท่านลาออกไม่เอาตำแหน่งแล้ว พวกท่านมาเล่นละครปาหี่ให้ประชาชนดูทำไม​ มันไม่เกิดประโยชน์อะไร ผมเองก็ไม่เข้าใจ สิ่งที่ท่านควรทำกับไม่ทำ ปฏิบัติหน้าที่ตัวแทนของประชาชนอย่างไร้คุณภาพ“นายสามารถ กล่าว

นายสามารถ กล่าวต่อว่า พอมาดูบริบทของรัฐบาลนำโดยนายเศรษฐา ทวีสิน ตนคิดว่าการขยับของ พล.อ ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ทำให้นายเศรษฐากลัวว่า พรรคร่วมรัฐบาลจะกลับไปหา พล.อ ประวิตร หรือไม่​ เพราะร้อยวันพันปีไม่เคยทำ แต่วันนี้เอาคดีจับรอบตัวคุณเฉลิมชัย ซึ่งเป็นหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งคุณเฉลิมชัยก็ออกมาปฏิเสธแล้ว ข้อเท็จจริงก็ไปว่ากัน ต่อมาก็ให้ใบแดง สส.พรรคภูมิใจไทย จ.นครศรีธรรมราช ต่อมาก็ให้ดีเอสไอบอกว่ามีอดีต 2 รัฐมนตรี เกี่ยวข้องกับการค้าแรงงานข้ามชาติ หรือค้ามนุษย์ ซึ่งรัฐมนตรีของพรรครวมไทยสร้างชาติเป็นรัฐมนตรี​ในอดีต ก็ออกมาบอกแล้วให้แจ้งข้อหามาก็มาสู้กันที่ชั้น ป.ป.ช.

”จะเห็​นได้จากข้อเท็จจริงว่า ภายใน 1 สัปดาห์ที่ผ่านมานั้น มีการเร่งรัดคดีของพรรคร่วมรัฐบาล ผมถึงบอกว่าการเมืองในวันที่ 17 ม.ค.ถ้าศาลรัฐธรรมนูญมีการตัดสินคดีของคุณศักดิ์สยาม ชิดชอบ ในเรื่องของการถือหุ้นบุรีเจริญ เรื่องนี้จะเป็นฟันเฟืองที่จะทำให้การเมืองเปลี่ยนขั้วได้ และไปถึงวันที่ 24 ม.ค.และ 31 ม.ค. ฉะนั้นเราเริ่มเห็นบริบทฟันเฟืองของการเมือง ที่มันเริ่มเดินเข้ามาอย่างใกล้ชิดมากขึ้น สิ่งที่ผมเคยบอกว่า พรรคก้าวไกลว่าท่านต้องยื่นอภิปรายทั่วไป เพราะประชาชนเฝ้ารอดูอยู่ ว่านายชัยธวัชจะทำหน้าที่ผู้นำฝ่ายค้านได้มีประสิทธิภาพแค่ไหน แต่เท่าที่ดูตอนนี้​ยังไร้ซึ่งฝีมือ“นายสามารถ กล่าว