วันนี้(22 ธ.ค.)นายร่มธรรม ขำนุรักษ์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.) จ.พัทลุง พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงความรับผิดชอบของนายกรัฐมนตรีและฝ่ายบริหารต่อการรับฟังปัญหาของสภาผู้แทนราษฎร โดยระบุว่า การเข้าร่วมการประชุมสภาเพื่อตอบกระทู้ถามเรื่องความเดือดร้อนของประชาชน การบริหารราชการแผ่นดิน และเรื่องที่มีความจำเป็นเร่งด่วนนั้น ถือเป็นความรับผิดชอบของนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีทุกกระทรวงในฐานะของฝ่ายบริหาร ซึ่งเป็นหนึ่งในมาตรการควบคุม ตรวจสอบและถ่วงดุลอำนาจการบริหารราชการแผ่นดินโดยฝ่ายนิติบัญญัติ ตามที่รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ.2560 ได้ให้จัดสรรอำนาจไว้ ประกอบกับข้อบังคับการประชุมสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ. 2562 ข้อที่ 151 ก็กำหนดให้นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีที่ถูกตั้งกระทู้ถาม ต้องเข้าร่วมประชุมสภาเพื่อตอบกระทู้ถามในเรื่องนั้นด้วยตนเอง เว้นแต่มีเหตุจำเป็นอันมิอาจหลีกเลี่ยงได้ ทั้งนี้เป็นไปเพื่อให้ฝ่ายบริหารได้ทราบถึงความเดือดเนื้อร้อนใจของประชาชน ผลการดำเนินนโยบายที่อาจมีปัญหาในทางปฏิบัติ การบริหารราชการแผ่นดินที่ผิดพลาด หรือเกิดเรื่องที่มีความจำเป็นเร่งด่วนและอยู่ในความสนใจของประชาชน ซึ่งทั้งหมดนี้จะถูกส่งผ่านผู้แทนของประชาชน หรือ สส.ในพื้นที่ เพื่อนำไปตั้งกระทู้ถามรัฐบาลในเวทีของสภาตามวิถีทางของประชาธิปไตย แต่ที่ผ่านมาปัญหาของประชาชนเหล่านี้กลับไม่ได้รับการเหลียวแลจากรัฐบาลอย่างที่ควรจะเป็น และถูกละเลยไม่เข้าร่วมการตอบกระทู้โดยอ้างว่าติดภารกิจสำคัญ ทั้งที่ปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนที่รอการแก้ไขอยู่ ก็มีความสำคัญไม่แตกต่างกัน
นายร่มธรรม กล่าวเพิ่มเติมว่า ตั้งแต่การแถลงนโยบายต่อรัฐสภาและเริ่มการบริหารงานของรัฐบาลชุดปัจจุบันตลอด 4 เดือนที่ผ่านมา นายกรัฐมนตรีได้เดินทางมาตอบกระทู้ถามสดในสภาเพียงครั้งเดียว และเป็นกระทู้ที่ถามโดย ส.ส.ฝ่ายรัฐบาลเรื่องการเดินทางไปต่างประเทศเท่านั้น แต่กลับไม่เคยตอบกระทู้ถามสดของฝ่ายค้านเลยแม้แต่ครั้งเดียว ทั้งที่เป็นเรื่องสำคัญซึ่งเกี่ยวกับปัญหาของการบริหารราชการแผ่นดินของรัฐบาล และเป็นเรื่องที่สังคมกำลังคลางแคลงใจทั้งสิ้น โดยนายกรัฐมนตรีมักอ้างเหตุการไม่สามารถเข้ามาตอบกระทู้ได้เนื่องจากติดภารกิจเดินทางไปต่างประเทศ ซึ่งจากข้อมูลพบว่า นายกรัฐมนตรีมีภารกิจเดินทางเยือนต่างประเทศในรอบ 4 เดือน จำนวน 11 ครั้ง รวม 10 ประเทศ อาทิ สหรัฐอเมริกา จีน ญี่ปุ่น มาเลเซีย สิงคโปร์ ฮ่องกง บรูไน ซาอุดิอารเบีย ลาว และกัมพูชา รวมทั้งมีการลงพื้นที่ตรวจราชการในต่างจังหวัดทุกสัปดาห์ แต่นายกรัฐมนตรีกลับไม่ให้ความสำคัญกับการสะท้อนปัญหาประชาชนผ่านกลไกของรัฐสภาที่มีการนัดหมายและแจ้งล่วงหน้าเพื่อให้เข้ามาชี้แจงปัญหาที่เกิดขึ้นในการบริหารราชการแผ่นดินที่ส่งผลกระทบกับวิถีชีวิตของประชาชน ทั้งนี้ เมื่อย้อนดูสถิติการตอบกระทู้ถามสดตั้งแต่ปี 2545 เป็นต้นมา พบว่า ในสมัยรัฐบาลนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เป็นนายกรัฐมนตรี มีการเข้ามาตอบกระทู้ถามสดด้วยตัวเองในสภามากที่สุด จำนวน 54 กระทู้ คิดเป็น 38.85% ของกระทู้ถามทั้งหมด ซึ่งเป็นสิ่งที่สะท้อนให้เห็นถึงความใส่ใจในการทำหน้าที่ของรัฐบาลที่มีความรับผิดชอบทั้งการบริหารราชการแผ่นดิน และรับผิดชอบต่อสภาผู้แทนราษฎรควบคู่กันไปด้วย
“การให้เกียรติเข้ามาตอบกระทู้ถามสดของสภา เปรียบเหมือนการให้เกียรติรับฟังปัญหาที่หลากหลายของพี่น้องประชาชนที่สะท้อนผ่านผู้แทนทั่วประเทศ อีกทั้งยังเป็นการแสดงให้เห็นว่า รัฐบาลใส่ใจรับฟังทุกปัญหาที่เกิดขึ้นจากการบริหารราชการแผ่นดิน และปัญหาที่กำลังเป็นที่สนใจของประชาชน แต่ปัจจุบัน รัฐบาลกลับเพิกเฉยและไม่ให้ความสำคัญกับการทำหน้าที่สะท้อนปัญหาของสภาผู้แทนราษฎร ทำให้หลายปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนถูกละเลยไปด้วย นี่จึงเป็นสิ่งที่รัฐบาลต้องปรับปรุง และรับผิดชอบต่อสภาให้มากขึ้น” นายร่มธรรม กล่าว