รมช.เกษตรฯ ขับเคลื่อนคลินิกเกษตรเคลื่อนที่ฯ ต่อยอดพระราชปณิธาน มุ่งหวังคนไทยกินดีอยู่ดี เน้นทำงานเชิงรุก เข้าถึงพื้นที่ แก้ปัญหาด้านการเกษตรอย่างครบวงจร
วันนี้ (20 ธ.ค.) นายอนุชา นาคาศัย รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวในโอกาสเป็นประธานพิธีเปิดงานโครงการคลินิกเกษตรเคลื่อนที่ในพระราชานุเคราะห์ สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร ไตรมาสที่ 1 ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 ณ โรงเรียนบ้านเสด็จพิทยาคม ตำบลบ้านเสด็จ อำเภอเคียนซา จังหวัดสุราษฎร์ธานี ว่า กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้ดำเนินโครงการคลินิกเกษตรเคลื่อนที่ในพระราชานุเคราะห์ฯ มีวัตถุประสงค์ เพื่อให้เกษตรกรในพื้นที่ห่างไกลสามารถเข้าถึงการบริการทางการเกษตร ได้รับการแก้ไขปัญหาด้านการเกษตรอย่างครบวงจร และสอดคล้องกับความต้องการของเกษตรกร ซึ่งมีการบูรณาการความร่วมมือกันระหว่างหน่วยงานวิชาการ หน่วยงานส่งเสริม ร่วมพัฒนาฟื้นฟูเกษตรกรให้สามารถทำการผลิตทางการเกษตรได้อย่างมีประสิทธิภาพและยั่งยืน โดยเป็นการปฏิบัติงาน ในเชิงรุกที่ทำให้เกษตรกรในพื้นที่เป้าหมาย ที่มีปัญหาได้รับบริการทางการเกษตร เช่น การวิเคราะห์ดิน การวินิจฉัยโรคพืช สัตว์ ประมง รวมถึงการถ่ายทอดเทคโนโลยีและฝึกอบรมความรู้การเกษตร เสริมเพิ่มเติมควบคู่ไปด้วย โดยเปิดให้บริการครั้งแรก เมื่อวันที่ 22 กรกฎาคม 2545 ณ ตำบลบ้านหลวง อำเภอดอนพุด จังหวัดสระบุรี และได้ดำเนินงานอย่างต่อเนื่องจนถึงปัจจุบันกว่า 22 ปี มาแล้ว
นายอนุชา กล่าวเพิ่มเติมว่า กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ มีภารกิจที่สำคัญด้านการวิจัยและพัฒนาพันธุ์เพื่อนำผลการวิจัยที่มีประโยชน์ถ่ายทอดความรู้สู่เกษตรกร ให้สามารถพัฒนาการผลิต และแก้ไขปัญหาการผลิตสินค้าเกษตรของตนเองให้มีประสิทธิภาพ และได้ผลผลิตที่มีคุณภาพ ซึ่งการจัดตั้งคลินิกเกษตรเคลื่อนที่ เป็นวิธีการดําเนินงานอย่างหนึ่ง ที่สามารถทำให้การบริการทางวิชาการและการถ่ายทอดเทคโนโลยีทางการเกษตรของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์บรรลุผลสําเร็จ โดยบูรณาการการทํางานระหว่าง นักวิชาการเกษตรของหน่วยงานต่างๆ ในแต่ละสาขา ทั้งด้านพืช สัตว์ และประมง พร้อมด้วย อุปกรณ์และเครื่องมือทางวิชาการด้านต่างๆ มาให้บริการในคลินิกเกษตร โดยสามารถเคลื่อนที่เข้าไปได้ถึงในระดับตําบล เพื่อให้เกษตรกรสามารถเข้ารับบริการทางการเกษตรได้อย่างถูกต้องครบถ้วนทุกด้าน
”ภารกิจที่สำคัญอีกอย่างหนึ่งของกระทรวงเกษตรฯ คือ การเดินหน้าขับเคลื่อนตามนโยบายด้านเกษตรของรัฐบาล ที่ต้องการนำพาเกษตรกรหลุดพ้นจากความยากจน ซึ่งต้องร่วมมือกันทุกภาคส่วน ส่งเสริม สนับสนุนองค์ความรู้ และเทคโนโลยีนวัตกรรมที่ทันสมัยให้เกษตรกรได้สร้างความเข้มแข็ง อีกทั้งสนับสนุนให้ลูกหลานไทยได้กลับมาทำอาชีพเกษตรในบ้านเกิด สร้างเม็ดเงินให้ชุมชน โดยไม่ต้องเป็นลูกจ้างแรงงานต่างถิ่น ทั้งนี้ ทุกฝ่ายต้องร่วมมือกันสานต่อพระราชปณิธานของในหลวงรัชกาลที่ 9 ที่ทรงมีพระราชปณิธานให้คนไทยกินอยู่ดี จึงต้องร่วมกันคิดใหม่ หาแนวทางต่อยอดปณิธาน สร้างชีวิตใหม่ ปั้นลูกหลานไทยให้มีรายได้ ด้วยอาชีพเกษตร เพื่อมีอนาคตมั่นคง คุณภาพชีวิตดีขึ้น“ รมช.อนุชา กล่าว
สำหรับกิจกรรมภายในงาน ประกอบด้วย การฝึกอบรมอาชีพด้านการเกษตร และเปิดให้บริการคลินิกเกษตรเคลื่อนที่ อาทิ คลินิกดิน คลินิกพืช คลินิกข้าว คลินิกปศุสัตว์ คลินิกประมง คลินิกชลประทาน คลินิกสหกรณ์ คลินิกบัญชี คลินิกกฎหมาย คลินิกส่งเสริมการเกษตร คลินิกอื่นๆ โดยมีหน่วยงานในสังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงมหาดไทย กระทรวงสาธารณสุข กระทรวงพลังงาน กระทรวงศึกษาธิการ กระทรวงพาณิชย์ ส่วนราชการในระดับท้องที่ท้องถิ่น ระดับอำเภอ และภาคเอกชน จำนวน 52 บูธ เกษตรกร/องค์กรเกษตรกร จำนวน 25 บูธ และผู้มารับบริการมากกว่า 600 ราย