วันนี้(12 ธ.ค.)นายนิติพล ผิวเหมาะ สส.แบบบัญชีรายชื่อ เครือข่ายภาคเหนือ พรรคก้าวไกล กล่าวว่า ยิ่งนานวันยิ่งสะท้อนตัวตนและรูปแบบการบริหารประเทศของรัฐบาลเศรษฐาว่าไม่มีอะไรแตกต่างจากรัฐบาลประยุทธ์ คือ ชอบเล่นใหญ่เสียงดัง แต่ไม่สามารถแก้ปัญหาตามที่สั่งการได้เลย จากนั้นก็ปล่อยเบลอเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ดังที่เห็นได้ชัดไม่ว่ากรณีหมูเถื่อน ตั๋วตำรวจ หรือแม้แต่กรณีปัญหาจากฝุ่น PM2.5
นายนิติพล กล่าวถึงปัญหาฝุ่นขณะนี้ว่า พอหมดหน้าฝนเข้าสู่หน้าหนาว อากาศเริ่มปิด แต่การเผาทางการเกษตรยังคงดำเนินต่อไปกลายเป็นฝุ่นพิษข้ามพรมแดน ที่ขณะนี้กำลังลอยมาตามฤดูกาล จริงอยู่ที่ปัญหานี้แก้ไม่ง่าย แต่รัฐบาลเศรษฐาบริหารงานมาแล้วกว่า 100 วัน จึงมีเวลาเตรียมรับมือพอสมควร แต่สิ่งที่เกิดขึ้น นอกจากไม่เห็นมีมาตรการอะไรออกมาให้ปอดได้รู้สึกได้โล่งบ้างแล้ว ยังแต่งตั้งบุคคลที่เคยมีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับยักษ์ใหญ่ทางการเกษตรที่เกี่ยวข้องกับการเผาเป็นผู้รับผิดชอบปัญหา
เมื่อเป็นเช่นนี้จึงไม่น่าแปลกใจ พอเข้าสู่ช่วงอากาศปิด ฝุ่นควันก็เกิดขึ้นทันที นายกฯ ก็ทำตัวลอยเหนือปัญหา รอเปลี่ยนฤดูผ่านไปอีกปี บริหารวิกฤตฝุ่นแบบนี้แทบไม่มีอะไรต่างจากรัฐบาลก่อนเลย
ส่วนแนวทางการแก้ปัญหาฝุ่น PM2.5 คณะกรรมาธิการของสภาฯ เคยศึกษาและมีข้อเสนอส่งไปที่รัฐบาลแล้วตั้งแต่สมัยรัฐบาลประยุทธ์ ทุกข้อเสนอยังใช้งานได้ เพราะบริบทของปัญหายังเหมือนเดิม หากรัฐบาลมีความตั้งใจและจริงใจในการแก้ปัญหานี้ ก็อยากให้นำไปใช้แล้วรีบออกมาประกาศมาตรการแก้ปัญหาให้ชัดว่าสิ่งที่จะทำมีอะไรบ้าง ทั้งมาตรการทำทันที รวมถึงมาตรการระยะกลางและระยะยาว เพื่อให้ประชาชนพอได้มองเห็นเป้าหมายบ้าง ไม่ใช่ปล่อยให้ทนและต้องดิ้นรนเอาตัวรอดกันเองต่อไปแบบในขณะนี้