วันนี้(28 ธ.ค.)ร้อยเอกธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ นำคณะผู้บริหารหน่วยงานในสังกัดที่เกี่ยวข้องกระทรวงฯอาทิ นายชูชาติ รักจิตร อธิบดีกรมชลประทาน นายสมชวน รัตนมังคลานนท์ อธิบดีกรมปศุสัตว์ นายณัภูฐกิตติ์ ของทิพย์ อธิบดีกรมการข้าว
เป็นต้น เดินทางลงพื้นที่จังหวัดนราธิวาส เพื่อติดตามช่วยเหลือพี่น้องประชาชนที่ประสบภัยน้ำท่วม และรับฟังหาแนวทางแก้ไขปัญหาในพื้นที่ พร้อมทั้งมอบถุงยังชีพและข้าวกล่อง กว่า 2,000 ชุด ภายใต้การดำเนินการของหน่วยงานในสังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ จังหวัดยะลา ปัตตานี และนราธิวาส ร่วมกับมูลนิธิธรรมนัส พรหมเผ่า ที่จัดตั้งโรงครัวเพื่อผลิตข้าวกล่องมอบให้กับผู้ประสบอุทกภัยอีกด้วย
โดยจุดแรก ร้อยเอกธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตร และคณะ ได้เดินทางไปเยี่ยมให้กำลังใจผู้ประสบภัย ณ บริเวณ วิทยาลัยการอาชีพสุไหงโก-ลก อำภอสุไหงโก-ลก จังหวัดนราธิวาส โดยมี สส.สัมพันธ์ มะยูโซ๊ะ และ สส.อามีน มะยูโซ๊ะ และตัวแทนหน่วยงานในสังกัดกระทรวงเกษตรในพื้นที่ และเจ้าหน้าที่ท้องที่ท้องถิ่นคอยให้การต้อนรับและรายงานสถานการณ์ทั้งนี้ ร้อยเอกธรรมนัส ได้มอบถุงยังชีพ หญ้าอาหารสัตว์พระราชทาน ให้ประชาชนผู้ประสบภัย เพื่อบรรเทาความเดือดร้อน จากนั้นยังนำคณะเดินลุยน้ำเข้าไปเยี่ยมให้กำลังใจและมอบถุงยังชีพให้ประชาชนผู้ประสบภัยในหมู่บ้านต่างๆด้วย ก่อนจะไปจุดที่สอง บริเวณองค์การบริหารส่วนตำบลมะรือโบออก อำเภอเจาะไอร้อง และจุดที่สาม โรงเรียนบ้านบาโงสะโต อำเภอระแงะ จังหวัดนราธิวาส ตามลำดับ
ทั้งนี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้สั่งการให้ทุกหน่วยงานในสังกัดเร่งสำรวจความเสียหายด้านการเกษตร และเข้าให้การช่วยเหลือประชาชนและเกษตรกรอย่างเร่งด่วน โดยหน่วยงานในสังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ จังหวัดยะลา ปัตตานี และนราธิวาส ร่วมกับมูลนิธิธรรมนัส พรหมเผ่า เพื่อการกุศล ดำเนินการจัดตั้งโรงครัวเพื่อผลิตข้าวกล่องและมอบน้ำดื่มให้กับผู้ประสบอุทกภัยในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้
นอกจากนี้ ยังได้ติดตั้งเครื่องสูบน้ำ และสนับสนุนหญ้าแห้งเสบียงอาหารสัตว์ให้กับเกษตรกรในพื้นที่ด้วย อย่างไรก็ตาม กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ได้เตรียมมาตรการทั้งระยะสั้นและระยะยาว ในการบริหารจัดการน้ำและภัยพิบัติที่อาจจะเกิดขึ้นอย่างฉับพลันเพื่อให้สถานการณ์คลี่คลายไปในทิศทางที่ดีขึ้น
สำหรับพื้นที่ประสบอุทกภัย ครอบคลุมพื้นที่ 5 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดยะลา ปัตตานี นราธิวาส สงขลา และสตูล สำรวจความเสียหายด้านการเกษตร (ข้อมูล ณ วันที่ 27 ธ.ค. 66) แบ่งเป็น
ด้านพืช พื้นที่ได้รับผลกระทบ 3 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดยะลา ปัตตานี และนราธิวาส เกษตรกร 15,524 ราย พื้นที่ 29,722 ไร่ แบ่งเป็น ข้าว 10,603 ไร่ พืชไร่และพืชผัก 2,949 ไร่ ไม้ผลไม้ยืนต้นและอื่น ๆ 16,170 ไร่ อยู่ระหว่างสำรวจความเสียหาย
ด้านประมง พื้นที่ได้รับผลกระทบ 2 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดยะลา และนราธิวาส เกษตรกร 1,420 ราย พื้นที่ (บ่อปลา) 548 ไร่ กระชัง 4,723 ตร.ม. อยู่ระหว่างสำรวจความเสียหาย
ด้านปศุสัตว์ พื้นที่ได้รับผลกระทบ 1 จังหวัด คือ จังหวัดนราธิวาส เกษตรกร 13,443 ราย สัตว์ได้รับผลกระทบ 181,655 ตัว แบ่งเป็น โค 17,181 ตัว กระบือ 611 ตัว สุกร 4,849 ตัว แพะ/แกะ 7,278 ตัว สัตว์ปีก 151,736 ตัว แปลงหญ้า 7,164 ไร่ อยู่ระหว่างสำรวจความเสียหายการให้ความช่วยเหลือเบื้องต้น
สนับสนุนเครื่องมือ และอุปกรณ์ เพื่อช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย
1.1 เครื่องสูบน้ำด้วยไฟฟ้า 51 เครื่อง ประกอบด้วย จังหวัดยะลา 2 เครื่อง ปัตตานี 6 เครื่อง นราธิวาส 11 เครื่อง และสงขลา 32 เครื่อง
1.2 เครื่องสูบน้ำ Hydro Flow 17 เครื่อง ประกอบด้วย จังหวัดนราธิวาส 6 เครื่อง และสงขลา 11 เครื่อง
1.3 เครื่องผลักดันน้ำ 15 เครื่อง ประกอบด้วย จังหวัดนราธิวาส 2 เครื่อง และสงขลา 13 เครื่องสนับสนุนเรือตรวจการประมง เรือยาง เพื่อช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยในพื้นที่ จังหวัดนราธิวาส และปัตตานี 3 ลำ เจ้าหน้าที่ 14 นาย พร้อมทั้งมอบถุงยังชีพ 10 ชุด สนับสนุนพืชอาหารสัตว์ 64.79 ตัน ถุงยังชีพสัตว์ 469 ถุง ส่งเสริมสุขภาพสัตว์ 59 ชุด รักษาสัตว์ 146 ตัว และอพยพสัตว์ 10,544 ตัว