ข่าวปนคน คนปนข่าว
** "ยิ่งลักษณ์" คิด "วิษณุ" ชี้! หนทางน้องปูตามพี่แม้ว...ชาวเน็ตว่าก็แล้วแต่..เตียงชั้น14 ยังว่าง!!
ปม "พี่โทนี่" ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี หลบหนีคดีกลับมาติดคุก แต่ไม่ถึงวันก็ย้ายเข้าพักรักษาอาการป่วยที่โรงพยาบาลตำรวจ เกินกว่า 120 วัน ท่ามกลางเสียงวิพากษ์วิจารณ์ว่า ได้รับอภิสิทธิ์เหนือนักโทษรายอื่นๆ เป็น "นักโทษโคตรVVIP" ที่วันนี้ก็ยังไม่มีคำตอบเป็น "เหตุ" อันสมควรหรือไม่
มาวันนี้น้องสาวพี่โทนี่ "ปู" ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีที่หลบหนีคดีเช่นกัน ก็มีกระแสข่าวความเคลื่อนไหวอยากจะกลับมาไทยบ้าง ซึ่งก็มีคำถามว่า หาก “ยิ่งลักษณ์” ต้องการขอพระราชทานอภัยโทษควรดำเนินการอย่างไร ?
คนที่ตอบคำถามนี้ได้ หันซ้ายหันขวา เห็นจะมีแต่ "เนติบริกร" วิษณุ เครืองาม อดีตรองนายกรัฐมนตรี
ว่าแล้ว “รองวิษณุ” ก็ให้สัมภาษณ์ว่ากรณี “ยิ่งลักษณ์” ต้องการขอพระราชทานอภัยโทษ ต้องดำเนินการ คือ หนึ่งต้องเข้ามาประเทศเสียก่อน... สอง มอบตัวเป็นนักโทษแล้วถึงจะถวายฎีกาได้
ถ้ายังไม่รับโทษ ก็ยังไม่สามารถถวายฎีกาได้ เพราะไม่เรียกว่าฎีกา
สำหรับฎีกา คือสิ่งที่นักโทษเด็ดขาดเป็นผู้ถวายขึ้นไป ส่วนจะโปรดเกล้าฯ หรือไม่ ก็ขึ้นอยู่กับพระมหากรุณา
พลันที่อดีตรองนายกฯ ที่เชี่ยวชาญเรื่องกฎหมายแสดงความเห็นดังกล่าว ชาวเน็ตและชาวโซเชียลฯก็ได้เข้ามาวิพากษ์วิจารณ์กันเป็นที่ครึกครื้น
ความเห็นอันหลากหลาย ก็นานาจิตตัง บ้างก็ว่า หนทางของ “ปู-ยิ่งลักษณ์” มีพี่โทนี่ปูทางเอาไว้ให้แล้ว กลับเข้ามาก็เข้าล็อก เดินตามทักษิณได้เลย
เรียกว่า คนของตระกูลชินวัตรซะอย่าง สบายไป 8 อย่าง เตียงชั้น 14 ยังว่าง!!
ยิ่งในเวลานี้เป็นรัฐบาลเพื่อไทย อะไรๆ ก็จะเป็นใจ ของที่ว่ายาก ก็ไม่น่ายาก จะก้าวข้ามผ่านประตูคุกลอยขึ้นไปอยู่บนชั้น 14 เป็นนักโทษโคตร VVIPเหมือนกับ “พี่โทนี่” หรือ จะใช้บริการ "นอนนอกคุก" อยู่บ้านของ "ทวี สอดส่อง" รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ก็เลือกเอา
งานนี้ คนกลางๆ ก็ว่า ก็แล้วแต่ ก็แล้วกัน ไม่ขอออกความเห็นจนกว่าวันนั้นจะมาถึง วันที่ “ปู” กลับเข้ามาสู่กระบวนการยุติธรรม จริงจัง
“ทว่า ในความเห็นประดามากมีนี้ รวมไปถึง FC ของยิ่งลักษณ์ ที่เห็น “วิษณุ” ออกมาชี้ช่อง อดทนไม่ไหวฟาดเข้าใส่ "เนติบริกร" หาเรื่องให้คนที่รักโดนด่า
เพราะ "ยิ่งลักษณ์" จะกลับมาเมื่อไหร่ อย่างไร ก็ยังไม่รู้ พร้อมกับส่งกำลังใจให้กับอดีตนายกฯหญิง น้องรักพี่โทนี่
ขณะที่เจ้าตัว โพสต์ "คะMerry Christmas" ลงในเฟซบุ๊ก Yingluck Shinawatra อวยพรเนื่องในวันคริสต์มาสให้ FC ว่า “คริสต์มาสนี้ ขอให้เป็นช่วงเวลาแห่งความสุขที่หลายๆ ท่าน จะได้เฉลิมฉลองกับคนที่รักและครอบครัวอย่างอบอุ่น ให้เป็นวันที่เราได้ขอบคุณกันและกัน ขอส่งความสุข และมอบความรู้สึกดีๆให้ทุกคนในช่วงเทศกาลคริสต์มาสนี้ด้วยนะคะMerry Christmas ค่ะ"
นั่นเป็นข้อความที่ “ปู-ยิ่งลักษณ์” สื่อกับFC ในวันคริสต์มาสนี้ ส่วนใครที่ไม่ใช่แฟนเห็นโพสต์แล้วจะคิดมากกว่านี้ ว่ามีนัยยะอะไรแอบแฝงมาหรือไม่ อยากมาอยู่กับครอบครัว อยากกลับมาหาพี่โทนี่ ก็ว่ากันไป
เอาเป็นว่า กระแส "ยิ่งลักษณ์" คิด "วิษณุ" ชี้ช่อง หนทางน้องปูตามพี่แม้ว ช่วงนี้มาแรง แต่น่าจะเป็นซีรีส์ที่มีหลายตอนให้ติดตามต่อเนื่องแน่นอน
ท่านผู้ชมทั้งหลายก็โปรดติดตามรอชมตอนต่อไปตามอัธยาศัยนะจ๊ะ.
** 31 ม.ค.67 ศาลฯนัดชี้ชะตา “พิธา-ก้าวไกล” ล้มล้างการปกครองหรือไม่
ในวันที่ “พิธา ลิ้มเจริญรัตน์”ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคก้าวไกล และ “ชัยธวัช ตุลาธน” หัวหน้าพรรคก้าวไกล ต้องขึ้นศาลรัฐธรรมนูญ เพื่อเข้ารับการไต่สวนพยานบุคคล (25ธ.ค.) ในคดีที่ “พิธา” หัวหน้าพรรคก้าวไกล ขณะนั้น และพรรคก้าวไกล เสนอ ร่าง พ.ร.บ.แก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่…) พ.ศ. …เพื่อยกเลิกประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 โดยใช้เป็นนโยบายในการหาเสียงเลือกตั้ง เป็นการใช้สิทธิ หรือเสรีภาพ เพื่อล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข หรือไม่
นับเป็นเรื่องที่เครียดไม่น้อยสำหรับทั้งสองคน เพราะการไต่สวนครั้งนี้เป็นนัดสุดท้ายแล้ว ก่อนที่ศาลฯจะพิจารณาและสรุปออกมาเป็นคำวินิจฉัย
แต่ก่อนจะถึงวันนัดหนึ่งวัน ก็มีเรื่องที่ให้ “พิธา” ได้มีความรู้สึก “ใจฟู” ในเวลาที่ต้องพบปะผู้คน นั่นคือ เมื่อวันที่ 24ธ.ค. “นิด้าโพล” ได้เผยแพร่ผลโพลที่สำรวจจากกลุ่มตัวอย่าง 2,000 คน กับคำถามว่า บุคคลที่ประชาชนจะสนับสนุนให้เป็นนายกรัฐมนตรีในวันนี้ ปรากฏว่า อันดับ 1 ร้อยละ 39.40 เป็น “พิธา ลิ้มเจริญรัตน์” ส่วนอันดับ 2 ร้อยละ 22.35 เป็น “เศรษฐา ทวีสิน” ทิ้งห่างกันเกือบเท่าตัว
อันดับ 3 ร้อยละ 18.60 ระบุว่า ยังหาคนที่เหมาะสมไม่ได้ และ อันดับ 4 ร้อยละ 5.75 เป็น “อุ๊งอิ๊ง” แพทองธาร ชินวัตร เรียกว่า “อุ๊งอิ๊ง” ที่ว่ากันว่ากำลังแต่งตัวรอเป็นนายกฯนั้น ถูกทิ้งห่างไม่เห็นฝุ่น
ส่วนพรรคการเมืองที่ประชาชนจะสนับสนุนในวันนี้ พบว่า อันดับ 1 ร้อยละ 44.05 เป็น พรรคก้าวไกล, อันดับ 2 ร้อยละ 24.05 เป็น พรรคเพื่อไทย และอันดับ 3 ร้อยละ 16.10 ระบุว่า ยังหาพรรคการเมืองที่เหมาะสมไม่ได้
นับว่าทั้ง “พิธา”และ “พรรคก้าวไกล” ยังอยู่ในกระแส!!
เมื่อ “พิธา”เดินทางไปศาลรัฐธรรมนูญ จึงมีแต่คนพูดถึงเรื่องนี้มากกว่าเรื่องคดี ซึ่ง “พิธา” ถึงกับออกปากขอบคุณประชาชน ที่ยังระลึกถึงกัน และให้กำลังใจกันผ่านผลสำรวจครั้งนี้ และจะแรงผลักดันในการทำงานให้หนักขึ้น
“สำหรับผมตอน ขึ้นอย่าหลง ตอนลงอย่าท้อ”
วกมาที่การไต่สวนของศาลรัฐธรรมนูญ ซึ่งใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง
“ชัยธวัช ตุลาธน” บอกว่า การไต่สวนผ่านไปด้วยดี เรายังมั่นใจว่า ตามข้อเท็จจริง ตามกฎหมาย และเจตนาของเราสามารถ ชี้ได้ว่า ไม่ได้เป็นการล้มล้างการปกครอง และก่อนหน้านี้ได้ทำคำชี้แจงในประเด็นสำคัญๆ มาก่อนแล้ว วันนี้หลักๆ มาตอบคำถามที่ตุลาการซักถามเพิ่มเติมเท่านั้น
“เรายังเชื่อมั่นเหมือนเดิมว่า การเสนอร่างกฎหมายโดยการใช้กระบวนการนิติบัญญัติ และแก้ไข มาตรา112 รวมถึงกฎหมายอาญา หมิ่นประมาท เรายังมั่นใจว่า ไม่สามารถนำไปสู่การล้มล้างการปกครองได้ ทั้งนี้การเสนอร่างใดๆ มีกระบวนการของสภาแล้วไม่ว่าจะเป็นวาระที่ 1 วาระที่ 2 วาระที่ 3 ซึ่งต้องใช้เสียงส่วนใหญ่ ต้องใช้กรรมาธิการในการคัดกรองพิจารณาเนื้อหาซ้ำอีกครั้ง ยังมีกระบวนการตรวจสอบความชอบด้วยรัฐธรรมนูญก่อนผ่านสภา ก่อนประกาศใช้จะสามารถตรวจสอบได้ ดังนั้น การเสนอกฎหมายไม่มีทางนำไปสู่การล้มล้างการปกครองได้ ”
ส่วน“พิธา” บอกว่ารู้สึกพอใจ ที่ได้แถลงข้อเท็จจริง และข้อกฎหมาย ตลอดจนข้อสงสัย ของตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ทุกสิ่งที่ตั้งใจมา เป็นไปตามความคาดหมาย ยังมั่นใจในข้อเท็จจริงหลายๆเรื่อง และยืนยันได้ในเรื่องของเจตนา ว่าไม่ได้มีเจตนาจะล้มล้างการปกครอง
เมื่อถามว่า หากผลการตัดสินออกมาเป็นคุณทั้ง 2 คดี คือคดีถือหุ้นไอทีวี กับคดีนี้ จะกลับมาเป็นหัวหน้าพรรคก้าวไกล อีกครั้งหรือไม่ ซึ่ง “พิธา” บอกว่า ไม่ว่าผลการตัดสินจะออกมาเป็นอย่างไร ก็จะยังทำงานกับพรรคก้าวไกล ส่วนบทบาทในพรรคพรรคนั้น ต้องรอเดือน เม.ย.67 ซึ่งจะมีการประชุมใหญ่วิสามัญพรรคก้าวไกล ส่วนตัวไม่ได้ยึดติดอะไร สามารถทำงานการเมืองได้ทุกรูปแบบ
ขณะที่ “ธีรยุทธ สุวรรณเกสร” อดีตทนายความ ของอดีตพระพุทธะอิสระ ผู้ร้องในเรื้องนี้ บอกว่าพอใจการไต่สวนครั้งนี้ ไม่มีสิ่งใดที่ยังค้างคาใจแล้ว
ทั้งนี้ ตามคำร้องของตนเองคือ ปรารถนาเพียงว่า ให้เกิดการหยุดการกระทำ ยกเลิกที่จะเปิดช่องทางให้มีการก้าวล่วงถึงสถาบันพระมหากษัตริย์ ตามคำร้องจึงไม่ได้ขอให้มีการยุบพรรค เพราะประเด็นปัญหาตามคำร้องที่ยื่นไป ระบุว่า การที่จะมีช่องทางใดก็ตาม ที่จะไม่ให้มีการวิพากษ์วิจารณ์ก้าวล่วงถึงสถาบันพระมหากษัตริย์ ซึ่งจะเป็นการเซาะกร่อนบ่อนทำลาย แม้เพียงเล็กน้อย ซึ่งอาจขยายวงกว้างได้ในภายหน้า คิดว่าควรที่จะมีการยับยั้ง ซึ่งโดยอำนาจตนเอง หรือประชาชน ไม่สามารถทำได้ แต่ต้องเป็นศาลรัฐธรรมนูญ จึงได้มายื่นคำร้อง
หลังจากศาลรัฐธรรมนูญ ไต่สวนครั้งนี้เสร็จสิ้นแล้ว ต่อไปก็จะนัดแถลงด้วยวาจา ประชุมปรึกษาหารือ และลงมติ ในเวลา 09.30 น. และนัดฟังวินิจฉัย เวลา 14.00 น. วันที่ 31 มกราคม 2567
ต้องติดตามว่า ผลการตัดสินจะเป็นคุณกับพรรคก้าวไกลหรือไม่ และถ้าไม่เป็นคุณ จะมีผู้ไปยื่นยุบพรรคตามมาอีกหรือไม่ !!