วันนี้(27 ธ.ค.)นายสามารถ เจนชัยจิตรวนิช อดีตผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม กล่าวผ่านรายการสามารถ 5 นาที ช่องทาง Facebook สามารถ เจนชัยจิตรวณิช และช่องทาง TikTok จ๊อบ สามารถ ถึงกรณีที่มีกูรูบางคนออกมาบอกว่า ดูผลโพลพรรคก้าวไกลสิ วันนี้พุ่งกระจาย ถ้ายุบพรรคก้าวไกลก็คิดเองแล้วกันนั้น ตนไม่รู้ว่าเป็นการข่มขู่ศาลรัฐธรรมนูญหรือไม่ เพราะศาลรัฐธรรมนูญมีดุลพินิจเหนือสิ่งอื่นใด วันนี้ต้องดูที่ข้อเท็จจริงว่า สิ่งที่พรรคก้าวไกลทำผิดกฏหมายหรือไม่
“วันนี้ผลโพลไม่ว่าจะเป็นพรรคเพื่อไทย พรรคประชาธิปัตย์ พรรครวมไทยสร้างชาติ หรือแม้แต่พรรคพลังประชารัฐ ที่ได้คะแนนนิยมน้อยกว่าพรรคก้าวไกลนั้น เราอย่าลืมว่า การเมืองมันแบ่งไปแล้ว ไม่ได้แบ่ง เหลือง แบ่งแดง ไม่ได้แบ่งซ้าย แบ่งขวา แต่เป็นแบ่งบนกับล่าง ผมพูดมาตลอดว่า 14 ล้านเสียงของพรรคก้าวไกลมาจาก 7 ล้านเสียงที่เป็นของคนอายุต่ำกว่า 40 ปีลงมา จนถึงอายุ 18 ไม่ว่าจะเป็นเรื่องบอร์ดของประกันสังคมก็ดี อะไรก็แล้วแต่ที่มีการคุยกันทางโซเชียลเขาสามารถชี้นำได้ว่า วันนี้ให้ไปลงมติแบบไหน ในเรื่องของบอร์ดประกันสังคม เรื่องของผู้ประกอบการกับผู้ใช้แรงงาน ฉะนั้นไม่แปลก ที่พรรคก้าวไกลเขาบอกว่า เขาได้บอร์ดประกันสังคมเยอะ เพราะไม่มีใครหาเสียงกับคนกลุ่มนี้ ไม่มีใครได้บอกให้คนกลุ่มนี้เลือกใคร มาเป็นบอร์ด”นายสามารถ กล่าว
นายสามารถ กล่าวต่อว่า กูรูบอกว่าถ้ายุบพรรคก้าวไกลแล้วจะเกิดปัญหา ตนไม่เชื่อ เพราะการยุบพรรคอนาคตใหม่ก็ไม่ได้มีม็อบออกมา แต่การเลือกตั้งที่บอกว่าพรรคอนาคตใหม่ พอถูกยุบมาเป็นพรรคก้าวไกลโปรเซส 4 ปี สิ่งที่พรรคก้าวไกลเขาได้คะแนนนิยมมากขึ้นไม่ได้นิยมจากตัวพรรคก้าวไกล แต่ได้ความนิยมจาก คุณพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ จะเห็นได้ว่า ก่อนการเลือกตั้งนั้นคะแนนคุณพิธาจะเป็นรองคุณอุ๋งอิ๋ง การทำโพลครั้งที่หนึ่ง คุณพิธาเป็นรองคุณอุ๋งอิ๋งอยู่หลายขุม แต่หลังจากคุณพิธาผ่านเวทีการดีเบต ทำให้คะแนนของคุณพิธาดีขึ้น ฉะนั้นใครที่เป็นเสธ.ให้กับบรรดาพรรคการเมืองต่างๆ ท่านกำลังหลงทาง
นายสามารถ ยังกล่าวต่อว่า วันนี้ตัวเด็กเขาเลือกพรรคก้าวไกลกันหมด ลองดูในตลาด เวลานี้พรรคการเมืองอื่นนอกจากพรรคก้าวไกลแล้ว มีใครเป็นพรรคของคนรุ่นใหม่บ้าง ที่วันนี้คนรุ่นใหม่เขามองว่านั่นคือ ตัวแทนของเขา ฉะนั้นในเมื่อบริบททางการเมืองของคนรุ่นใหม่เขาไม่ได้นิยมกับพรรคการเมืองที่มีอยู่ปัจจุบัน มันก็ต้องเกิดพรรคการเมืองใหม่ที่จะมาผลักดันตามความต้องการของคนรุ่นใหม่ แต่เหนือสิ่งอื่นใดจะต้องปกป้องสถาบัน ไม่คิดจะล้มล้างการปกครอง ลองให้มีพรรคการเมืองแบบนี้ขึ้นมา แล้วให้เวทีเขา ให้บทบาทเขา ตนว่าพรรคการเมืองที่เกิดขึ้นมาใหม่นั้นที่รักสถานบัน จะเดินไปได้
“สิ่งที่พิสูจน์ผมบอกเลย ไม่ใช่เรื่องเหลือง แดง ซ้าย ขวา ไม่ใช่เอารัฐบาล ไม่เอารัฐบาล มันเป็นเรื่องของอุดมการณ์ เรื่องของแนวความคิด เรื่องของการเปลี่ยนแปลงให้มันทันสมัยมากขึ้น ให้มันตอบสนองกับยุคปัจจุบัน คนอายุต่ำกว่า 40 ลงมาจนถึงอายุ 18 เขามีแนวความคิดที่ไม่ได้เหมือนกับคนยุคก่อน ฉะนั้นสิ่งสำคัญที่สุด เขาก็ต้องแสวงหาสิ่งที่คิดเหมือนกัน วันนี้พรรคการเมืองที่จะต้องเกิดขึ้นคือ พรรคการเมืองที่ เหมือนพรรคก้าวไกล แต่รักสถาบัน เพื่อมาแทนงพรรคก้าวไกล ไม่ใช่ที่คนใครจะออกทีวีแล้วบอกว่า ฝากถึงอนุรักษ์นิยม มาสู้พรรคก้าวไกล มันโบราณ เด็กก็ยังไปกาพรรคก้าวไกลอยู่ดี เขาไม่ได้ไปกาพรรคอนุรักษ์ นิยม”
นายสามารถ กล่าวต่อว่า ตนบอกว่าการที่จะเอาสถาบันหาเสียงไม่ใช่เรื่องที่ถูกต้อง ไม่ใช่ว่าจะเป็นฝ่ายปกป้องและบอกว่าต้องเลือกฉันแต่สถาบันพระมหากษัตริย์ก็ควรถูกเอามาอยู่ในบริบทการเมือง แต่ต้องถูกเชิดชูไว้ เคารพและสักการะ ไม่ให้ใครล่วงละเมิดและอยู่เป็นร่มโพธิ์ร่มไทร อยู่ไปจนชั่วลูกสืบหลาน นั่นคือสิ่งที่สถาบันที่ต้องคงอยู่ เพราะประเทศไทยนั้น เป็นระบบการปกครองประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข
“วันนี้ไม่มีพรรคการเมืองไหนเลยที่กรรมการบริหารพรรคอายุเฉลี่ย น้อยกว่า 45 ปี ที่ไม่ใช่พรรคก้าวไกล ฉะนั้นก็ไม่แปลกที่พรรคก้าวไกลจะได้คะแนนนิยมสูง ทั้งๆ ที่ไม่มีผลงาน คำว่าผลงานคือ ผมมองว่า ในฐานะผู้นำฝ่ายค้าน ในฐานะพรรคฝ่ายค้าน ผลงานคือการตรวจสอบรัฐบาล ถอดถอนรัฐบาล ทำอย่างไรก็ได้ที่จะต้องล้มรัฐบาล นั่นคือหน้าที่ของฝ่ายค้าน ในสมัยที่แล้วที่พรรคก้าวไกลร่วมกับเพื่อไทย พลเอกประยุทธ์ทำอะไรก็ยื่นถอดถอนหมด แต่วันนี้ของคุณเศรษฐาไม่ได้ถูกยื่นอะไรเลย”นายสามารถ กล่าว
นายสามารถ กล่าวต่อว่า พรรคก้าวไกล ปัจจุบันในฐานะฝ่ายค้านไม่ได้ทำหน้าที่ แต่คะแนนนิยมก็มา เพราะเขาไม่ได้นิยมพรรคอื่น พูดง่ายๆ ถ้าวันนี้ยุบพรรคก้าวไกล เขาก็ยังจะเลือกก้าวไกล แต่ถ้ามีพรรคก้าวใหม่ มีอนาคตไกล ซึ่งพรรคการเมืองเหล่านั้นเป็นพรรคของคนรุ่นใหม่จริงๆมีกรรมการบริหารพรรคไม่เกินอายุ 45 มีวิสัยทัศน์ที่จะทำเพื่อประชาชน ตัวเลขมันไม่ได้หลอกใคร แต่วันนี้แค่มันมีตัวเลือกให้เลือกหรือเปล่า ฉะนั้นศาลรัฐธรรมนูญท่านวินิจฉัยได้อย่างเต็มที่ ท่านไม่ต้องไปกลัวกูรู ใครที่ออกมาขู่ว่ายุบแล้วจะเจอม็อบ เพราะผมเห็น ยุบอนาคตใหม่ ไม่เห็นมีม็อบ แม้แต่คนเดียว