ปชป.ยังไหลออกไม่หยุด “อานิก” ไปด้วย เผย ประชาธิปัตย์วันนี้ไม่ใช่พรรคที่ภูมิใจ ได้ยินแต่อยากร่วมรัฐบาลพันธุ์ทาง หวังสักวันหนึ่งจะกลับมาเป็นสถาบันควบคู่กับการเมือง ปชต.ของไทยได้อีก
วันนี้ (12 ธ.ค.) นางอานิก อัมระนันทน์ อดีต ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ลาออกจากสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ ระบุว่า ตนอาสาตัวเข้ามาช่วยงานพรรคประชาธิปัตย์หลังการเลือกตั้งปี 2548 เพราะต้องการเป็นอีกแรงหนึ่งที่ร่วมต้านระบอบทักษิณ ได้สมัครเป็นสมาชิกพรรคในวันเดียวกันหลังจากที่เข้ามาพบกับ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรค เป็นครั้งแรก ตนเข้ามาแล้วจึงได้มาอ่านอุดมการณ์พรรค อ่านแล้วรู้สึกประทับใจ และก็ประทับใจยิ่งขึ้นเมื่อได้สัมผัสผู้คนภายในพรรคที่ยืนอยู่ด้วยอุดมการณ์นั้น ได้รู้จักและร่วมงานกับหลายๆ ท่าน ตั้งแต่ ส.ส.และผู้สมัคร ที่แม้ความเข้มข้นในอุดมการณ์มีหลากหลายระดับ แต่ก็ยังมีความเป็นประชาธิปัตย์ จนถึงผู้หลักผู้ใหญ่ที่มีอุดมการณ์มั่นคง อาทิ อดีตหัวหน้าพรรค และหัวหน้าพรรคกับเลขาธิการในช่วงนั้น
นางอานิก ระบุต่อว่า พรรคนี้เป็นสถาบันและมีความเป็นประชาธิปไตยแม้จะมีเรื่องของการเมืองภายในบ้างเป็นธรรมดา ตนภาคภูมิใจที่เป็นส่วนหนึ่งของพรรคประชาธิปัตย์ ต่อมาก็ได้รับการคัดเลือกให้เป็นผู้สมัครในบัญชีรายชื่อและได้มีโอกาสทำงานในสภาผู้แทนราษฎร 2 สมัย (สมัยละ 2 ปี) ในการเลือกตั้งปี 2550 ตนช่วยหาทุนอย่างสบายใจ และมั่นใจว่าเรากำลังชวนผู้คนสนับสนุนพรรคการเมืองที่ดีที่สุด เป็นประชาธิปไตยทั้งภายในพรรคและในฐานะพรรคของนักการเมืองอาชีพ ไม่ใช่ธุรกิจการเมืองอย่างที่เห็นเป็นส่วนใหญ่ ตลอดช่วงเวลาที่ทำงานให้พรรค ตนได้ทุ่มเททั้งกายและใจ และทุ่มสุดตัวกับโครงการ “บอกต่อความจริง” หรือ ”WoM“ (Word of Mouth) ซึ่งมีสร้อยว่า “เดินหน้าประชาธิปไตย” ตนเห็นว่า เป็นการแสดงออกซึ่งอุดมการณ์ประชาธิปไตย เมื่อประชาธิปัตย์ประกาศจุดยืนไม่ร่วมกับพรรคที่สืบทอดอำนาจจากการรัฐประหาร ถึงแม้จะทำให้เสียคะแนนไปไม่น้อยในการเลือกตั้งปี 2562
“การเปลี่ยนแกนนำเมื่อวันที่ 9 ธันวาคม 2566 แสดงให้เห็นว่า ประชาธิปัตย์ลดความเป็นสถาบันลงไปมาก อีกทั้งมีเสียงพร่ำอยากร่วมรัฐบาลพันธุ์ทาง ที่มีทั้งพรรคของทักษิณและพรรคสืบทอดอำนาจรัฐประหารด้วย แม้อุดมการณ์ที่เขียนไว้จะยังอยู่ บุคคลากรที่มีอุดมการณ์ก็คงยังมีเหลืออยู่บ้าง แต่ประชาธิปัตย์ในปัจจุบันไม่ใช่พรรคการเมืองที่ดิฉันภาคภูมิใจที่จะเป็นสมาชิกเสียแล้ว พรรคประชาธิปัตย์อยู่มายาวนาน ผ่านวิกฤตมาบ้างแล้ว ก็หวังว่าสักวันหนึ่งจะกลับมาเป็นสถาบันควบคู่กับการเมืองประชาธิปไตยของประเทศไทยได้อีก” นางอานิก ระบุ