“ธนกร” หนุนท่องเที่ยวเชิงศรัทธา สร้างโอกาสเศรษฐกิจ “สายมู” มาแรง เชื่อดึงนักท่องเที่ยวจีนเพียบ มั่นใจ นโยบายยกเลิกวีซ่าไทย-จีน ทำนักท่องเที่ยวทะลักแน่ หลังปี 66 ทำได้ตามเป้า
วันที่ 7 มกราคม 2567 นายธนกร วังบุญคงชนะ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบบัญชีรายชื่อ รองหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) และอดีตรัฐมนตรีประจำสำนักนายกฯ กล่าวว่า จากข้อมูลการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย หรือ ททท.เปิดตัวเลขการท่องเที่ยวไทย ที่เป็นจุดหมายปลายของนักท่องเที่ยว โดยเฉพาะการท่องเที่ยวสายศรัทธา สร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจได้อย่างมีนัยสำคัญ ตนจึงสนับสนุนให้รัฐบาลส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงศรัทธา เชื่อว่า จะดึงดูดนักท่องเที่ยวสายบุญกลุ่มที่ชื่นชอบท่องเที่ยวไหว้พระขอพร ขอโชค สายมูเตลู ซึ่งจะสามารถสร้างเศรษฐกิจหมุนเวียนในชุมชน วัด แหล่งท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมตามภูมิภาคต่างๆ ซึ่งมีแหล่งท่องเที่ยวจำนวนมากอยู่ทั่วประเทศ จะช่วยทำให้ทั้งเมืองหลักและเมืองรองเกิดการกระตุ้นการท่องเที่ยวเป็นอย่างดี
ทั้งนี้ จากที่กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา รายงานตัวเลขนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางมาเที่ยวไทยสะสมตลอดปี 66 (1 ม.ค.-24 ธ.ค.66) มีกว่า 27 ล้านคน เป็นไปตามเป้าหมายของรัฐบาล โดย 5 ลำดับนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางเข้าประเทศไทย ได้แก่
• มาเลเซีย 4,439,480 คน
• จีน 3,418,732 คน
• เกาหลีใต้ 1,616,858 คน
• อินเดีย 1,587,090 คน
• รัสเซีย 1,428,985 คน
เมื่อถามว่า หากเริ่มนโยบายเปิดฟรีวีซ่า “ไทย-จีน”ถาวร เริ่ม 1 มี.ค. 67 จะส่งผลดีต่อเศรษฐกิจอย่างไร นายธนกร กล่าวว่า หากยกเลิกการใช้วีซ่าระหว่าง ไทย-จีน ตนมั่นใจว่า จะสามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวจีนที่ชื่นชอบเที่ยวสายศรัทธา เข้ามาท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นจากปีที่แล้ว เป็นไปตามเป้าที่รัฐบาลตั้งไว้ได้สำเร็จ ซึ่งในปี 67 รัฐบาล และ ททท.ตั้งเป้าดึงนักท่องเที่ยวจีนเดินทางเข้าไทย ประมาณ 8.5 ล้านคน เพิ่มขึ้นจากปี 66 ที่มา 3.4-3.5 ล้านคน และคาดการณ์ว่า ในปี 67 การท่องเที่ยวภาพรวมจะมีนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามาเที่ยวในประเทศไทยสร้างรายได้ ที่ 3.5 ล้านล้านบาท (จากเดิม 3 ล้านล้านบาท) ตนเชื่อว่า จะเป็นไปตามเป้าหมายได้อย่างแน่นอน