“ภคมน” เตือนความจำ “อนุสรณ์” ใครเคยพูดหน้าที่รักษาองค์ประชุมเป็นของรัฐบาล ชี้หาก สส.รัฐบาลเข้าประชุมพร้อมเพรียง สภาไม่มีทางล่ม ยัน “ก้าวไกล” ทำหน้าที่ในสภาอย่างเต็มที่ พิจารณาเรื่องที่เป็นประโยชน์ต่อประชาชน
.
วันที่ 16 ธันวาคม 2566 น.ส.ภคมน หนุนอนันต์ รองโฆษกพรรคก้าวไกล กล่าวถึงกรณีอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีเหตุการณ์สภาล่มเมื่อวันที่ 13 ธ.ค. ที่ผ่านมา โดยตั้งคำถามเชิงกล่าวหาว่าพรรคก้าวไกลตั้งใจให้สภาล่มหรือไม่ เพราะ สส. แสดงตนแต่ไม่ลงมติ
น.ส.ภคมน กล่าวว่า เรียนคุณอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด มีโจทย์คณิตศาสตร์ง่ายๆ ที่เด็กประถมปลายน่าจะตอบได้ คือกึ่งหนึ่งขององค์ประชุมสภา 500 คน ที่ทำให้สภาไม่ล่มเท่ากับ 250 พรรคก้าวไกลมี สส. ทั้งสภาประมาณ 150 คน มีจำนวน สส. จากพรรคซีกรัฐบาลเกิน 300 คน หากสภาล่ม ต้องถามกลับไปยังรัฐบาลว่า ตกลงแล้วที่สภาล่ม เป็นเพราะ สส. ก้าวไกลล่มสภา หรือเพราะ สส. ฝ่ายรัฐบาล ขาดประชุมกันแน่
แน่นอนว่าหน้าที่ในการเข้าประชุมสภา เป็นหน้าที่ของ สส. ทุกคน และพรรคก้าวไกลก็ได้ทำหน้าที่นั้นอย่างไม่ขาดตกบกพร่องมาโดยตลอด ในวันที่ 13 ธ.ค. ที่เกิดเหตุการณ์สภาล่มนั้น เกิดขึ้นในการลงมติรับหลักการร่างข้อบังคับสภาก้าวหน้าที่พรรคก้าวไกลเสนอ เพื่อผลักดันประเด็นที่ก้าวหน้าหลายประการ อาทิ ตัดกลไกที่ทำให้การพิจารณากฎหมายล่าช้าโดยไม่จำเป็น, เพิ่มกระทู้ถามสดนายกรัฐมนตรี, ให้มีการถ่ายทอดสดการประชุมกรรมาธิการโดยเปิดเผย ซึ่งประเด็นเหล่านี้เป็นการผลักดันความก้าวหน้าของรัฐสภาในภาพรวม ไม่ใช่เป็นแค่ประเด็นของพรรคก้าวไกล
แต่สิ่งที่เกิดขึ้นน่าเสียดายว่า ในวันนั้น สส. พรรคร่วมรัฐบาลทุกพรรค กลับมุ่งสกัดสิ่งที่เราเสนอ พรรคก้าวไกลจึงจำเป็นต้องใช้สิทธิ์ไม่แสดงตนในขั้นลงมติรับหลักการ ทำให้เห็นว่าแม้จะเป็นวันพุธแรกที่เปิดสมัยประชุมสภา แต่จำนวน สส. รัฐบาล ก็ยังไม่เพียงพอที่จะรักษาองค์ประชุมได้
รองโฆษกพรรคก้าวไกล กล่าวต่อว่า วาระการพิจารณาร่างข้อบังคับดังกล่าว เป็นวาระพิจารณาเรื่องสุดท้ายของวัน แม้จะเป็นตราบาปของวิปรัฐบาลว่าไม่สามารถควบคุมองค์ประชุมจนสภาล่มตั้งแต่วันแรก แต่ก็ไม่กระทบวาระพิจารณาเรื่องอื่นๆ ที่ยังไม่มีต่อคิวพิจารณาในวันนั้น อีกทั้งในวันพฤหัสที่ 14 ธ.ค. ที่มีการพิจารณาร่างกฏหมายของประชาชน พรรคก้าวไกลให้ความร่วมมืออยู่ตลอดการประชุม ถึงแม้ว่าลำพังจำนวนองค์ประชุมของ สส. รัฐบาลจะไม่เพียงพอให้สภาไม่ล่มก็ตาม
“ไม่รู้ว่าดิฉันจำแม่นเกินไป หรือใครบางคนความจำเสื่อมก่อนเวลาก็ไม่ทราบ แต่ในชุดสภาที่แล้ว ในสมัยที่พรรคแกนนำรัฐบาลตอนนี้ยังเป็นฝ่ายค้านอยู่ ท่านชอบพูดอยู่เสมอว่าหน้าที่ในการรักษาองค์ประชุมเป็นของรัฐบาล แต่ไฉน ผ่านมาไม่ถึงปี หน้าที่รักษาองค์ประชุมกลายเป็นของพรรคฝ่ายค้านแล้วก็ไม่ทราบ” รองโฆษกพรรคก้าวไกล ระบุ
น.ส.ภคมน กล่าวว่า พรรคก้าวไกลเรายืนยันว่า ถ้าสิ่งที่พิจารณาในสภาเป็นประโยชน์ต่อประชาชน และ สส. ทุกคนทำหน้าที่ของตัวเองอย่างดีที่สุดแล้ว เราไม่มีเหตุผลอะไรที่จะทำให้สภาล่ม และถ้า สส. รัฐบาลมาประชุมโดยพร้อมเพรียงกันตามหน้าที่ที่ สส. พึงกระทำ ลำพังพรรคก้าวไกล 150 เสียง ไม่สามารถทำสภาล่มได้