“ภูมิธรรม” ไม่แปลกใจ ผลนิด้าโพลให้ “พิธา” คะแนนนําโด่ง ในเมือง-คนหนุ่มสาว ยังนิยมอยู่ แต่โพลอื่นอาจแตกต่าง สำคัญต้องดูที่ประชาชน เชื่อส่วนใหญ่ยังสนับสนุน “เศรษฐา” มั่นใจเพื่อไทยเหนือกว่าพรรคอื่น และการทำโพล 3 เดือนเร็วไป อ้าง รบ.เข้ามาสางปัญหาสะสมนาน 9 ปี ซ้ำไม่มีงบประมาณทำงาน เร่งวางรากฐาน มั่นใจ หลังปีใหม่เห็นศักยภาพเต็มที่แน่
เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 25 ธันวาคม ที่ทําเนียบรัฐบาล นายภูมิธรรม เวชยชัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ในฐานะรองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีผลสำรวจนิด้าโพล ระบุว่า ประชาชนอยากเห็น นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคก้าวไกล เป็นนายกรัฐมนตรี เป็นการส่งสัญญาณอะไรหรือไม่ ว่า ก็ไม่ได้แปลกอะไร เพราะการสำรวจผลโพลขึ้นอยู่กับว่าใครสำรวจสถาบันไหนบ้าง และสำรวจในกลุ่มตัวอย่างเท่าไหร่ จากส่วนไหนบ้าง ซึ่งตอนนี้เราฟังผลโพลจากทุกฝ่ายที่อาจจะมีลักษณะไปในทิศทางเดียวกันหรือแตกต่างกัน แต่ที่สำคัญที่สุด คือ พื้นที่ของประชาชนโดยตรง ตนเชื่อว่าพื้นที่ที่รัฐบาลไปพบประชาชนส่วนใหญ่ ยังสนับสนุนพรรคเพื่อไทย และ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ส่วนผลโพลถ้าเป็นในเมือง โดยเฉพาะคนวัยหนุ่มสาว ยอมรับว่า ความนิยมของนายพิธายังมีอยู่ แต่คิดว่าอยู่ที่การทำงานมากกว่า รัฐบาลนี้เข้ามาช่วงแรกวุ่นอยู่กับการทำงานอยู่ หลังจากทำงานเสร็จแล้ว ค่อยไปดูอีกทีว่าประชาชนจะรู้สึกอย่างไร ส่วนตัวคิดว่าความนิยมไม่เท่ากับผลงานที่ทำงานให้กับประชาชน
ผู้สื่อข่าวถามว่า การทำโพลภายใน 3 เดือน คิดว่า เร็วไปหรือไม่ นายภูมิธรรม กล่าวว่า ส่วนตัวคิดว่าเร็วไปนิดนึง เหมือนที่บอกว่าจะมีการอภิปรายไม่ไว้วางใจ รัฐบาลเพิ่งเริ่มทำงาน ต้องเข้าใจว่า สิ่งที่รัฐบาลเข้ามาครั้งนี้ มาถึงก็เจอแต่ปัญหาเยอะแยะ เป็นปัญหาที่สะสมมาเกือบ 9-10 ปี จากการรัฐประหาร ดังนั้นการทำงานขณะนี้ เป็นการปูรากฐาน
นายภูมิธรรม กล่าวว่า สิ่งสำคัญที่สุดขณะนี้ รัฐบาลยังไม่มีงบลงทุนในการทํางานเลย ส่วนใหญ่เป็นงบประจำ เพราะงบประมาณเป็นช่วงรอยต่อพอดี ซึ่งงบประมาณปี 67 กำลังจะเข้าสภาต้นปีนี้ ฉะนั้น เรายังไม่มีเงินทำงาน ดังนั้น งบประมาณที่เราจะทำงานได้ จะมีหลังเดือนพฤษภาคมปีหน้าเป็นต้นไป ที่ผ่านมา เราใช้การบริหารเงิน ด้วยการนำธนาคารของรัฐมาช่วยบ้าง เป็นการหยิบจับมาโปะ เป็นการเตรียมพื้นที่แก้ไขปัญหาในอนาคตต่อไป และเชื่อว่า หลังจากปีใหม่เป็นต้นไป ทุกคนจะได้เห็นว่าฝีมือการทำงานของรัฐบาลเป็นอย่างไร และในช่วงต้นปี จะมีการชี้แจงให้ประชาชนทราบว่า 3 เดือนที่รัฐบาลเข้ามา ได้ปูรากฐานอะไรบ้าง
เมื่อถามว่า มั่นใจว่า จะใช้ผลงานเป็นตัวดึงคะแนนได้ใช่หรือไม่ นายภูมิธรรม กล่าวว่า ผลงานเป็นสิ่งที่สำคัญมากอันดับต้นๆ ในการดึงความรู้สึก เพราะถ้าประชาชนเห็นความตั้งใจของรัฐบาล หรือสามารถแก้ไขปัญหาได้ ประชาชนก็จะพอใจ เชื่อว่า เรามีความสามารถเหนือกว่าพรรคอื่น คือ การลงไปพบปะประชาชน ซึ่งสมาชิกที่ลงพื้นที่ก็ได้รับเสียงสะท้อนว่าพรรคยังได้รับความเชื่อมั่น เพียงแต่เราอาจจะต้องปรับการสื่อสารกับคนในเมืองและเยาวชน ส่วนการใช้โซเชียลมีเดีย ยอมรับว่า พรรคเพื่อไทยยังไม่แข็งแรง มีข้อจำกัด ซึ่งหลังจากมีการปรับปรุงพรรค มีหัวหน้าพรรคและคณะกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ เชื่อว่า จะสามารถทำความเข้าใจให้คนเหล่านี้เข้าใจพรรคมากขึ้น
อย่างไรก็ตาม รัฐบาลมีเวลา 4 ปี ในการทำงาน หลังจากนั้น ประชาชนจะเป็นผู้ตัดสินว่า ใครที่สร้างประโยชน์ให้กับประชาชนได้ดีที่สุด