xs
xsm
sm
md
lg

“ทักษิณ”ตัวภาระ ก้าวไกลยังกล้าขย่ม !?

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


 ทักษิณ ชินวัตร - ชัยธวัช ตุลาธน
เมืองไทย 360 องศา

นาทีนี้หากมองนายทักษิณ ชินวัตร นักโทษเด็ดขาดชาย อย่างเข้าใจ ก็จะเห็นว่าเขาต้องทำทุกทาง เพื่อจะได้ไม่ต้องติดคุกแม้สักวันเดียว ไม่ว่าจะด้วยวิธีไหนก็ตาม และในขณะเดียวกันในเวลานี้หากลองไปถามคนไทยทุกคนว่า เชื่อหรือไม่ว่า นายทักษิณ กำลังป่วยหนักจำเป็นต้องรักษาอาการอย่างใกล้ชิดบนชั้น 14 โรงพยาบาลตำรวจ เชื่อหรือไม่ว่า นี่คือ รายการ “ร่วมด้วยช่วยเหลือ” และเชื่อหรือไม่ว่า นี่คือ “อภิสิทธิ์ชน คนไม่เท่ากัน”

ดังนั้นไม่ว่าจะด้วยเหตุผลอะไรก็ตาม ก็มีแนวโน้มชัดเจนแล้วว่า นายทักษิณ ชินวัตร กำลังจะสร้างสถิติอันน่าอัปยศเพิ่มเติม นั่นอาจจะ “ไม่ต้องติดคุกแม้สักวันเดียว” ซึ่งเชื่อว่าหลายคนไม่มีใครกล้าเถียงอยู่แล้ว เพราะทุกอย่างต้องเป็นเช่นนั้น เพียงแต่ว่า หากพิจารณาจาก “กระแสสังคม” ภายนอกเวลานี้ย่อมมองไปอีกแบบ นั่นคือออกมาในทางลบ เพราะแม้กระทั่งบรรดา “นางแบก นายแบก” ทั้งหลายต่างก็พูดไม่ออก บอกไม่ถูก ยิ่งพูดเหมือนยิ่งเข้าตัว

สิ่งที่พิสูจน์ให้เห็นว่า กรณีของนายทักษิณ ชินวัตร เวลานี้ กลายเป็นกระแสลบ จนกลายเป็น “ภาระ” ให้กับรัฐบาล นายเศรษฐา ทวีสิน ไปเสียแล้ว แทนที่เคยคาดหมายกันก่อนหน้านี้ว่า เมื่อ เขากลับมาในประเทศไทยจะทำให้กระแสความชื่นชมในตัวเขาช่วยเป็นแรงผลักดันให้กับทั้งรัฐบาลและพรรคเพื่อไทย กลายเป็นว่าเวลานี้ทุกอย่างกำลังกลับกลายเป็นตรงกันข้าม

จากเดิมที่คิดว่าเมื่อเวลาผ่านไปนานวันเรื่องราวของ นายทักษิณ น่าจะเงียบหายไปสักพักหนึ่ง แต่กลับกลายเป็นว่า ยิ่งนาน กระแสแรงกดดันกลับยิ่งมาก เสียงวิจารณ์ดังขึ้นเรื่อยๆ ไม่เงียบอย่างที่ต้องการ แม้ว่าหลายคนพยายามหลบเลี่ยงไม่อยากพูดถึง ด้วยเจตนาให้เงียบไว้ก่อน แต่เสียงวิจารณ์ก็ดังขึ้น โดยเฉพาะกรณี “ข้ออ้าง”ออกมารักษาตัวที่โรงพยาบาลตำรวจนานกว่า 120 วัน ที่ไม่มีทางหาเหตุผลอะไรมาอธิบายได้ เพราะการรักษาอาการนานขนาดนั้น มันต้องมีเหตผลเดียวก็คือ “ป่วยโคม่า” แพทย์หมดปัญญาเยียวยาแล้ว แต่เมื่อสังคมไม่เชื่อว่าป่วย มันก็กลายเป็น “แรงกระแทก” กลับมาอย่างแรง กลายเป็นภาพลบ

สิ่งที่พิสูจน์ให้เห็นชัดว่า พรรคเพื่อไทยคะแนนนิยมไม่ได้กระเตื้องขึ้นมาเลย ก็มาจากผลสำรวจที่ออกมาล่าสุดที่สะท้อนให้เห็นว่า ตามหลังพรรคก้าวไกลแบบไม่เห็นฝุ่น ยิ่งวัดจากตัวบุคคลที่เป็นตัวจริงและกำลังเข็ญขึ้นมาให้มีบทบาท อย่าง “อุ๊งอิ๊ง” น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรค กลับมีคะแนนนิยมได้แค่ 5 เปอร์เซ็นต์ คะแนนนิยมอยู่ในระนาบพรรคขนาดกลางอื่นๆ เช่น รวมไทยสร้างชาติ ภูมิใจไทย พลังประชารัฐ เหล่านี้ถือว่าเสียหาย เสียยี่ห้อ “ลูกสาวเถ้าแก่” ป่นปี้

เพราะหากไปเทียบกับ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ที่ได้คะแนนนิยมถึง กว่า 22 เปอร์เซ็นต์ ยังนำหน้าสุดกู่แบบเทียบกันไม่ติด แต่เมื่อเทียบกับ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ อดีตหัวหน้าพรรคก้าวไกล ที่นำโด่งไปเกือบ 40 เปอร์เซ็นต์ มันก็สะท้อนให้ภาพทางการเมืองตั้งแต่วันนี้ไปจนถึงอนาคตได้ชัดเจนยิ่ง

แน่นอนว่าความถดถอยของพรรคเพื่อไทย และรัฐบาลอันมีผลต่อเนื่องมาจากกรณีของ นายทักษิณ ชิรนวัตร เป็นหลัก รวมไปถึงผลงานของรัฐบาลที่ยังทำได้แบบน่าผิดหวัง ไม่ปังสมราคาคุย นโยบายเรือธงอย่างเช่น นโยบาย “แจกเงินดิจิทัลวอลเล็ต” ที่ส่อเค้าไปไม่รอด หลังจากทุกอย่างไม่มีความคืบหน้า

กระแสที่เป็นภาพลบดังกล่าวยังทำให้พรรคก้าวไกลที่ก่อนหน้านี้ไม่เคยแตะต้อง นายทักษิณ ชินวัตร แบบตรงๆมาก่อน เพราะหากสังเกตจะเห็นว่าที่ผ่านมาพวกเขานิ่งเงียบกับกรณี “เทวดาชั้น 14” มาตลอด แต่อาจเป็นเพราะกระแสแรงเกินคาดทำให้อยู่นิ่งต่อไปไม่ไหว จนต้องออกมาร่วมขย่มมากขึ้นกว่าเดิม ล่าสุด นายชัยธวัช ตุลาธน หัวหน้าพรรคก้าวไกลได้ออกมาซ้ำอีกรอบ

นายชัยธวัช ตุลาธน หัวหน้าพรรคก้าวไกล ในฐานะผู้นำฝ่ายค้าน กล่าวถึงทิศทางการเมืองในปีหน้าว่า คิดว่าการเมืองปีหน้า ประชาชนกำลังเฝ้ารอการทำงานของรัฐบาลว่าจะมีความชัดเจน มีทิศทางที่ประชาชนจับต้องได้เป็นรูปธรรมอย่างไร ต้องยอมรับว่า 3 เดือนที่ผ่านมา การทำงานของรัฐบาลยังดูค่อนข้างที่จะสะเปะสะปะ ไร้ทิศไร้ทาง หลายสิ่งที่พูดไว้ยังไม่เห็นแผนงาน และเป้าหมายที่เป็นรูปธรรม สำหรับฝ่ายบริหาร ประชาชนก็ต้องคาดหวังรูปธรรมในการทำงานมากกว่านี้

“ดังนั้น ถ้ารัฐบาลไม่สามารถที่จะผลักดันผลงานของตัวเอง ทำให้ประชาชนพอใจ ก็จะส่งผลกระทบต่อความนิยมของรัฐบาลด้วย ยังไม่ต้องนับว่านโยบายเรือธงที่ยังไม่มีความชัดเจนว่า ในอนาคตจะสามารถดำเนินการได้สำเร็จหรือไม่ อย่างนโยบายดิจิทัลวอลเล็ต ซึ่งจนถึงวันนี้ความชัดเจนก็ไม่มี ล่าสุดก็บอกว่าคณะกรรมการกฤษฎีกา จะให้ความชัดเจนในปีหน้า ก็เป็นความท้าทายของรัฐบาล ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อความนิยมของประชาชนอย่างแน่นอน”

นอกจากนี้ ประชาชนก็ยังจับตาดูอยู่ว่าจะเกิดการเปลี่ยนแปลงภายในรัฐบาลหรือไม่ ไม่ว่าจะเป็นก่อนหรือหลังเดือน พ.ค.67 ซึ่งวุฒิสภา (สว.) จะหมดอำนาจในการเลือกนายกรัฐมนตรี ก็คงเป็นประเด็นที่ต้องจับตาว่าเงื่อนไขของ สว. ในการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีหมดไปแล้ว จะส่งผลต่อเสถียรภาพหรือองค์ประกอบภายในรัฐบาลหรือไม่

นายชัยธวัช ยังระบุว่า ประเด็นที่มีนัยสำคัญอย่างปฏิเสธไม่ได้คือกรณีของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ไม่ว่าจะเป็นการใช้สิทธิในการรักษาพยาบาลที่ รพ.ตำรวจ นำไปสู่คำถามว่าสิ่งที่เกิดขึ้นเป็นไปอย่างถูกต้องหรือไม่ตามหลักเกณฑ์ ตามระเบียบของกรมราชทัณฑ์หรือไม่ ถือว่าเป็นการได้รับการปฏิบัติที่เป็นมาตรฐานที่เหนือกว่ากรณีทั่วไปหรือไม่ รวมถึงความไม่ชัดเจนว่าระเบียบราชทัณฑ์ใหม่ที่อนุญาตให้มีการควบคุมตัวผู้ต้องขังนอกเรือนจำได้ ซึ่งหลักการใหญ่เป็นเรื่องที่ดี ควรจะสนับสนุน แต่เรื่องนี้ เท่าที่เราเห็นระเบียบที่ออกมา มีการให้อำนาจของเจ้าหน้าที่ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ในการพินิจว่าใครจะได้รับสิทธิบ้าง พอไม่มีหลักเกณฑ์ชัดเจนก็เลยกลายเป็นใช้อำนาจโดยดุลยพินิจ ทำให้คนตั้งข้อสังเกตว่าเอื้อประโยชน์ให้คนที่มีเส้นสาย คนที่มีอิทธิพลทางการเมือง หรือคนที่มีฐานะหรือไม่ รวมถึงตัวนายทักษิณก็จะเป็นปัจจัยสำคัญในต้นปีด้วยว่าถ้าเกิดกรณีที่ทำให้ประชาชนรู้สึกว่าเกิดกระบวนการยุติธรรมแบบอภิสิทธิ์ชนขึ้นมา ก็น่าจะส่งผลต่อรัฐบาลเช่นกัน

“อย่าปล่อยให้เกิดเป็นน้ำผึ้งหยดเดียวที่นำไปสู่วิกฤตศรัทธาต่อรัฐบาลได้ จะเห็นว่าตอนนี้รัฐบาลถูกถามทุกวันในเรื่องนี้ เพราะฉะนั้น ดีที่สุด รัฐบาลควรจะให้คำตอบ ควรชี้แจงเรื่องนี้ให้ชัดเจนให้สิ้นสงสัยให้หมด ไม่ว่าจะเป็นกรณีที่รักษาตัวอยู่ที่ รพ.ตำรวจ ทำถูกทุกอย่างและบอกได้ว่าไม่เป็นการใช้อภิสิทธิ์ทางการเมืองใดๆ ทั้งสิ้น และกรณีที่จะมีการพิจารณาผู้ต้องขังที่จะไปคุมตัวนอกเรือนจำ จะไม่เอื้อประโยชน์ต่อคนใดคนหนึ่ง ถ้ารัฐบาลยังตอบเรื่องนี้ไม่ชัดเจน มันก็จะเป็นน้ำผึ้งหยดเดียวได้” นายชัยธวัช กล่าว

ดังนั้น เมื่อพิจารณาจากท่าทีของพรรคก้าวไกลดังกล่าวที่ออกมาวิจารณ์รัฐบาล และเริ่มส่งแรงกระแสมาที่นายทักษิณ ชินวัตร มากขึ้น มันเริ่มสะท้อนให้เห็นว่า พวกเขากำลัง “เล่นกับกระแส” กดดันของสังคมภายนอกเช่นเดียวกัน เป็นการจับทิศทางได้ชัด แม้ว่าหากมองตามความเป็นจริงแล้ว ยังเป็นแค่การ “แตะเบาๆ” เท่านั้น แต่อย่างน้อยมันก็ได้เห็นสัญญาณบางอย่างที่ไม่ปกติ สะท้อนให้เห็นว่า นายทักษิณ กำลังกลายเป็นภาระสร้างกระแสลบให้กับรัฐบาลแบบผิดคาด !!



กำลังโหลดความคิดเห็น