วันนี้(28 ธ.ค.)นายสามารถ เจนชัยจิตรวนิช อดีตผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ได้ไปออกรายการทางสำนักข่าวช่องหนึ่ง โดยนายสามารถได้กล่าวถึงการบริหารประเทศของนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีว่า หลายนโยบายในขณะนี้ อย่างการขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ นายกฯก็ไม่รู้เรื่องเลยว่าเวลาการขึ้นค่าแรงขั้นต่ำมันมีไตรภาคี ที่เขาต้องคุยกันก่อน แล้วทางไตรภาคีเขายืนยันมาอย่างไร ก็ต้องตามนั้น ไม่ใช่นายกจะมาพูดว่า ยังซื้อไข่ต้มไม่ได้เลย ซึ่งนายกเองต้องเข้าใจก่อนว่า การบริหารแผ่นดินไม่ใช่เกมส์ สมมุติถ้าวันนี้คุณขึ้นค่าแรงสูงไปเลย ปรากฏว่ามันไปได้คนต่างด้าว ได้คนพม่า คนลาว แล้วเงินในประเทศจะอยู่ตรงไหน แล้วถ้าเกิดคนที่เป็นเจ้าของโรงงานเป็นผู้ผลิต เขาไม่สามารถผลิตได้เพราะเขาเจอแรงงานที่ราคาสูง เขาย้ายฐานไปอยู่เวียดนาม ไปอยู่กัมพูชาจะทำอย่างไร นั้นคือสิ่งที่นายกไม่คิดว่ามันจะกระทบอะไรบ้าง ทำงานเหมือนคนคิดไม่เป็น
นายสามารถ กล่าวต่อว่า ในส่วนของเงินดิจิทัล 10,000 บาท นายกไม่มีคำว่าสัจจะวาจาที่พูดกับทุกคนว่า จะไม่กู้ แต่พอตอนนี้บอกว่าจะกู้เป็น พ.ร.บ.เงินกู้ แต่มันจะกู้ได้อย่างไร เพราะ พ.ร.บ.งบประมาณจะเข้าสู่การพิจารณาในสภาฯวันที่ 3-5 ม.ค.นี้ แล้วถามว่าเงินดิจิทัลอยู่ตรงไหนของ พ.ร.บ.งบประมาณ สรุปว่า ไม่มี ซึ่งตามระเบียบใช้เงินของการเงินการคลัง มันมีกฎหมายห้ามอยู่ถ้าคุณไม่ใส่ใน พ.ร.บ.งบประมาณ จะกู้ได้อย่างไร โดยตนเชื่อว่า โครงการนี้จะเป็นหมัน และรัฐบาลคิดอยู่แล้วว่ามันไม่สามารถทำได้ แต่พูดเพื่อจะเอาคะแนนเสียงเท่านั้น
“วันนี้คะแนนผลโพลของพรรคเพื่อไทยดิ่งเหว เมื่อวันที่ 19 มี.ค.66ที่ผ่านมา จากข้อมูลของนิด้าโพล พรรคเพื่อไทยได้คะแนนนิยมอยู่ที่ 49.75% พรรคก้าวไกลอยู่ที่ 17.46% ส่วนคะแนนของน.ส.แพรทองธาร ตอนนั้นอยู่ที่ 38.20% คุณพิธาอยู่ที่ 15.75% แต่ปัจจุบันคะแนนคุณพิธา 39.40 คะแนนพรรคก้าวไกลจาก 17.40 ขึ้นไป 44.05% ขนาดไม่มีผลงานอะไรเลย แต่โดยหลักการถ้ารัฐบาลห่วยแตก คะแนนของฝ่ายค้านจะขึ้นตามสภาพ โดยที่ไม่ต้องทำอะไรเลย“นายสามารถ กล่าว
นายสามารถ กล่าวต่อว่า นายเศรษฐายังขาดความเข้าใจข้าราชการที่เขาไม่ได้ต้องการเงินเดือน 2 รอบ เขาต้องการเงินเดือนขึ้น การที่บอกว่าจ่ายเงินเดือน 2 รอบยัง ไม่ใช่ผลงาน มันเป็นภาระและปัญหา อย่าลืมว่าข้าราชการเป็นหนี้สหกรณ์ทั้งนั้น เวลาสหกรณ์ตัดหนี้ถามว่า 2 งวดเอาที่ไหนใช้ ตนถึงบอกว่า นายกไม่ได้เห็นเลยว่า ปัญหาของข้าราชการคืออะไร นายกกำลังจะหาเสียงให้ตัวเองว่าฉันจ่าย 2 รอบ แต่เงินมันได้เท่าเดิมไม่มีใครเขาต้องการ แล้วมันสร้างปัญหาให้เขาอีก
นายสามารถ ยังกล่าวต่อว่า นายเศรษฐาขาดวุฒิภาวะสิ่งสำคัญที่สุดคือ ท่านต้องเป็นเบอร์ 1 ของประมุขฝ่ายบริหาร จะต้องปกป้องข้าราชการน้ำดีที่ตั้งใจทำงานเพื่อประชาชน ถ้าวันนี้นายกฯไม่ปกป้องข้าราชการ แล้วใครจะทำงานให้ นั่นคือสิ่งที่ทำไมวันนี้ถึงมีแต่คนอยากเรียก พล.อ.ประยุทธ์ กลับมา แต่ท่านเป็นองคมนตรีไปแล้ว
เมื่อก่อนนายกฯต้องเป็น สส.ต้องไปยึดโยงอยู่ในสภา เพราะสภาเป็นที่เลือกนายก และปลดนายก หมายความถึงการอภิปรายไม่ไว้วางใจ การไม่ยกมือให้กับกฎหมายที่รัฐบาลเสนอ การเมืองไม่มีมิตรแท้และศัตรูที่ถาวร ฉะนั้นวันนี้ต้องบอกท่านนายกว่า ครม.ที่เขาเดินตามท่านนายก คนเหล่านั้นเขาเคยเดินตามลุงตู่มาก่อน ฉะนั้นวันนี้เขาเห็นว่า นายกคะแนนร่วงแล้ว เขาเริ่มมองหาแล้วว่า หัวใหม่เป็นใคร
“วันนี้ที่เราเห็นชัดคือคุณเศรษฐากับคุณอุ๊งอิ๊งค์ในพรรคเพื่อไทย คุณอุ๊งอิ๊งค์เขาเป็นหัวหน้าพรรค แต่คุณเศรษฐาไม่มีตำแหน่งใด ๆ ในพรรคเลย คุณอุ๊งอิ๊งค์เป็นลูกของอดีตนายกทักษิณ นามสกุลชินวัตร พูดง่ายๆว่าเป็นเจ้าของพรรคเพื่อไทยตัวจริง นี่คือสาเหตุที่ทำไมคนถึงมองว่านายเศรษฐา ไม่ใช่นายกฯตัวจริง“นายสามารถ กล่าว
เมื่อถามถึงกรณีที่นายทักษิณ ชินวัตร ยังคงรักษาตัวอยู่ที่ รพ.ตำรวจ นายสามารถ กล่าวว่า มันต้องมีคนที่กล้าออกมาพูดเรื่องนี้ เพราะตนมองว่าคนที่พูดถึงเรื่องชั้น 14 นี้มีน้อยมาก ยิ่งในสภาพรรคก้าวไกลในฐานะพรรคฝ่ายค้านกลับไม่พูดเรื่องนี้เลย ถ้าให้น้ำหนักเต็ม 10 ได้คะแนนอยู่ประมาณ 1 แต้ม คือแค่เฉียว แต่ไม่ชน แต่วันนี้องค์กรภาคประชาชนเริ่มขับเคลื่อนแล้ว ตนมองว่า ประชาชนเขาเห็นอยู่ว่า เทวดานักโทษที่อยู่ชั้น 14 แล้วไม่ได้รับการลงโทษอย่างเท่าเทียม แต่มันมีนักโทษอีก 300,000 กว่าคนที่เขาอยู่ในเรือนจำ แล้วเขาไม่เคยได้อภิสิทธิ์แบบนี้ ไม่เคยได้การดูแลแบบนี้ ทำให้เห็นว่า ความไม่เป็นธรรมมันเกิดขึ้นกับประเทศไทย ระบบ 2 มาตรฐานมันมีอยู่จริง
“เรื่องคุณทักษิณก็เป็นอีกสาเหตุหนึ่งที่ทำให้คะแนนนิยมของคุณเศรษฐาร่วง เพราะนอกจากทำงานไม่ได้
แก้ปัญหาไม่เป็น และเรื่องของการสร้างความยุติธรรมก็ไม่เกิด จึงเป็นสิ่งที่ทำให้คะแนนของคุณเศรษฐาร่วง และคะแนนของพรรคเพื่อไทยก็ร่วงไปด้วย“
ในส่วนของพรรคก้าวไกล นายสามารถ กล่าวว่า ตนเชื่อว่าพรรคก้าวไกลยังอยากเป็นรัฐบาลมาก ถึงยอมยกประธานกรรมาธิการให้กับพรรคร่วมรัฐบาล แต่สิ่งสำคัญที่สุดด้วยผลกรรมในอดีตที่เขาทำตอนช่วงหาเสียง ตนจึงมั่นใจอย่างยิ่งว่า ศาลรัฐธรรมนูญจะต้องตัดสินยุบพรรคก้าวไกล โดยพรรคก้าวไกลจากเดิมมี 151 คน วันนี้หายไป 3 คน เหลือ 148 คน ถ้าพรรคถูกยุบไป ตนมั่นใจเลยว่าครึ่งหนึ่งจะย้ายไปสังกัดพรรคการเมืองอื่น และจะยกมือสนับสนุนใครเป็นนายกก็ได้
ในส่วนของพรรคประชาธิปัตย์ นายสามารถ กล่าวว่า ตนฟันธงเลยว่าพรรคประชาธิปัตย์ในยุคท่านเฉลิมชัย ศรีอ่อน จะไม่จับมือกับคุณเศรษฐาเป็นรัฐบาล เพราะถ้าทำแบบนั้นพรรคประชาธิปัตย์จะเหลือไม่ถึง 25 เสียง แต่วันนี้จะต้องฟื้นคะแนนนิยมในฐานะฝ่ายค้านอย่างเข้มแข็ง ตนอยากจะเห็นคุณเฉลิมชัยส่งสัญญาณไปยังคุณชัยธวัช เพื่อเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจเด็ดหัวนายกฉะนั้นต้องยื่นถอดถอนนายกผ่านศาลรัฐธรรมนูญก่อน ถ้ามีเรื่องเข้าศาลรัฐธรรมนูญ ตนมั่นใจเลยครับว่า พรรคร่วมรัฐบาลจะฟอร์มรัฐบาลใหม่ นายกเศรษฐาร่วงแน่นอน
ซึ่งปรากฏคลิปนี้ชาวบ้านให้ความสนใจมากยอดดูคืนเดียวเป็นล้านวิว