วันนี้(12 ธ.ค.)นายวิสูตร คำอินทร์ ประธานหอการค้าจังหวัดหนองบัวลำภู กล่าวถึงการประชุมคณะรัฐมนตรีสัญจร ที่ได้ลงพื้นที่จังหวัดหนองบัวลำภู ที่ผ่านมาว่า รู้สึกขอบคุณคณะรัฐมนตรีและนายกรัฐมนตรี ที่เล็งเห็นความสำคัญของจังหวัดหนองบัวลำภู ทั้งๆ ที่จังหวัดหนองบัวลำภู ถือเป็นจังหวัดที่มี GDP ต่ำสุด หรือเป็นจังหวัดที่มีรายได้ของประชาชนต่ำ หรือยากจนที่สุดในประเทศ ซึ่งการลงพื้นที่ของ ครม.ที่ผ่านมา ทำให้เกิดการตื่นตัวของทุกภาคส่วนรวมถึงงบประมาณจากภาครัฐที่จะตามมาด้วย โดยเฉพาะงบประมาณจากการสัญจร 100 ล้านบาทที่จะให้กลุ่มอีสานตอนบน ซึ่งภาคเอกชนและหน่วยงานรัฐได้ทำโครงการเสนอไป โดยมีเงื่อนไข คือ ต้องแล้วเสร็จภายใน 1 ปี และเป็นโครงการที่จะช่วยเรื่องการแก้ปัญหาความยากจน ยาเสพติด และต้องยกระดับคุณภาพชีวิตของคนในพื้นที่
ขณะเดียวกัน จังหวัดยังได้ปัดฝุ่นโครงการ โขง เลย ชี มูล ขึ้นมาเสนอต่อคณะรัฐมนตรี ด้วย เนื่องจากพื้นฐานของ จังหวัดหนองบัวลำภู 80% เป็นพื้นที่การเกษตร ประชาชนส่วนใหญ่จึงมีอาชีพเกษตรกรรม ไม่ว่าจะเป็นการปลูกอ้อย ข้าว หรือมันสำปะหลัง ดังนั้นสิ่งสำคัญที่สุดคือ แหล่งน้ำ โครงการ โขง เลย ชี มูล จึงจะเป็นการนำน้ำจากแม่น้ำโขงผ่าน จังหวัดเลย ส่งต่อมายังจังหวัดหนองบัวลำภู เพื่อช่วยเหลือพื้นที่การเกษตรในช่วงหน้าแล้ง
นายวิสูตร ในฐานะประธานหอการค้า จังหวัดหนองบัวลำภู ยังฝากถึงรัฐบาลให้ช่วยดูแลเรื่องปัญหาปากท้อง เรื่องการพัฒนาแหล่งท่องเที่ยว พร้อมทั้งขอบคุณรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม นายสุทิน คลังแสง ด้วยว่า โครงการหนองวัวซอโมเดล จังหวัดอุดรธานี เป็นโครงการที่ดี มีประโยชน์มาก อยากให้เกิดขึ้นกับ จังหวัดหนองบัวลำภูด้วย เนื่องจากจังหวัดมีพื้นที่ทหารเยอะ เชื่อว่าจะสามารถคืนที่ดินทหาร กลับมาให้ประชาชนได้ใช้ประโยชน์ และแก้ปัญหาเรื่องที่ทำกินได้ พร้อมกับช่วยสนับสนุนเครื่องจักรทหารในการขุดเจาะแหล่งน้ำเพื่อลดค่าใช้จ่ายให้กับชาวบ้านในพื้นที่ได้มีแหล่งน้ำใช้ในช่วงประสบภัยแล้ง
“เวลาไม่รบ ทหารเขาจะช่วยเหลือประชาชนทุกมิติอยู่แล้ว เราก็คาดหวังว่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม นาย สุทิน คลังแสง จะช่วยนำทหาร และเครื่องจักรทางการเกษตร มาช่วยพลิกฟื้นผืนดินของชาวบ้านใหม่ เพราะวันนี้ เรามองอย่างหนึ่งว่า ทหารมีเครื่องไม้เครื่องมือพร้อม เราอยากให้ทหารนำโดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม นำเครื่องจักร ช่วยประชาชน บูรณาการร่วมกับรัฐและท้องถิ่น มาขุดเจาะแหล่งน้ำ เป็นบ่อขนมครก เป็นสระ เป็นห้วย ได้หมด ประชาชนจะไม่มีค่าใช้จ่าย พอช่วงหน้าแล้งเค้าไปใช้น้ำที่เราขุดให้ ก็สบายแล้ว และถ้ามีน้ำเกษตรกรก็สามารถผลิตข้าวได้ ปีละ 2 ครั้ง” นายวิสูตร กล่าว