“นพ.วรงค์” พร้อม 8 องค์กรเครือข่ายปกป้องสถาบันฟ้องศาลปกครองสูงสุด เพิกถอน 2 กม.เอื้อประโยชน์ “ทักษิณ” ไม่ต้องนอนคุก บี้ราชทัณฑ์แจงยังอยู่ชั้น 14 จริงหรือไม่
วันนี้ (26 ธ.ค.) น.พ.วรงค์ เดชกิจวิกรม ประธานพรรคไทยภักดี นายอานนท์ กลิ่นแก้ว ประธานศูนย์รวมประชาชนปกป้องสถาบัน (ศปปส.) และภาคีเครือข่าย รวม 8 ราย เข้ายื่นฟ้อง รมว.ยุติธรรม และอธิบดีกรมราชทัณฑ์ ต่อศาลปกครองสูงสุด ขอให้เพิกถอนระเบียบกรมราชทัณฑ์ว่าด้วยการดำเนินการสำหรับการคุ้มครองในสถานที่คุมขัง 2566 และกฎกระทรวงกำหนดสถานที่คุมขัง 2563 พร้อมขอให้ศาลกำหนดมาตรการบรรเทาทุกข์ชั่วคราวก่อนมีคำพิพากษาระหว่างกพิจารณาคดีให้มีการระงับใช้กฎหมายทั้ง 2 ฉบับดังกล่าวไว้ก่อน
นพ.วรงค์ กล่าวว่า ที่ต้องมายื่นฟ้องเรื่องนี้ เพราะเห็นว่าการออกกฎหมายทั้ง 2 ฉบับ กำลังทำให้ฝ่ายบริหารโดยเฉพาะราชทัณฑ์ ซึ่งถูกดูแลโดยนักการเมือง มีอำนาจเหนือตุลาการ สามารถเปลี่ยนคำพิพากษาของศาลจากโทษจำคุก กลายเป็นโทษคุมขังหรือกักขังได้ การกระทำแบบนี้เป็นการทำลายระบบตุลาการของประเทศ ทำลายหลักนิติรัฐนิติธรรม ซึ่งการเปลี่ยนคำพิพากษาของศาลเป็นอำนาจของศาลตามลำดับชั้น เช่น อุทธรณ์เปลี่ยนคำพิพากษาของศาลชั้นต้นได้ ศาลฎีกาเปลี่ยนคำพิพากษาของศาลอุทธรณ์ ไม่ใช่อำนาจของฝ่ายบริหารเป็นผู้เปลี่ยน นอกจากนี้ แม้แต่ พ.ร.บ.ว่าด้วยการดำเนินคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง การเปลี่ยนคำพิพากษาจากโทษจำคุกให้เป็นโทษกักขัง ก็เป็นอำนาจของที่ประชุมใหญ่ของศาลฎีกา และการออกกฎหมายทั้ง 2 ฉบับยังหมิ่นเหม่ต่อการขัดรัฐธรรมนูญมาตรา 179 เนื่องจากการอภัยโทษลดโทษ เปลี่ยนโทษคือพระราชอำนาจ
“นอกจากนี้ สิ่งที่ผู้รับผิดชอบ ทั้งกรมราชทัณฑ์ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ รมว.ยุติธรรม รัฐบาลต้องแถลงต่อประชาชน ว่า คุณทักษิณ ป่วยหนัก จนโรงพยาบาลของกรมราชทัณฑ์ ไม่สามารถรักษาได้จริงหรือไม่ และปัจจุบันคุณทักษิณ ยังอยู่ชั้น 14 จริงหรือไม่ หรืออยู่เฉพาะชื่อ แต่ตัวไม่อยู่ เพราะ พ.ร.บ.ราชทัณฑ์ มาตรา 55 วรรคสาม เขียนไว้ชัด ว่า การไปรักษาตัวนอกราชทัณฑ์ ถ้าเจ้าตัวไม่อยู่ จะถือว่าเข้าข่ายหนีคุก ดังนั้น กรมราชทัณฑ์ต้องสื่อสารให้ประชาชนเห็นได้ว่า คุณทักษิณยังอยู่ชั้น 14 จริงหรือไม่” นพ.วรงค์ กล่าว