"เศรษฐา" มอบนโยบายการทำงานกอ.รมน.ปี 67 ย้ำเป็นกลไกสำคัญที่มุ่งเน้นของสถาบันหลักของชาติ ฝากช่วยเหลือปชช.เรื่องที่ดินทำกิน ขอบคุณปรับเปลี่ยนการทำงานเหมาะสมกับสถานการณ์ -รูปแบบการทำงานเป็นกลไกสำคัญของรัฐ
วันนี้ (25ธ.ค.) เมื่อเวลา 13.00 น. ที่ตึกสันติไมตรี (หลังใน) ทำเนียบรัฐบาล นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรมว.คลัง ในฐานะประธานคณะกรรมการอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร ครั้งที่ 1/2566 และเป็นประธานสรุปผลการปฏิบัติงานและแถลงแผนการปฏิบัติงาน ประจำปี 2567 ของ กอ.รมน. โดยมีพล.อ.ทรงวิทย์ หนุนภักดี ผู้บัญชาการทหารสูงสุด (ผบ.ทสส.) พล.อ.เจริญชัย หินเธาว์ ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) พล.ต.อ. ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม นายประเสริฐจันทรรวงทอง รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม(ดีอี) นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพฯ
จากนั้น 13.15 น.นายกฯ เดินชมนิทรรศการผลงานของกอ.รมน. ก่อนรับชมวีดีทัศน์สรุปผลการปฎิบัติงานประจำปี 2566
โดยนายกฯ กล่าวมอบนโยบายการปฏิบัติงานปี 2567 ตอนหนึ่งว่า สวัสดีเจ้าหน้าที่บริหารระดับสูงกอ.รมน. รัฐมนตรีแก่ผู้มีเกียรติทุกท่านที่เคารพ ต้องขอขอบคุณส่วนราชการและภาคส่วนต่างๆที่ได้มาร่วมแก้ไขปัญหา ด้านความมั่นคงมาโดยตลอด ซึ่งกอ.รมน.ที่ผ่านมาเป็นกลไกสำคัญที่มุ่งเน้นของสถาบันหลักของชาติ และปัจจุบันตนเห็นว่าเราต้องมุ่งเน้นความมั่นคง ด้านชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนด้วย ซึ่งวันนี้เราเห็นผลการปฏิบัติงานอย่างเป็นรูปธรรมที่ชัดเจน
โดยเฉพาะประเด็นเร่งด่วนที่รัฐบาลได้มอบหมายทั้งนี้ ต้องกราบขอบพระคุณผู้บัญชาการเหล่าทัพทุกท่าน โดยตั้งแต่ 4 เดือนที่ตนเข้ามารับหน้าที่ตรงนี้ได้มีการพูดคุยอย่างไม่เป็นทางการหลายเรื่อง โดยเรื่องแรกเป็นเรื่องการจัดสรรที่ดินของกองทัพให้พี่น้องประชาชนได้รับประโยชน์ ซึ่งผู้ที่เกี่ยวข้องได้ปฏิบัติงานอย่างเร่งด่วน พร้อมมอบที่ดินให้กับพี่น้องประชาชน จึงอยากให้ทำอย่างต่อเนื่อง เพราะประชาชนเดือดร้อนเรื่องที่ทำกินจึงอยากฝากให้ดำเนินการอย่างต่อเนื่อง ทั้งเรื่องที่ดินและระบบชลประทานด้วย ตรงไหนช่วยได้ ติดขัดตรงไหนและต้องทำงานร่วมกับกระทรวงการคลังตรงไหน ตนจะช่วยผลักดันให้เกิดเป็นรูปธรรมมากยิ่งขึ้น
นายกฯ กล่าวต่อว่า ส่วนเรื่องการดูแลพื้นที่ชายแดนภาคใต้เพื่อให้ประชาชนอยู่อย่างเป็นสุขไม่ต้องเผชิญอันตราย ทั้งหลายเรื่องนี้เข้าใจว่าเป็นปัญหาใหญ่ ซึ่งทุกคนตระหนักดีถึงความสำคัญของชีวิตความเป็นอยู่ของพี่น้องประชาชน ขณะเดียวกันเราไม่ได้นิ่งนอนใจเหมือนกัน ตนได้มีการพูดคุยกับผู้นำมาเลเซียและจะไปพูดคุยอีกอย่างไม่เป็นทางการวันที่ 26 ธ.ค.ที่จ.ภูเก็ต ตรงนี้เราเข้าใจและซาบซึ้งในสิ่งที่ทำมาตลอด และจะทำอย่างต่อเนื่องหากมีอะไรก็ต้องพูดคุยกัน หากตนทราบก็พร้อมปฏิบัติทุกเมื่อ ส่วนเรื่องการเปลี่ยนผ่านให้ชายไทยเกณฑ์ทหารด้วยความสมัครใจ เรื่องนี้ต้องบาลานซ์ให้ดี ในเรื่องความมั่นคงกับสิทธิเสรีภาพ ตนเข้าใจทุกท่าน ที่ทราบว่าตรงไหนเป็นจุดที่มีความสมดุลที่ถูกต้อง ก็ต้องขอบคุณที่เข้าใจในนโยบายของรัฐบาล และสิทธิของพี่น้องประชาชน และกำลังพลที่ต้องทดแทนอย่างสม่ำเสมอ ส่วนการแก้ไขปัญหายาเสพติดถือเป็นนโยบายแห่งชาติ ตนได้พูดคุยกับผู้บัญชาการทหารบก(ผบ.ทบ.) ทราบว่ามีการกระจายขนส่งเข้ามาทุกหย่อมหญ้า แต่ฝ่ายเราก็ต้องเข้มด้วยตรงนี้ต้องช่วยกันดูแลปัญหายาเสพติดให้ดี เพราะก่อนเลือกตั้งจากการที่ตนได้ลงพื้นที่ทุกพรรคการเมืองไม่ใช่พรรคนี้พรรคเดียว เราได้พบปะพูดคุยรับฟังปัญหายาเสพติด ซึ่งเป็นเรื่องใหญ่ที่สุดเรื่องหนึ่งของชีวิตประชาชนและน่าเห็นใจน่าสงสารมากขอบคุณที่ช่วยกันมาอย่างต่อเนื่อง
นายกฯ กล่าวอีกว่า ส่วนเรื่องการแก้ไขปัญหา PM 2.5 การทำงานในแง่ของพื้นที่ได้คิดกันหลายมิติขอขอบคุณและชื่นชม และอยากให้ขยายไปทำในหลายพื้นที่ ซึ่งต้องระมัดระวังเรื่องไฟไหม้ป่า งานเหล่านี้พวกท่านมาอยู่แล้ว ขอให้ดำเนินการตามขั้นตอนและกรอบเวลาที่วางไว้ ขอให้ทุกส่วนราชการที่เกี่ยวข้องดำเนินการตามภารกิจบูรณาการงานอย่างเหมาะสม ทั้งนี้ ที่ผ่านมาในอดีตทราบว่าทุกท่านทำงานอย่างหนัก และเป็นกลไกสำคัญในการดูแลความมั่นคงให้กับประเทศชาติมาโดยตลอด ถือเป็นหน้าที่หลักของพวกท่านอยู่แล้ว ซึ่งตนและประชาชนอยากให้กอ.รมน.ช่วยดูแลเรื่องความมั่นคง ด้านเศรษฐกิจความพร้อมให้กับประเทศไทย ซึ่งถือเป็นภาระเพิ่มเติมที่จะรบกวนพวกท่าน นอกเหนือจากภารกิจที่ได้ทำกันอยู่แล้ว
“ผมต้องขอบคุณทุกท่านที่พยายามพัฒนาปรับเปลี่ยนปรับปรุงการทำงานให้เหมาะสมกับสถานการณ์ และกำลังพลรูปแบบการทำงานเพื่อให้กอ.รมน.เป็นกลไกที่สำคัญของรัฐในการดูแลพี่น้องประชาชนต่อไป ขอบคุณผู้บริหารบุคลากรของกอ.รมน.และทุกคนที่เกี่ยวข้องในการขับเคลื่อนช่วงเวลาที่ผ่านมา ในโอกาสปีใหม่ 2567 ที่กำลังจะมาถึงขอให้ทุกท่านมีกำลังกาย กำลังใจที่เข้มแข็งเป็นพลังในการขับเคลื่อนประเทศไทยให้ก้าวไปข้างหน้าได้อย่างยั่งยืนสืบไป” นายกฯ กล่าว.