xs
xsm
sm
md
lg

"ทนายตั้ม-ชูวิทย์" อโหสิกรรมให้กันและกัน ปิดฉากมหากาพย์ "แฉไปไถไป" ** "เฉลิมชัย"ปลุกใจลูกพรรค สวมบทนักรบ ไม่เป็นพรรคอะไหล่ ขณะที่วงในชี้ไปที่ กระทรวงเกษตรฯ ถ้า ปชป.เข้าร่วมรัฐบาล

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ข่าวปนคน คนปนข่าว



** "ทนายตั้ม-ชูวิทย์" อโหสิกรรมให้กันและกัน ปิดฉากมหากาพย์ "แฉไปไถไป"

ศึกระหว่างจอมแฉ อดีตเจ้าพ่ออ่างและนักการเมือง “ชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์” กับ “ทนายตั้ม” ษิทรา เบี้ยบังเกิด เลขาธิการมูลนิธิทีมงานทนายประชาชนฯ ทนายความชื่อดัง เมื่อมีนาคมปีที่แล้ว ถือเป็นคู่มวยที่ฟาดกันดุเดือดหลายยก

จุดเริ่มมาจาก “ถุงเงิน 6 ล้านบาท" จาก "สารวัตรซัว" ผู้อยู่เบื้องหลังเว็บพนันออนไลน์ แลกกับการไม่แฉของ ชูวิทย์ ที่"ทนายตั้ม" เอามาปูดย้อนเกล็ด พร้อมๆ กับยกให้เป็นรายการ "แฉไปไถไป" ของจอมแฉ

ในตอนนั้น “ชูวิทย์”อาศัยที่มีแสงและแรงเชียร์จากโลกโซเชียลฯ ด้วยต้นทุนคนคลุกวงใน "วงการสีเทา" เป็นโจรกลับใจ สถาปนาตัวเองเป็น "จอมแฉ" ผู้ยิ่งใหญ่ที่จะพูดอะไรก็ได้ ถึงกับสะอึก และ ตอบโต้ “ทนายตั้ม” ด้วยคลิปและแซะชีวิตความเป็นอยู่ส่วนตัวและการทำธุรกิจของทนายตั้มแบบไม่ธรรมดา หรือเป็นยิ่งกว่า vvip พร้อมวลีที่ว่า "แถลงไป ไถไป" ฟาดกลับ
แน่นอนว่า FC ที่หลงชูวิทย์หัวปักหัวปำ ยกขบวนทัวร์มาลงทนายตั้มจนสร้างกระแสเกลียดชังทนายคนดังอยู่พักใหญ่
หลังจากนั้นทั้งคู่ก็ฟาดฟันกันชนิดตาต่อตา ฟันต่อฟัน จนนำไปสู่การฟ้องร้องคดีต่อกัน

สังคมที่ติดตามและขาเผือกทั้งหลายต่างก็เฝ้าดูว่ามหากาพย์ “ผีไม่เผาเงาไม่เหยียบ” นี้จะจบลงอย่างไร

มาถึงวันนี้ ฟังว่า “ชูวิทย์” ที่บินไปรักษาตัวที่อังกฤษ โทรสายตรงถึง “ทนายตั้ม” เคลียร์ใจ และขอให้ยกโทษให้ในเรื่องที่ผ่านมา อาทิ ที่เคยกล่าวหา“ทนายตั้ม”ก็เกี่ยวข้องกับเว็บพนันออนไลน์ โดยบอกว่า

ตัวเองเข้าใจผิด เพราะมีผู้ไม่ประสงค์ดี ส่งข้อมูลผิดๆ มาให้ แต่มาถึงวันนี้ได้ตรวจสอบข้อมูลแล้ว พบว่าไม่เป็นความจริง จึงต้องการขอโทษ“ทนายษิทรา”พร้อมกับถอนฟ้องคดีอาญาและการตรวจสอบมรรยาททนาย

ในขณะฟากของ “ทนายตั้ม”ที่ฟ้อง “ชูวิทย์” ในปมกล่าวหาโยงเว็บพนันออนไลน์ หลังจากได้พูดคุยกันทางโทรศัพท์กับจอมแฉ เพื่อทำความเข้าใจกัน และ รู้ถึงสาเหตุที่ถูกชูวิทย์ กล่าวหา รวมทั้งได้รับหนังสือขอโทษก็รู้สึกพอใจและตัดสินใจถอนฟ้องให้
“ทนายตั้ม” ขยายความอีกว่า ที่ถอนฟ้องให้เพราะ “ชูวิทย์” ยอมรับว่าตัวเองผิดพลาดจริง อย่างลูกผู้ชาย และได้มีการโทรศัพท์มาขอโทษ ประกอบกับตอนนี้ ชูวิทย์ป่วย จึงคิดว่าต่างคนต่างจบกันดีกว่า ส่วนตัวเองก็ขอโทษชูวิทย์ เช่นกันที่เคยล่วงเกิน ดังนั้น จึงเป็นการต่างคนอโหสิกรรมให้กันและกัน

เป็นอันว่างานนี้ช้อยเก็บฉาก ปิดมหากาพย์แฉไปไถไปเรียบโร้ย!

** "เฉลิมชัย"ปลุกใจลูกพรรค สวมบทนักรบ ไม่เป็นพรรคอะไหล่ ขณะที่วงในชี้ไปที่ กระทรวงเกษตรฯ ถ้าปชป.เข้าร่วมรัฐบาล

หลังจาก “จุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์” สส.บัญชีรายชื่อ อดีตหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ โชว์ความเก๋า เล่นบทฝ่ายค้านมืออาชีพ อภิปรายร่าง พ.ร.บ.งบประมาณ 67 โดยโฉบไปที่ ชั้น 14 รพ.ตำรวจ ที่ “ทักษิณ ชินวัตร” ใช้เป็นที่พักนอกเรือนจำ เพื่อรักษาอาการป่วย จนได้รับเสียงชื่นชมจากคอการเมือง และเป็นการแย่งซีนในทางการข่าวเหนือ “พรรคก้าวไกล” แกนนำฝ่ายค้านไปเป็นที่เรียบร้อย

แฟนๆ ถึงกับออกปากอยากให้ประชาธิปัตย์เดินหน้า ทำหน้าที่ฝ่ายค้านเต็มตัว อย่ากั๊ก เลิกคิดถึงการเป็น “พรรคอะไหล่” รอร่วมรัฐบาลซะที

เมื่อพรรคกลับมาอยู่ในกระแส “เสี่ยต่อ” เฉลิมชัย ศรีอ่อน หัวหน้าพรรคคนปัจจุบัน จึงถือโอกาสเรียกประชุมคณะกรรมการบริหารพรรค (กก.บห.) ชุดใหม่เป็นครั้งแรก เมื่อวาน (7ม.ค.) หลังกกต.ให้การรับรองอย่างเป็นทางการไปเมื่อไม่นานนี้

ในที่ประชุม “เสี่ยต่อ”ปลุกเร้ากรรมการบริหารพรรค ขอให้ทุกคนสวมบทนักรบ เพื่อพาพรรคประชาธิปัตย์เดินไปข้างหน้า โดยเน้นย้ำความเป็นเอกภาพภายในสำคัญที่สุด เพราะเป็นจุดเริ่มต้นที่จะเดินหน้าไปสู่ความมั่นคง แต่เราอาจจะต้องเหนื่อยกัน แต่ถ้าเหนื่อยแล้วมีผลตอบแทนออกมาดี ก็คุ้มค่าที่จะเหนื่อย

ขณะที่ “เดชอิศม์ ขาวทอง”เลขาธิการพรรคฯ กล่าวเสริมว่า มั่นใจว่า กก.บห.ชุดนี้ มีความเป็นเอกภาพมากที่สุดในรอบ 20 ปี ความสมัครสมานเป็นหนึ่งเดียวจะนำประชาธิปัตย์ทะลุทะลวงไปได้ทุกภาค โดยเฉพาะในพื้นที่ภาคใต้ ที่ขณะนี้กระแสตอบรับดีมาก ส่วนใครจะวิพากษ์วิจารณ์ว่า ประชาธิปัตย์จะสูญพันธุ์ ประชาธิปัตย์จะต่ำสิบ ก็ขออย่าวอกแวก อย่าสนใจ พวกเราจะเดินหน้าสู้ต่อไป มั่นใจได้ “คัมแบ็ก”แน่ !!

ในที่ประชุม ยังหารือถึงงานสภาฯ ในวาระต่อไป นั่นคือ การอภิปรายไว้วางใจรัฐบาล โดยมอบหมายให้ “เดชอิศม์ ทองขาว” และ“นริศ ขำนุรักษ์” รองหัวหน้าพรรค เป็นคนคุมทีมกำหนดประเด็น กลั่นกรองข้อมูล

“เสี่ยต่อ” เฉลิมชัย ถือโอกาสนี้ประกาศถึงทิศทางความเปลี่ยนแปลงของพรรคในการประชุมสามัญประจำปีครั้งหน้าว่าจะได้เห็นการเปลี่ยนแปลงแน่นอน และตอนนี้ ก็อยากจะให้ทุกคนเริ่มเข้าไปติดตามการทำงานของประชาธิปัตย์ ทางด้านโซเชียลฯ ต่างๆ ซึ่งจะมีการเปลี่ยนแปลงตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป

กับท่าทีการเป็นฝ่ายค้าน จะจริงจังแค่ไหน เพราะมีกระแสข่าวออกมาเป็นระยะว่าประชาธิปัตย์ จ้องจะเสียบ ถ้ามีการปรับครม. เรื่องนี้ “เสี่ยต่อ” ยืนยันว่า เราจะเป็นฝ่ายค้านที่เข้มแข็ง ทำหน้าที่ในการตรวจสอบปกป้องผลประโยชน์ของพี่น้องประชาชนอย่างเต็มที่

“ขอฝากสื่อมวลชนทุกสื่อว่า ให้เลิกพูดคำว่าประชาธิปัตย์ เป็นพรรคอะไหล่ แต่ขอให้มาดูความตั้งใจของพรรคประชาธิปัตย์ในวันนี้ เริ่มต้นจากการอภิปรายงบประมาณที่ผ่านมา จะเห็นว่าประชาธิปัตย์ทุกคน ทั้งคนใหม่ คนเก่า ทำหน้าที่ ทำงานอย่างเต็มที่ ติติงในสิ่งที่เป็นประโยชน์ และเสนอแนะในสิ่งที่คิดว่าประเทศชาติจะได้ประโยชน์ และประชาธิปัตย์ทำหน้าที่เข้มข้นเช่นนี้ตลอดไป ... ฝากด้วยนะครับว่า ประชาธิปัตย์ทำหน้าที่ฝ่ายค้านอย่างเต็มที่ ไม่มีซูเอี๋ยกับใคร ประชาธิปัตย์ ตั้งมา 77 ปี จะเข้าปีที่ 78 ไม่มีไปเป็นพรรคอะไหล่ให้ใคร และไม่เคยเป็น”

เกี่ยวกับกระแสการปรับ ครม.ที่คาดกันว่าจะมีขึ้นในช่วงประมาณกลางปีนี้ และปชป.จะรอเสียบนั้น แม้ผู้จัดการรัฐบาลอย่าง “เสี่ยอ้วน” ภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรมว.พาณิชย์ จะออกมาปฏิเสธหลายครั้ง แต่ก็ยังไม่สามารถดับกระแสลงได้
ขณะเดียวกัน การเคลื่อนไหวของ “ลุงป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ที่ในช่วง 4 เดือนที่ผ่านมา ทำตัวโลว์โปรไฟล์ตลอด ก็เริ่มออกมาเคลื่อไหว โดยเมื่อวานนี้ (7ม.ค.) ลงพื้นที่เปิดเวทีสัญจร ที่ จ.เพชรบูรณ์ เพื่อประชาสัมพันธ์ผลงานของพรรค ทั้งในเรื่องแก้ปัญหาน้ำท่วม น้ำแล้ง เรื่องผลักดันอุทยานประวัติศาสตร์ศรีเทพ ให้เป็นมรดกโลกแห่งใหม่ของไทย

ที่สำคัญคือ นโยบาย “จากส.ป.ก.4-01 สู่โฉนดเพื่อการเกษตร” เพื่อให้เกษตรกรเข้าไปอาศัยทำกินได้ ซึ่ง “ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า” เลขาพรรคพลังประชารัฐ ในฐานะ รมว.เกษตรและสหกรณ์ ประกาศว่า วันนี้ทำได้แล้ว และพร้อมแจกให้คนไทยทั้งแผ่นดิน โดยจะมีการนำร่องในวันที่ 15 ม.ค.นี้

หลังจากนี้ไป เกษตรกรจะสามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุน นำไปเป็นหลักทรัพย์ค้ำประกันเงินกู้ เพื่อใช้ในการประกอบอาชีพทางการเกษตรกับธนาคารของรัฐ นำทุนที่ได้มาต่อยอดและพัฒนาผลผลิตให้มีคุณภาพ มีความมั่นคงมากยิ่งขึ้น

เมื่อถูกถามว่า ในกระแสข่าวปรับครม. กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ถูกมองว่าเป็นเป้าหมายอันดับ 1 ซึ่งจะถูกนำเอาไปให้ พรรคประชาธิปัตย์ ถ้ามาเข้าร่วมรัฐบาล เพราะในรัฐบาลที่แล้ว “เสี่ยต่อ” เฉลิมชัย ศรีอ่อน หัวหน้าพรรคคนปัจจุบันนั่งดูแลมาก่อน
“ร.อ.ธรรมนัส” ได้แต่ยืนยันว่า ตนเองได้ฟังมาจากคนที่ตัดสินใจว่า จะปรับครม. หรือหรือไม่ปรับ ว่า ยังไม่มีการปรับครม.ในช่วงนี้ โดยเฉพาะกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ...ให้ฟังผม อย่าไปฟังคนนอกพรรค

ก็ต้องติดตามกันต่อไปว่า ในอีกไม่ช้าไม่นานนี้ จะมีการปรับครม.หรือไม่ หากปรับ ปชป.จะไม่ยอมเป็นอะไหล่ จริงหรือไม่ ... เพราะผู้กุมอำนาจย่อมรู้จักบาลานซ์อำนาจ เพื่อให้ตัวเองได้อยู่ในอำนาจต่อไป


กำลังโหลดความคิดเห็น