กรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่าง กม.สมรสเท่าเทียม ดึง “แต๋ง อาฟเตอร์ยำ-อ๊อฟ รวีภัทร์” นั่งที่ปรึกษากรรมาธิการ หวังใช้ชื่อเสียงผลักดันให้ กม.ผ่านสภา
วันที่ 3 ม.ค. 67 ที่รัฐสภา นายอัครนันท์ กัณณ์กิตตินันท์ ส.ส.จังหวัดกาญจนบุรี พรรคเพื่อไทย ในฐานะรองประธานคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... แถลงข่าวภายหลังการประชุม กมธ.ว่า ที่ประชุมได้พิจารณาแต่งตั้งตำแหน่งต่างๆ ในคณะกรรมาธิการ ซึ่งมี นายดนุพร ปุณณกันต์ ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย เป็นประธานกรรมาธิการ มีรองประธานคณะกรรมาธิการจากทุกภาคส่วน จำนวน 7 คน รวมทั้งตำแหน่งโฆษก มีตัวแทนจากภาคประชาชน โดยมี นายคชาภา ตันเจริญ หรือ มดดำ, นายวุฒิธร มิลินทจินดา หรือ วู้ดดี้, นาย กฤษฎิ์กุล ชุมแก้ว หรือ แต๊งค์ อาฟเตอร์ยำ, นายสมบัษร ถิระสาโรช (ป้าตือ) และ นายรวีภัทร์ จิรศักดิ์วัฒนา หรือ อ๊อฟ ประจำสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี นั่งตำแหน่งที่ปรึกษาคณะกรรมาธิการ
โดย นายอัครนันท์ กล่าวว่า กฎหมายสมรสเท่าเทียมจะเป็นกฎหมายประวัติศาสตร์ของพี่น้องประชาชน โดยเชื่อว่า จะเป็นก้าวแรกที่ทุกคนจะได้ใช้กฎหมายที่มีความเสมอภาคกับทุกภาคส่วนโดยเฉพาะกลุ่ม LGBTQ โดยครั้งนี้รัฐบาล ฝ่ายค้าน หรือแม้กระทั่งภาคประชาชน มีความร่วมมือกันเป็นอย่างดี โดยเสียง ส.ส.และประชาชน ไม่มากพอ เท่ากับเสียงของอินฟลูเอนเซอร์ ผู้มีชื่อเสียงที่เป็น LGBTQ โดยบรรยากาศภายในที่ประชุมนัดแรก เป็นไปด้วยดี ไม่มีความขัดแย้ง ทุกคนมีความสุขที่ได้ร่วมกัน แสดงความคิดเห็น เพื่อให้กฎหมายฉบับนี้ผ่านการพิจารณาของสภาผู้แทนราษฎรโดยเร็ว แต่ต้องอยู่บนความรอบคอบ และใช้ได้จริงภายในปี 2567 นี้
ขณะที่ น.ส.วาดดาว ชุมาพร ตัวแทนภาคประชาชนในการเสนอร่างกฏหมายสมรสเท่าเทียม กล่าวว่า ได้เปิดรับความหลากหลายอย่างแท้จริง ได้ให้เป็นตัวของตัวเองในการใช้อัตลักษณ์ทางเพศการประชุมได้ โดยเชื่อว่า ปรากฏการณ์ครั้งนี้จะเป็นประตูบานสำคัญของความหลากหลายทางเพศและความเป็นธรรมทางเพศที่จะนำไปใช้อีกหลายหน่วยงาน ตนเชื่อว่า กฎหมายสมรสเท่าเทียมจะพิจารณาแล้วเสร็จโดยเร็ว โดยคณะกรรมาธิการอาจจำเป็นต้องเพิ่มวันประชุมในการพิจารณากฎหมายให้ทันตามกรอบระยะเวลาภายใน 60 วัน โดยรู้สึกได้ถึงความจริงจังของการพิจารณากฎหมายของรัฐสภา ที่จะทำให้กฎหมายจากภาคประชาชน เฝ้ารอให้เกิดความเท่าเทียมได้เกิดขึ้นจริง