xs
xsm
sm
md
lg

คดีสตม.เก็บค่าวีซ่าเอื้อประโยชน์ "หวานเจี๊ยบ" ให้เอกชนแต่ไม่มีมลทิน บทพิสูจน์สัมพันธ์ไม่ธรรมดา "บิ๊กโจ๊ก-ภาไม่ยอม" !!? ** ก่อนเป็นนายกฯ “อุ๊งอิ๊ง” ขอชิมลางเป็นประธานรุ่น “มินิ วปอ.” สร้างเครือข่ายไว้ก่อน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ข่าวปนคน คนปนข่าว



**คดีสตม.เก็บค่าวีซ่าเอื้อประโยชน์ "หวานเจี๊ยบ" ให้เอกชนแต่ไม่มีมลทิน บทพิสูจน์สัมพันธ์ไม่ธรรมดา "บิ๊กโจ๊ก-ภาไม่ยอม" !!?

เริ่มต้นปีนี้สายสืบโซเชียลฯ งานเข้ารัวๆ ต้องสืบเรื่องนั้นเรื่องนี้มือเป็นระวิง

ยิ่งเรื่องของ “นายตำรวจใหญ่” ที่มีคลิปเสียงพูดจา “ดุดันไม่เกรงใจใคร” โชว์พาวด์ กลางวงประชุมมอบนโยบายให้ผู้ใต้บังคับบัญชาว่าสนิทสนมกับกรรมการป.ป.ช. คุมเกมทำคดีใน ป.ป.ช.ได้ดั่งใจปรารถนา หลุดออกมาว่อนโซเชียลฯ นอกจากจะชี้เป้าไปที่เจ้าของเสียงคลิปคล้ายเสียงของ “โจ๊ก หวานเจี๊ยบ” พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. และ “ท่านสุภา” ฉายา "ภาไม่ยอม" ที่นายตำรวจใหญ่อ้างว่าสนิทสนมด้วยนั้น น่าจะหมายถึง น.ส.สุภา ปิยะจิตติ ที่เพิ่งพ้นวาระกรรมการป.ป.ช.ไปไม่กี่วันนี้ แล้วยังไปสืบรู้อะไรต่อมิอะไรพรั่งพรูตามมาเป็นพรวน

อย่างที่มีคำถาม ว่า ระหว่างพล.ต.อ.สุรเชษฐ์ เอ่ยอ้างว่าสนิทสนมกับนส.สุภานั้น มีที่ไปที่มากันอย่างไร ?

ว่ากันว่า ที่ผ่านมาด้วยหน้าที่การงานในอดีต "สุภา" มักมีบทบาทในคดีที่สอบสวนเป็นคดีใหญ่ไปแล้วหลายคดี

หนึ่งในคดีสำคัญนั้นก็รวมถึง คดีที่นายตำรวจคนดังถูกร้องเรียนด้วยบัตรสนเท่ห์ ช่วงประมาณกลางปี 2564 กล่าวหาว่า จัดซื้อจัดจ้างไม่ชอบด้วยกฎหมาย และไม่เป็นการดำเนินการตามขั้นตอน ตามพ.ร.บ.จัดซื้อจัดจ้าง และการบริหารงานพัสดุพัสดุภาครัฐ พ.ศ.2560

ในการสรรหาบริษัทเอกชน เข้ามาทำการตรวจลงตรา Visa on Arrival (VOA) ให้นักท่องเที่ยวจำนวน 21 ประเทศ กับ1 เขตเศรษฐกิจ ที่มาท่องเที่ยวไทย จะต้องยื่นขอวีซ่ากับบริษัทเอกชนเสียก่อน

เรื่องนี้ต้องย้อนไปวันที่ 24 ธ.ค.61 หลังจากบิ๊กตำรวจรายนี้ ลงนามสัญญา MOU กับบริษัทแห่งหนึ่ง ให้ตรวจประทับตรา Visa on Arrival โดยเก็บค่าธรรมเนียม 2,500 บาท!

ฟังว่า การทำสัญญาดังกล่าวไม่ผ่านการสรรหา หรือเลือกสรร หรือคัดเลือก หรือเปิดโอกาสให้มีการแข่งขันระหว่างบริษัทต่างๆ

พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล
ขณะที่เงินค่าธรรมเนียมเรียกเก็บจากนักท่องเที่ยว 2,500 บาท แบ่งกันระหว่าง สตม.จะได้รับไป 2,000 บาท ที่เหลืออีก 500 บาท เป็นของบริษัท

ถ้านักท่องเที่ยวรายใดอยากได้ด่วนภายใน 24 ชั่วโมง ก็มีบริการแต่ขอชาร์ต เพิ่มอีก 2,000 บาท

อัตราค่าบริการวีซ่า VOA เรตนี้และการแบ่งรายได้กันถือปฏิบัติมาตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.62 ต่อเนื่อง และยังได้รับการต่ออายุ เมื่อวันที่ 1 ม.ค.65

เรียกว่า สร้างรายได้ให้เอกชนที่นายตำรวจผู้นี้เลือกมาเป็นกอบเป็นกำ

ว่ากันว่า แต่ละปีนักท่องเที่ยวที่มาเที่ยวเมืองไทย มีจำนวนปีละประมาณ 5 แสนคน เท่ากับว่าบริษัทพรรคพวกของ “บิ๊กตำรวจ” จะมีรายได้ถึง 250 ล้านบาท ต่อปี

แน่นอน เมื่อมีวิธีคิดชาร์จเพิ่มอีก 2,000 บาท ถ้าต้องการเร่งด่วน คำนวณตัวเลขประมาณการแค่ 5% จาก 5 แสนคนบริษัทเอกชนก็จะมีรายได้เพิ่มขึ้นไปอีกกว่า 500ล้าน!

ไม่มีธุรกิจไหนจะทำกำไร "หวานเจี๊ยบ" ได้เท่านี้เมื่อเทียบกับต้นทุน โดยเฉพาะอย่างยิ่งพบว่า ต้นทุนของบริษัทเอกชนนั้นต่ำสุดๆ

เพราะว่า จากการตรวจสอบพบบริษัทนี้ไม่มีสำนักงานประจำที่สนามบินสุวรรณภูมิแต่อย่างใด!

แค่เปิดเว็บไซต์ในต่างประเทศขึ้นมา จัดการกรอกข้อมูลของนักท่องเที่ยวแล้วสแกนจ่ายเงินผ่านทางแอปฯ ของบริษัทเท่านั้น

งานนี้ทั้งที่บิ๊กตำรวจ กระทำการผิดระเบียบการจัดซื้อจัดจ้าง มีลักษณะเอื้อประโยชน์ให้เอกชนอย่างชัดเจน แต่ผลสอบสวนในชั้นป.ป.ช. สรุปว่า บิ๊กตำรวจ ไม่มีความผิด คดีไม่มีมูล!

สุภา ปิยะจิตติ
นี่เป็นที่มาว่าทำไมนายตำรวจใหญ่ที่เป็นเจ้าของเสียงในคลิปที่หลุดว่อนโซเชียลฯ ถึงมั่นอกมั่นใจกล่าวอย่างอหังการ์ในที่ประชุมตำรวจพูดใต้บังคับบัญชา สามารถที่จะบันดาลคดีในป.ป.ช. ให้ไปในทางทิศไหนก็ได้

เรียกว่า ไม่มีอะไรที่ตำรวจไทยอย่างเขาจะทำไม่ได้!

จากนี้ต้องรอดูท่าทีของสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ และ สำนักงานตำรวจแห่งชาติจะดำเนินการอย่างไร ?

อย่าลืมว่าสังคมกำลังจับตาสองหน่วยงาน มีทางเลือกไม่มากนักนอกจากต้องทำความจริงซึ่งมีหนึ่งเดียวให้ปรากฏ!

** ก่อนเป็นนายกฯ “อุ๊งอิ๊ง” ขอชิมลางเป็นประธานรุ่น “มินิ วปอ.” สร้างเครือข่ายไว้ก่อน

หากเอ่ยถึงหลักสูตร “สร้างเครือข่ายคอนเนกชัน” ที่มีชื่อเสียงระดับแถวหน้า คงไม่มีใดเกินหลักสูตร วิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักร “วปอ.” สังกัด กองบัญชาการกองทัพไทย กระทรวงกลาโหม

หลักสูตรนี้ ตั้งขึ้นมาเพื่อ “ประศาสน์วิทยาการด้านการป้องกันราชอาณาจักรให้แก่ข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ ทั้ง ฝ่ายทหาร และฝ่ายพลเรือน เพื่อให้เกิดความสำนึก และตระหนักในความรับผิดชอบร่วมกันในอันที่จะต้องป้องกัน ต่อสู้ การจัด สรรพกำลัง การปกครอง และการรักษาความสงบของประเทศ”

มีการคัดกรองคุณสมบัติของผู้ที่จะข้าอบรมหลักสูตรนี้ ทั้งในด้านวัยวุฒิ คุณวุฒิอย่างเข้มงวด หากเป็นทหาร ตำรวจ ต้องมีชั้นยศเทียบเท่ากับ พันเอก (พิเศษ) ขึ้นไป และหากเป็นข้าราชการพลเรือน ต้องดำรงตำแหน่งระดับผู้บริหารขึ้นไป หรือระดับ C 9ขึ้นไป หากเป็นข้าราชการตุลาการ ต้องเงินเดือนชั้น 3 ขึ้นไป หากเป็นอัยการต้องชั้น 5 ขั้นไป อายุตั้งแต่ 53 ปี แต่ไม่เกิน 55 ปี และถ้าหากเป็นนักธุรกิจ ต้องประกอบธุรกิจที่ประสบความสำเร็จและมีสถานภาพมั่นคง อายุต้องไม่ต่ำกว่า 48 ปี และไม่เกิน 55 ปี

แพทองธาร ชินวัตร
ดูคุณสมบัติแล้ว กลุ่มนี้ถือว่าเป็น “รุ่นใหญ่” ที่จะเติบโตไปถึงผู้บริหารสูงสุดของกระทรวง ทบวง กรม และหน่วยงานต่างๆของรัฐ เป็นเครือข่ายของการบริหารราชการแผ่นดิน

โดยเฉพาะคนที่จะเป็นนายกรัฐมนตรี ควรต้องผ่านหลักสูตรนี้!!

แต่ยุคนี้เป็นยุคของ “คนรุ่นใหม่” ทางวิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักร จึงจัดทำหลักสูตรใหม่ ภายใต้ปรัชญาว่า...

“ผู้นำองค์กรรุ่นใหม่เป็นคนอีกเจนเนอเรชั่นหลัง อาจขาดข้อมูล ความเข้าใจในองค์ความรู้ด้านความมั่นคง จึงคิดว่าควรจะมีหลักสูตรที่ลดช่องว่างตรงนี้ลง โดยดึงเอาคนรุ่นกลาง ถึงรุ่นใหม่ จะก้าวขึ้นเป็นผู้บริหารองค์กร หรือ Future CEO เข้ามาเรียน แลกเปลี่ยนความรู้ ประสบการณ์ร่วมกัน ภายใต้ สถานการณ์ด้านความมั่นคง การเมือง เศรษฐกิจของโลกที่กำลังเปลี่ยนแปลงไป"

การเปิดรับสมัคร แบ่งเป็น 5 กลุ่มงาน ได้แก่ กลุ่มการทหาร กลุ่มตำรวจ กลุ่มข้าราชการพลเรือน กลุ่มนักธุรกิจ และ กลุ่มการเมือง

คุณสมบัติ มีอายุตั้งแต่ 35-42 ปี ในภาคราชการมีทั้งข้าราชประจำ และข้าราชการการเมือง ส่วนข้าราชการทหาร -ตำรวจ ต้องมีชั้นยศ พ.อ.-พ.อ.พิเศษ หรือเทียบเท่า ตำรวจ.-พ.ต.อ.-พ.ต.อ.พิเศษ หรือเทียบเท่า และต้องจบหลักสูตร เสนาธิการทหารของ โรงเรียนเสนาธิการทหารเหล่าทัพเป็นต้น

ภาคเอกชน ต้อง เป็นนักธุรกิจ เป็นผู้บริหารรุ่นใหม่ของหน่วยงาน ดำรงตำแหน่งไม่ต่ำกว่ารองกรรมการ ผู้จัดการ เป็นบุคคลที่มีอิทธิพลต่อความคิด และการตัดสินใจของกลุ่มเป้าหมาย มีชื่อเสียงในด้านความรู้ความเชี่ยวชาญ เฉพาะด้าน และเผยแพร่เรื่องราวต่างๆ บนโซเชียลมีเดีย มีผู้ติดตามและเป็นที่รู้จักจำนวนมาก โดยเฉพาะกลุ่มเจเนอเรชั่น y z Alpha สร้างสรรค์คอนเทนท์ ที่ดีต่อสังคม อาทิ นักแสดงในวงการบันเทิง นักเขียนในวงการหนังสือ นักจัดรายการ โปรแกรมเมอร์ ในวงการไอที ที่ปรึกษาในวิชาชีพต่างๆ โดยมีประสบการณ์หรือทำงานเกี่ยวข้องกับความมั่นคงระดับชาติอย่างน้อย 3 ปี เป็นต้น

พญ.พักตร์พิไล ทวีสิน
หลักสูตรนี้ใช้ชื่อว่า หลักสูตรผู้บริหารยุคใหม่ในอนาคต (วปอ.บอ.) หรือ “มินิ วปอ.” ใช้เวลาในการอบรมศึกษา 6 เดือน โดย “วปอ.บอ.67” ที่กำลังจะเปิดภาคการศึกษาในเดือนเมย.นี้ จะเป็น “รุ่นที่ 1”

เปิดรับสมัครกันไปแล้ว มีผู้สมัครเข้ามาเป็นจำนวนมาก คัดเบื้องต้นผ่านเกณฑ์คุณสมบัติ 492 คน ขั้นต่อไปต้องสอบสัมภาษณ์ คัดเหลือ 200 คน

ในจำนวนนี้ มีชื่อของ “อุ๊งอิ๊ง” แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรคเพื่อไทย รวมอยู่ด้วย มีกำหนดเข้ารับการสัมภาษณ์ในวันที่ 24 ม.ค.นี้

จึงมีเสียงวิพากษ์วิจารณ์ตามมาว่า หลักสูตรนี้คงจัดทำมาเพื่อ“อุ๊งอิ๊ง” โดยเฉพาะ

เรื่องนี้ ทางวปอ.ก็ได้ชี้แจงว่า หลักสูตรนี้ ผ่านการพิจารณามาร่วม 3 ปีแล้ว ตั้งแต่ยุค “พล.อ.พรพิพัฒน์ เบญญศรี” อดีต ผบ.ทสส. ต่อเนื่องมาถึง ยุค “พล.อ.ทรงวิทย์ หนุนภักดี” ผบ.ทสส.คนปัจจุบัน โดยยึดตามปรัชญาที่กล่าวมาข้างต้น คือเป็นผู้นำองค์กรรุ่นใหม่ เป็น Future CEO

เมื่อตรวจดูรายชื่อผู้ที่มีโอกาสเป็นเพื่อนร่วมรุ่นของ “อุ๊งอิ๊ง” ทั้งข้าราชการ ทหาร ตำรวจ ข้าราชการพลเรือน นักการเมือง และนักธุรกิจ อาทิ นายชัยชนะ เดชเดโช สส.ปชป., น.ส.รัดเกล้า สุวรรณคีรี รองโฆษกรัฐบาล, นายคณาพจน์ โจมฤทธิ์ หรือ เอิง ทีมงานนายกฯและเพื่อนสนิท อุ๊งอิ๊ง

มีลูกหลานคนดัง และทายาทนักการเมืองหลายคน เช่น นายพชร นริพทะพันธ์, นส.ศิรินันท์ ศิริพาณิชย์ นายภัทรพงศ์ ภัทรประสิทธิ์, นายอาทิตย์ หวังศุภกิจโกศล, นส.ศศิยาพัทธ์ เลาหะพงษ์ชนะ, นส.พิมพ์ศิริ จีนะวิจารณะ นายพสุ ลิปตพัลลภ นส.ณัฐธิดา เทพสุทิน, นายสงกรานต์ เตชะณรงค์ , นายรสิศ สอดส่อง , นายพัฒนา พร้อมพัฒน์ นายปิยะชาติ อิศรภักดี เป็นต้น

ว่ากันว่า ระดับ “อุ๊งอิ๊ง” ที่เป็นถึงหัวหน้าพรรคเพื่อไทย พรรคการเมืองแกนนำรัฐบาลแล้ว งานนี้ไม่เพียงแค่สัมภาษณ์ผ่านได้เข้าอบรมเท่านั้น แต่ยังต้องเป็น “ประธาน มินิ วปอ. รุ่น 1” นี้ด้วย!!

ในช่วงเวลาใกล้เคียงกันนี้ ก็มีข่าวว่า ทางสถาบันวิทยาการพลังงาน (วพน.) ได้ประกาศรายชื่อผู้เข้าอบรมหลักสูตรผู้บริหารระดับสูงด้านวิทยาการพลังงาน (วพน.) รุ่นที่ 19 จำนวน 96 ราย โดยหนึ่งในนั้นมีชื่อ “พญ.พักตร์พิไล ทวีสิน” แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านเวชศาสตร์ความงามและชะลอวัย ศูนย์ส่งเสริมสุขภาพไวทัลไลฟ์ โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ ซึ่งเป็นภริยาของ “เศรษฐา ทวีสิน” นายกรัฐมนตรีและรมว.คลัง รวมอยู่ด้วย


กำลังโหลดความคิดเห็น